แอลจีอิเล็กทรอนิกส์ (LG Electronics) ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถืออันดับ 3 ของโลกสัญชาติกิมจิประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกของปี (มกราคม-มีนาคม 54) ว่าขาดทุนยับเยิน 15,800 ล้านวอน หรือประมาณ 438 ล้านบาท โยนความผิดให้ธุรกิจจำหน่ายโทรทัศน์และโทรศัพท์มือถือที่มียอดจำหน่ายลดลง
ตัวเลขขาดทุนสุทธิ 1.58 หมื่นล้านวอนของแอลจีในไตรมาสนี้ถูกนำไปเปรียบเทียบกับผลประกอบการไตรมาสเดียวกันในปี 2010 ซึ่งแอลจีสามารถทำกำไรสุทธิ 6.74 แสนล้านวอน โดยตามสถิติ การขาดทุนของแอลจีในไตรมาสนี้เป็นการขาดทุนต่อเนื่องในไตรมาสที่ 2 ต่อจากไตรมาสสุดท้ายในปี 2010 ที่ผ่านมา
ผลประกอบการของแอลจีผิดจากคำคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ที่มองว่าแอลจีจะสามารถทำกำไรได้บ้างในไตรมาสที่ผ่านมา โดยปรากฏว่ากำไรจากการดำเนินงานของแอลจีมีมูลค่าลดลงถึง 73% เหลือ 1.30 แสนล้านวอน จาก 4.81 แสนล้านวอน เฉพาะยอดขายนั้นมีมูลค่าลดลง 0.4% อยู่ที่ 13.2 ล้านล้านวอนตลอด 3 เดือนของปี 2011
แอลจียอมรับว่าปัญหาหลักมาจากส่วนธุรกิจโทรศัพท์มือถือ เพราะช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แอลจีไม่สามารถเปิดตัวสมาร์ทโฟนขึ้นมาแข่งขันกับผู้นำในตลาดอย่างแอปเปิลหรือซัมซุงได้ โดยสายผลิตภัณฑ์ตระกูล Optimus ซึ่งแอลจีเตรียมมาสู้ศึกสมาร์ทโฟนนั้นจะสามารถเริ่มออกศึกกู้สถานการณ์ในไตรมาสปัจจุบัน (เมษายน-มิถุนายน)
ข้อมูลระบุว่า แอลจีขาดทุนในส่วนธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ต่อเนื่องติดต่อกันถึง 4 ไตรมาสแล้ว แต่โชคดีที่มีกำไรส่วนธุรกิจโทรทัศน์และเครื่องใช้ไฟฟ้ามาช่วยพยุงไว้ อย่างไรก็ตาม สินค้ากลุ่มความบันเทิงเช่นโทรทัศน์ของแอลจีนั้นลดลง 4.8% ในไตรมาสที่ผ่านมา ทำให้ภาพรวมผลประกอบการแอลจีในไตรมาสนี้ดำดิ่งกว่าทุกไตรมาส
กลุ่มธุรกิจที่แอลจีสามารถทำได้ดีในไตรมาสนี้คือเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เช่น ตู้เย็น แอลจีระบุว่าสามารถทำได้เพิ่มขึ้น 13.4% ตามความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในประเทศอย่างรัสเซียและอินเดีย
แอลจีประกาศผลประกอบการไตรมาสต้นปี 2011 ในเวลาไล่เลี่ยกับการประกาศซื้อสิทธิ์การพัฒนาหน่วยประมวลผลหรือซีพียูจากบริษัท ARM สัญชาติอังกฤษ ซึ่งจะทำให้แอลจีสามารถพัฒนาหน่วยประมวลผลด้วยตัวเองได้ จุดนี้จะทำให้แอลจีมีช่องทางแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่สามารถผลิตซีพียูของตัวเอง เพราะที่ผ่านมา แอลจีต้องใช้ซีพียูจากผู้ผลิตรายอื่นจนไม่สามารถสร้างความต่างให้โทรศัพท์แบรนด์แอลจีได้
ไม่เพียงโทรศัพท์มือถือ การซื้อสิทธิ์พัฒนาซีพียูจาก ARM ของแอลจียังอาจทำให้แอลจีมีภาษีที่ดีขึ้นในการแข่งขันในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ เพราะเทคโนโลยีเหล่านี้อาจถูกใช้ในอุปกรณ์เช่น ทีวี แท็บเล็ต และอุปกรณ์รับสัญญาณโทรทัศน์เซ็ตท็อปบ็อกซ์ ซึ่งยังต้องรอดูผลงานของแอลจีต่อไป
Company Related Link :
LG
ที่มา: manager.co.th