เอเซอร์ชิงเปิดตัวแท็บเล็ต ICONIA ตัดหน้าไอแพดที่จะเปิดตัวต้นเดือนพฤษภาคมนี้ ครึ่งปีหลังแบรนด์ดังทยอยเปิดตัวแท็ตเล็ต มั่นใจ โมเดลที่หลากหลาย บริการหลังการขาย และวาร์ไรตี้ของแพลตฟอร์มโดนใจตลาดไทย
นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า เวลานี้ ทิศทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในตลาดไอที ไม่ได้มาบริษัทผู้ผลิตสินค้าอีกต่อไป ผู้บริโภคคือ ผู้กำหนดความต้องการและชี้นำการพัฒนาทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ รวมถึงคอนเทนต์ด้วย ว่าจะต้องตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างไร เอเซอร์จะเป็นผู้ทำหน้าที่ในการตอบสนองความต้องการ การเข้าถึงคอนเทนท์ที่อยู่บนหลากหลายแพลตฟอร์มด้วยอุปกรณ์ต่างๆ เช่น แท็บเลต ทัชบุ๊กและสมาร์ทโฟน
โดยเฉพาะทัชสกรีน เทคโนโลยี เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการใช้อย่างกว้างขวางมากขึ้น ซึ่งเอเซอร์มั่นใจว่าแท็บเล็ตของเอเซอร์ ICONIA จะเติมเต็มและตอบโจทย์ทุกความต้องการ โดยเราตั้งเป้าหมายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มแท็บเล็ตจะช่วยเพิ่มยอดขายโดยรวมของโน้ตบุ๊กเอเซอร์ขึ้นประมาณ 20% ภายในสิ้นปีนี้
“เชื่อว่าครึ่งปีหลังจะเห็นมีการเปิดตัวแท็บเล็ตในเมืองไทยจากหลายๆ แบรนด์ ซึ่งคงจะเร็วไปที่จะบอกว่า ขนาดตลาดจะมีแค่ไหน แต่เชื่อว่าจะเห็นมีคนถือแท็บเล็ตไปใข้งานกันมากขึ้น”
นายบุญชัย เงาวิศิษฎ์กุล รองผู้อำนวยการ ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์ บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวเสริมว่า เทรนด์การใช้งานอุปกรณ์สื่อสารจะเป็นการผสมผสานการใช้หลากหลายอุปกรณ์ตามความสะดวก มากกว่าการเลือกใช้อุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่ง เพราะผู้บริโภคมีการใช้งานอุปกรณ์การสื่อสารมากกว่าหนึ่งเครื่อง อีกทั้งพฤติกรรมการบริโภคข้อมูลจะเป็นดิจิตอลมัลติมีเดียเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความบันเทิง ใช้งานทางธุรกิจ
จุดเด่นของ ICONIA นั้นอยู่ที่เทคโนโลยีมัลติทัช รองรับการใช้งานด้านความบันเทิง และโซเชียล เน็ตเวิร์ก โดยผู้ใช้จะได้รับสิทธิประโยชน์เหนือใครด้วยเทคโนโลยี Clrae.fi หนึ่งเดียวที่มีในผลิตภัณฑ์ของเอเซอร์เท่านั้น ที่จะช่วยให้การแบ่งปันข้อมูลที่เก็บไว้ในรูปแบบดิจิตอลทั้งภาพ หนัง หรือ เพลง ต่างเครื่องทั้งคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โน้ตบุ๊ก เน็ตบุ๊กและสมาร์ทโฟนทำได้อย่างง่ายดาย พร้อมรองรับการอัปโหลดโซเชียลเน็ตเวิร์กได้ทุกที่ ทุกเวลา
นายนิธิพัทธ์ กล่าวต่อว่า ต้องยอมรับว่า ไอแพดได้ให้ความรับรู้ต่อตลาดได้เป็นอย่างดี แต่ด้วยจุดแข็งของเอเซอร์ในเรื่องของความหลากหลายในสเปกไม่ว่าจะเป็นเรื่องของซีพียู หน่วยความจำ ความจุข้อมูล ที่ให้ผู้บริโภคได้เลือกใช้งาน โดยเฉพาะความรวดเร็วในการนำสินค้าเข้าสู่ตลาด ซึ่งจะเร็วกว่าของไอแพดที่มีเพียงโมเดลเดียวทำตลาดทั้งปี ซึ่งคาดว่า แท็บเล็ตของเอเซอร์จะมีการปรับเปลี่ยนไม่เกิน 6 เดือน
อีกสิ่งที่หนึ่งที่จะเป็นจุดเด่นของแท็บเล็ตเอเซอร์ก็คือ การรับประกันสินค้าที่ทางเอเซอร์มีศูนย์บริการอยู่ทั่วประเทศ รวมไปถึงความต่อเนื่องของผลิตภัณฑ์ที่เอเซอร์มีตั้งแต่คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โน้ตบุ๊กคอมพิวเตอร์ เน็ตบุ๊ก และสมาร์ทโฟน ซึ่งเอเซอร์มั่นใจว่า จะเป็นจุดที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจและจะเป็นจุดพลิกของตลาดไอทีในอนาคตด้วย
“ผมว่า ตลาดเน็ตบุ๊กยังคงมีตลาดของตัวเองอยู่ โดยอาจจะปรับราคาลงมาเพื่อเป็นทางเลือกให้กับความต้องการของผู้บริโภคที่ยังต้องการพิมพ์งานด้วยคีย์บอร์ด เพียงแต่ว่า ขนาดตลาดอาจจะเล็กลงแต่ยังไม่ถึงกับตาย”
ทั้งนี้ ICONIA Tab A500 ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 3.0 (Honeycomb) ขนาดหน้าจอ 10 นิ้ว ใช้หน่วยประมวลผล NVidia Tegra 2 Dual Core 1 GHz ความละเอียดหน้าจอ 1280x800 พิกเซล กล้องหลักความละเอียด 5 ล้านพิกเซล กล้องหน้า ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล วางจำหน่ายในราคา 17,900 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เช่นเดียวกับ ICONIA Tab W500 ที่ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7
ที่มา: manager.co.th