“กบ สุวนันท์” ผ่าคลอดเหตุรกเกาะต่ำ ได้ลูกสาว “น้องปุณณดา” น้ำหนัก 3.020 กรัม ด้าน “บรู้ค” บอกสุดเห่อลูกคนแรก เผยกบจะเลี้ยงลูกเองยังไม่แน่ว่าจะรับงานในวงการบันเทิงต่อหรือไม่
กลายเป็นคุณแม่ซะแล้วสำหรับนางเอกยอดนิยม “กบ สุวนันท์ คงยิ่ง” นางเอกช่อง 7 ที่เข้าผ่าตัดคลอดลูกที่โรงพยาบาลสมิติเวชเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยมี “บรู้ค ดนุพร ปุณณกันต์” สามีคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งบรู้คก็ได้เปิดแถลงข่าวดีว่า ได้ลูกสาวน้ำหนักตัวถึง 3020 กรัมเลยทีเดียว
"ก็ขอบคุณทุกคนที่มาเยี่ยมนะครับ เมื่อเช้านี้น้องกบได้คลอดลูกประมาณ 8 โมงกว่าๆ น้ำหนัก 3020กรัม แต่ว่าตอนแรกน้องกบมีกำหนดคลอด 5 พฤษภาคมแต่ว่ามีปัญหาเรื่องของรกเกาะต่ำก็เลยทำให้ลูกไม่กลับหัว ถ้าปล่อยต่อไปก็อาจจะทำให้เลือดออกและอันตรายได้ทั้งแม่และลูก หมอก็เลยขอที่จะผ่า จริงๆ ก็ยังไม่ถึงเวลาซักเท่าไหร่ แต่เกรงเรื่องความปลอดภัยของแม่และลูกก็เลยตัดสินใจผ่าเมื่อตอนเช้า"
"ตอนนี้น้องกบก็แข็งแรงครับ แต่อย่างที่บอกครับว่าเด็กไม่ได้กลับหัว เด็กก็ออกมาในท่าก้น เพราะฉะนั้นแผลผ่าตัดก็จะใหญ่ ตอนนี้น้องกบก็เลยนอนพักผ่อน ก็ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ ตอนผ่าไม่ได้วางยาสลบใช้ยาบล็อกหลังตั้งแต่หน้าอกลงไป"
"ได้ลูกสาวก็ดีใจครับสมใจครับเพราะอยากได้ลูกสาว ส่วนน้องกบเขาก็ตามใจ ส่วนคนที่ 2 จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้ และก็โล่งใจด้วยเพราะว่าเป็นห่วงเรื่องสุขภาพ เพราะเราทำอัลตร้าซาวน์มา 3 เดือน คุณหมอก็แจ้งว่ารกค่อนข้างต่ำ ก็เกรงว่าถ้าจะคลอดเองก็จะเสียเลือด เพราะฉะนั้นเราก็เตรียมขั้นตอนทุกอย่างก่อนที่จะคลอดประมาณ 2 อาทิตย์ผมก็ได้มาให้เลือดตัวเองทิ้งไว้"
เผยตอนแรก "กบ" ตั้งใจจะคลอดเอง
"ตอนแรกน้องกบตั้งใจจะคลอดเองครับ กำหนดคลอด 5 พฤษภาคม แต่คุณหมอบอกว่าหลังวันที่ 15 เมษายนไปแล้วอยากจะขอผ่าเพราะมีปัญหาเรื่องรก และเกรงว่าถ้ามดลูกเปิดจะเสียเลือดจะมีปัญหา น้องกบไม่เครียดหรอกครับแต่คุณพ่อของผมกังวลเพราะคุณพ่อเป็นหมอ ก็กังวลว่าจะมีปัญหาไหม เราก็ได้คุยกับคุณหมอมาโดยตลอด ก็คุยว่าจะผ่าเมื่อเช้าวันนี้"
