"ฟิล์ม" เผยชีวิตต่างแดนผ่านเรียลลิตี้เตรียมออกอากาศกลางเดือนพ.ค. รับ "เจนี่" บินไปหาที่อังกฤษ แต่ไม่รู้ทำไมฝ่ายหญิงถึงบอกว่าไม่ได้เจอกัน แต่ยืนยันสัมพันธ์แค่เพื่อน
กลับมาถึงเมืองไทยได้แค่วันเดียว "ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์" ก็ไปบวงสรวงเปิดกล้องละคร "บันทึกรักซูเปอร์สตาร์" และกลางเดือนนี้ก็จะมีเรียลลิตี้เกี่ยวกับใช้ชีวิตที่ต่างประเทศของตนเอง ออกอากาศช่อง 8 อินฟินิตี้ โดยฟิล์มได้เปิดใจถึงการกลับมาครั้งนี้ การใช้ชีวิตในต่างแดน รวมไปถึงรับว่าไปเจอกับ "เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ" ที่อังกฤษจริงเหมือนที่ร่ำลือกัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เจนี่ปฏิเสธหัวชนฝา
"พอกลับมาก็คุยกับเฮียฮ้อว่า ผมกลับมาแล้วนะครับ เฮียก็บอกว่าตอนนี้อยู่อเมริกาและก็จะกลับมาวันจันทร์ เราก็นัดเจอกันเรียบร้อยแล้วครับ ก็เหมือนเดิมครับเข้าไปกราบหน่อยครับ ผมกลับมาผมก็กราบพ่อแม่ผมแล้วและพ่อแม่คนที่สองก็คือเฮียฮ้อ"
"เฮียก็บอกให้ระวังในการใช้ชีวิตต่อไป เพราะว่าเฮียก็เป็นห่วงผมเสมอและในสายตาเฮียผมก็เป็นเหมือนลูกคนหนึ่งและเขา ก็เหมือนพูดเตือนลูกคนหนึ่ง ก็กลับมาแล้วไปเรียนและได้บวชแล้ว ก็กลับมาทำให้แฟนๆ รักให้มากขึ้นกว่าเดิม"
"ผมก็รู้ครับว่าเรื่องนั้นมันไม่จบลงง่ายๆ แต่โดยส่วนตัวผมทุกเรื่องจบแล้วผมก็ไม่ได้มีอะไร แต่ว่าสิ่งที่ผมอยากรู้ทุกๆ คนก็อยากจะรู้ว่า คือของใครกันแน่และในสิ่งเหล่านี้โดยส่วนตัวผมไม่ได้ปิดอยู่แล้ว และแฟนๆ คนที่รักผม ประชาชนเขาก็อยากจะรู้กันหมด ครอบครัวผมก็อยากจะรู้และผมก็อยากจะรู้ ผมก็รอให้ถึงวันนั้นครับ เพราะว่าความจริงก็คือความจริง เราไม่สามารถหนีตรงนี้ได้ แต่ผมก็ไม่รู้และไม่สามารถตัดสินใจได้และก็ไม่ สามารถไปบังคับให้เขาตรวจได้ก็ขึ้นอยู่กับศาล"
เผยเตรียมนำชีวิตในต่างแดนมาทำเรียลลิตี้ ออกอากาศกลางเดือนพฤษภาคม
"ก็จะเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตของเด็กคนหนึ่งที่มีความฝันจะไปเรียนที่ต่าง แดนครับ แล้วก็สะท้อนมุมมองออกมาให้ทุกคนเห็นว่า ทุกคนย่อมมีความฝันหมดว่าอยากไปเรียนเมืองนอก อยากไปเรียนต่างแดน และทุกคนก็คิดว่าทำไมไปอยู่แล้วต้องไปล้างจานต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในร้านอาหาร สังคมคนไทยทำไมจะต้องถูกดูถูกในต่างแดน เป็นการสะท้อนให้เห็นหมดเพราะว่าผมเจอมาหมดเลยครับ แล้วผมก็แอบถ่ายมาทุกวิถีทางครับ ถูกจับก็โดนแล้ว จะได้เห็นกันหมดอยู่ในรายการวันแมนโชว์ ช่อง 8"
"ก็จะมีกล้องตามผมตลอด เห็นภาพตอนหลุดบ้างไม่หลุดบ้าง บางทีก็ต้องมีการเอาเสียงออกไปบ้างเพราะมีคำหยาบ มันกดดันทุกอย่างเลยครับ ไปอยู่ที่นั่นผมไม่มีแก๊งคนไทยเลยครับ เพราะผมมีเวลาเรียนน้อยและผมก็ได้ปฏิญาณกับตัวเองไว้ว่า ยิ่งผมมีสังคมไทยเท่าไรผมก็ยิ่งไม่พัฒนาทางภาษาของผมมากขึ้นเท่านั้น เพราะว่าการเรียนในห้องเรียนพูดตรงๆ ว่า ได้น้อยมากผมก็เลยอาศัยการหาเพื่อนฝรั่งดีกว่า"