"กบ" ร้องไห้รู้สึกกลัวที่จะต้องเข้าห้องผ่าตัด
"น้องกบร้องไห้ ร้องไห้ตั้งแต่ลงลิฟท์จะเข้าห้องผ่าตัดแล้วเพราะกลัว ผมก็เข้าไปในห้องคลอดแต่ไม่ได้อยู่ตลอด เพราะถ้าคลอดเองเขาจะอนุญาติให้คุณพ่อเข้าไปได้ แต่พอผ่าเนี่ยเราก็ดูตอนบล็อกหลังและคุณหมอก็ทำความสะอาดเตรียมที่จะลงมีด ผมก็ออกมารอข้างนอกเพราะมีคุณหมอเยอะ ทั้งหมอดมยา หมอเด็ก หมอสูติฯ"
"ผมได้อุ้มลูกแล้วครับ ถามว่าหน้าตาเป็นยังไง ผมว่าเขายังเด็กก็หน้าคล้ายๆ กันเกือบหมดแหละครับ(หัวเราะ) ตอนออกมาผิวเขาจะเหี่ยวหน่อยเพราะอยู่ในน้ำ พอออกมาแล้วผิวเขาก็เริ่มสดใสขึ้น พยาบาลก็ลองเอาไปให้น้องกบป้อนอาหารและให้นมดู น้องกบเขาก็ดีใจ ผมก็เป็นห่วงน้องกบเพราะรู้ว่าเขาเจ็บแล้วก็(น้ำตาซึม) เป็นห่วงครับเพราะน้องกบไม่เคยผ่าตัดใหญ่ แต่ตอนนี้ต้องมาผ่าตัด ผมก็กลัวเรารับทราบข้อมูลมาตั้งแต่แรกว่า รกเกาะต่ำมันอันตราย เด็กที่อยู่ในท่านั่งที่เอาขาออกมาก่อน มันจะไม่ปลอดภัยเหมือนกับเด็กที่เอาหัวออกมาอยู่แล้ว คุณหมอก็จะบอกความเสี่ยงไว้แล้วว่า ถ้าทำแบบนี้จะมีความเสี่ยงกี่เท่า ถ้าแบบนี้จะมีความเสี่ยงกี่เท่า ก็ค่อนข้างกังวล ก่อนเข้าห้องผ่าตัดก็บอกเขาว่า อยู่ตรงนี้นะ เดี๋ยวจะพาลูกมาให้ดูหน้า"
"ตอนนี้ตั้งชื่อแล้วครับชื่อน้องปุณณดาเป็นคำผสมระหว่างนามสกุล ชื่อผมมี ด. ก็เอา ด. มา แล้วก็มีชื่อคุณแม่ด้วยดาริกา ก็เลยเอาชื่อคุณแม่มาเป็นสุดท้าย ก็เลยกลายเป็น ปุณณดา ปุณณกันต์ น้องกบเป็นคนตั้งเองก็ไปขออนุญาตคุณแม่ผม ขอเอาชื่อคุณย่ามาต่อท้าย ตอนนี้ลูกอยู่ในห้องปลอดเชื้อไม่ได้อยู่ในตู้อบ เด็กแข็งแรงสมบรูณ์ดี แต่คงต้องอยู่ที่นี่อีกหลายวันต้องรอดูก่อนว่าจะตัวเหลืองหรือไม่เหลือง ก็ต้องรอดูว่าคุณหมอจะอนุญาตให้กลับบ้านวันไหน"
เผยครอบครัวของ "บรู้ค" ค่อนข้างเป็นห่วง มาถึงโรงพยาบาลตั้งแต่เช้า
"คุณพ่อคุณแม่ผมมาถึงโรงพยาบาลตั้งแต่ 7 โมงเช้า และก็มานั่งเฝ้าอยู่ห้องผ่าตัด พึ่งไปทำงานเมื่อตอนเที่ยงๆ บ่าย ๆ ส่วนคุณแม่ลางานก็มาเฝ้าน้องกบอยู่ คุณแม่ผมเขาก็เห่อครับเพราะเป็นลูกของผมคนแรก แต่เป็นหลานคนที่ 5 ของบ้านคงไม่ได้เห่อ คุณแม่บอกว่าปากเหมือนผม แต่ช่วงบนหน้าผากเหมือนน้องกบ ตอนนี้ผมยังไม่ได้เตรียมอะไรให้ลูกเลยเพราะลูกของเยอะ แต่คงต้องหาเตรียมให้น้องกบ ก็ยังไม่ทราบเลยครับว่าจะให้อะไร แต่เดี๋ยวต้องไปหาก่อนว่าจะให้อะไรเขาสงสารเขา"
"กบ" อยากเลี้ยงลูกเอง
"น้องกบอยากจะเลี้ยงลูกเอง ผมก็ค่อนข้างงานเยอะเพราะกำลังจะยุบสภา แต่ก็คงต้องผลัดเปลี่ยนกันเลี้ยงลูกเพราะเราอยู่กันสองคน ก็คุยกันไว้ว่าเสาร์อาทิตย์จะให้คุณแม่ผมมาช่วยเลี้ยง และให้ทางคุณแม่น้องกบมาช่วยเลี้ยงด้วย ด้านคุณแม่ผมก็เตรียมห้องที่บ้านไว้แล้ว คือเป็นการเตรียมไว้ก่อน ถ้าอยากเลี้ยงเองก็เลี้ยง แต่ถ้าเลี้ยงไม่ไหวก็กลับมาที่บ้านคุณแม่จะช่วยเลี้ยง"
"ส่วนงานในวงการบันเทิงของกบยังไม่ทราบว่าจะยังไง คงต้องไปถามเจ้าตัวเขาเอง แต่ก่อนที่จะคลอดก็มีงานติดต่อเข้ามาเยอะเป็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับคุณแม่ทั้งหลาย แต่น้องกบเหนื่อยเพราะมีเรื่องของรกที่ไม่ปกติ คุณหมอจะขอร้องว่าห้ามเดินให้นอนเยอะ ๆ ห้ามเดินช็อบปิ้งห้ามไปอะไรที่ไม่จำเป็นก็เลยไม่ได้รับงาน แต่ไม่ทราบว่าเมื่อคลอดและโอเคแล้วเขาจะรับหรือเปล่า แต่ผมเชื่อว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่เขาอยากจะให้เวลากับลูก เพราะเขาบอกจะเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมเขาเอง จะเลี้ยงจนไม่มีน้ำนมให้"
ด้าน “นางดาริกา ปุณณกันต์” ของ “บรู้ค” ก็เปิดเผยว่า....
"ไม่ใช่หลานผู้หญิงคนแรกค่ะ เป็นหลานยายผู้หญิง 2 คนแล้ว และคนนี้เป็นหลานคนที่ 5 ก็ดีใจค่ะที่ได้หลานเพิ่มอีกคน วันนี้ก็ลางานมาเพราะว่าควรจะมาดูว่าหลานเป็นยังไงครบ 32 ไหม สุขภาพเป็นยังไง หลานทุกคนก็จะมาดูแบบนี้ถ้าอยู่เมืองไทยก็จะมาดู เห็นหน้าแล้วคิดว่าหน้าผากคงจะเหมือนทางกบ ส่วนรูปหน้ามาทางบรู้คจมูกบรู้คเลย รู้สึกปุณณกันต์ทุกคนจมูกแบบนี้แหละ ส่วนชื่อเล่นที่เขายังไม่ได้ตั้งก็อยากจะให้เขาตั้งเอง ก็เป็นลูกเขาให้เขาช่วยกันตั้งก็จะได้ภูมิใจ กบเขาตั้งชื่อจริงไว้ก่อนแล้ว แต่ชื่อเล่นเห็นว่าจะให้บรู้คเป็นคนเลือกแต่ในที่สุดก็ยังเลือกไม่ได้ เพราะมีหลายชื่อเกินไปก็ยังไม่รู้จะเรียกชื่ออะไร"