"แรกๆ เขาก็ไม่รู้หรอกเราเป็นใคร แต่เขาก็สงสัยว่าทำไมคนนี้มีกล้องเดินตามตลอดเลย แรกๆ ผมก็อายแต่เขาคงสงสัยถ้าผมบอกว่า ผมเป็นดาราซูเปอร์สตาร์ไทยแลนด์ บางคนก็คงจะสงสัยว่าซูเปอร์สตาร์อะไรไม่มีคิ้ว ผมก็ไม่มี เพราะตอนแรกผมก็โดนแซวตลอดว่า ผมเป็นโรคหรือเปล่าเพราะว่าผมใส่หมวดและเดิน เหมือนคนไม่ค่อยมีความมั่นใจครับ"
"พอตอนหลังผมก็บอกว่าผมเป็นดาราเขาก็ดีใจกัน เขาก็ถามว่า ทำไมผมต้องมีกล้องผมก็บอกผมทำงานถ่ายทำเกี่ยวกับชีวิตของตัว เองอยู่ เขาก็จะเข้ามาถามและผมก็เริ่มที่จะมีเพื่อนมากขึ้นและก็เริ่มใช้ชีวิตใน สังคมของเขา บางทีผมก็ไปนอนบ้านเพื่อน ตื่นมาพูดคุยกันบางทีเขาก็มานอนบ้านผมครับ ก็จะเป็นแก๊งผู้ชายทั้งหมดเลยครับ คิดว่าไม่น่าจะเกินประมาณกลางเดือนนี้น่าจะได้ดูแล้วครับ"
ส่วนเรื่องที่ "ฟิล์ม" ยอมรับว่าเจอกับ "เจนี่" ที่อังกฤษ ในขณะที่เจนี่กลับให้สัมภาษณ์ว่าไม่เคยเจอนั้นฟิล์มบอกว่า
"ผมยังไม่ได้คุยกับเขาเรื่องนี้เลยครับ แต่ถ้ามีโอกาสเดี๋ยวก็คงจะคุยกันเพราะว่าเราก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันและก็ไม่เคยทะเลาะกัน ส่วนที่เขาให้สัมภาษณ์ ผมว่าในส่วนตรงนั้นเจนี่เขาอาจจะตอบอีกอย่างหนึ่ง บางทีคนเขียนอาจจะ เขียนออกมาต่างกัน ผมก็ไม่รู้แต่ถามว่าผมเจอกันไหมผมก็เจอกันครับ"
"ก็ไม่รู้ครับว่าทำไมต้องบอกว่าไม่เจอ ตรงนั้นผมไม่รู้จริงๆ ครับ แต่ผมว่าเหตุผลทุกอย่างเจนี่เขาน่าจะมีคำตอบที่ดีให้กับทุกคนครับ เพราะว่าเราก็ไม่ได้มีอะไรที่จะต้องปิดบังครับ เพราะเขาก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีของผมและผมก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีของเขาเหมือนกัน"
"วันนั้นเขาไปงานของพอลล่ากับแฟนครับแล้วก็ไปเจอกัน เขาก็รู้ว่าผมเรียนอยู่ที่นั่น จริงๆ ก็เจอกันเหมือนเพื่อนเจอกัน ถามว่านัดคุยกันไหม ก็ต้องคุยกันครับ คนรู้จักกันเราจะมากระแสจิตใส่กันก็ไม่ใช่"
นอกจากจะมีข่าวว่าแอบนัดเจอกับ "เจนี่" แล้ว ก็ยังมีข่าวว่าขณะที่อยู่อังกฤษนั้น "ฟิล์ม" ไปจีบสาวไทยคนหนึ่ง
"จริงๆ ผมว่าต่างคนก็ต่างพูดครับ คืออังกฤษคนไทยก็อยู่เยอะครับ บางทีก็อาจจะเห็นว่าผมเข้าร้านอาหารไทยไปกินข้าวก็พูดคุยกับคนไทยก็อาจจะมีเอาไปพูดกันบ้าง ผมก็ไม่ได้สนใจก็ยินดีด้วยซ้ำไม่มีอะไร"
"แต่ถ้ามีความรักก็เปิดเลยครับ เพราะว่าผมโตแล้วครับและกลัวด้วยผมอยากทุ่มเทให้คนที่เขารักผมครับ ที่ผ่านมาผมอาจจะให้กับตัวเองเยอะไปหน่อยครับ แต่ว่าตอนนี้ผมต้องให้คนอื่นบ้างแล้วเพราะว่าเขาให้ผมเยอะมากจริงๆ เมื่อวานผมกลับมาผมก็รู้แล้วว่า ผมควรจะให้ใคร ดูแฟนๆ สิครับเต็มสุวรรณภูมิเลยผมตกใจเลย"
ที่มา: manager.co.th