"สำหรับของรับขวัญตอนนี้เขายังเล็กอยู่ เขาไม่รู้เรื่อง ถ้ารับขวัญตอนนี้เดี๋ยวพ่อยึดหมด ให้เขาโตกว่านี้อีกนิดดีกว่าจะได้รู้ว่าเขาอยากได้อะไร ถามว่าตื่นเต้นไหม พูดจริงๆ ก็คือเป็นหลานคนที่ 5 แล้ว ตื่นเต้นไหมก็ไม่ได้ตื่นเต้น แต่ไม่ใช่ว่าไม่สนใจ แต่อาจจะเป็นเพราะคนที่ 5 ก็เริ่มชินแล้ว แต่ถ้าเป็นคนแรกก็จะแบบอยากจะรู้ว่ามีอะไรครบไหม เขาจะคลอดยังไงจะเป็นยังไง จากประสบการณ์ที่ลูกๆ มีลูกมาแล้วก็สบายใจเพราะส่วนใหญ่มีลูกแล้วปลอดภัย แล้วหมอสมัยนี้ก็เก่ง ข้อสำคัญเราเห็นตั้งแต่อัลตร้าซาวน์มาตั้งแต่แรก 4- 5 เดือนเราก็เห็นแล้ว คุณหมอทำคลอดก็บอกเด็กแข็งแรงปลอดภัยก็เลยไม่มีปัญหาตรงนี้"
"สำหรับคำแนะนำเราก็ต้องช่วยเขา ถ้าเขาถามอยากรู้อะไรเราก็จะช่วยเขา แต่ส่วนมากกบเขาจะปรึกษาน้องของบรู้คเพราะพึ่งคลอดมาได้ 3 เดือนเอง เป็นที่ปรึกษาอย่างดีเพราะเขาท้องเป็นครั้งที่ 2 แล้ว เขาก็จะเป็นที่ปรึกษาให้กบ เขาก็ถามโน่นถามนี่เพราะอยู่ในวัยเดียวกัน ส่วนนุสบา(นุสบา ปุณณกันต์) เขาก็เป็นห่วง ก็โทรไปบอกว่าคลอดแล้ว เราอุ้มเป็นคนแรกเลย ก็คงเอาใจย่าหน่อยมั๊ง"(หัวเราะ)
"ตอนนี้ที่บ้านก็เตรียมห้องไว้ให้แล้ว แต่ว่ากบเขาอยากเลี้ยงเอง ก็ถามว่าเอาพี่เลี้ยงไหม เขาก็บอกจะเลี้ยงเอง ก็ต้องให้เขาลองดูก่อนว่าจะไหวไหม แต่คิดว่าอีกซักพักคงจะรู้(หัวเราะ) อีกซัก 2 ชั่วโมงก็คงจะรู้ อีกไม่เท่าไหร่ก็คงจะหิ้วมาทั้งหมด(หัวเราะ) เลี้ยงเด็กอ่อนนี่ไม่ใช่ง่ายนะ คุณแม่ก็เข้าใจเป็นธรรมดาที่เขาอยากจะเลี้ยงกันเอง แต่จากประสบการณ์เวลาเด็กมีไข้สูงต้องเช็ดตัวทั้งคืนเดี๋ยวเขาก็ส่งมาให้ย่าให้ยายเลี้ยง ก็ถ้าเขามาหาให้ช่วยดูเราก็ช่วยดูอยู่แล้ว หลานทุกคนเราก็รักทุกคนเหมือนกัน เราไม่ได้เลือกที่รักมักที่ชังรักเท่ากันทุกคน นี่ก็เห็นว่าให้ชื่อว่าปุณณดา ก็คงกลัวย่าเสียใจมั๊ง(ยิ้ม) อันนี้ก็เห็นได้ชัดว่า เผลอๆ เราก็อาจจะต้องเลี้ยง(หัวเราะ) เพราะมีส่วนเอี่ยวอยู่ด้วย"
ที่มา: manager.co.th