Author Topic: “น้ำฝน” เผย “สเตฟาน” ปรึกษาเรื่องขึ้นคอนโด “เอม” ป้องเป็นสุภาพบุรุษ  (Read 875 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


“น้ำฝน” เผย “สเตฟาน” ร้อนใจโร่ปรึกษาเรื่องข่าวขึ้นคอนโด “เอม” แต่ไม่อยากยุ่งให้แก้ไขเอาเอง เชื่ออดีตแฟนเป็นสุภาพบุรุษพอ ปัด ไม่เข้าข้างใครว่าถูกหรือผิดเพราะตอนตามกันขึ้นห้องไม่ได้อยู่ด้วย เจ้าตัวรับ กำลังดูใจหนุ่มนอกวงการได้ 4 เดือน ยังไม่พร้อมเปิดตัว
       
       ตั้งแต่เลิกรากันไปก็เห็นจะมีแต่ฟากพระเอกหนุ่ม “สเตฟาน ฐสิษฐ์ สิงคณาวิวัฒน์” ที่มีข่าวกับสาวๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่ที่หนักสุดคงหนีไม่พ้นกรณีที่มีภาพหลุดขึ้นคอนโดกับดาราสาว “เอม เจษยา เวียงเกตุ” เพื่อนนักแสดงในละครเรื่อง “สุดหัวใจเจ้าชายเทวดา” และกลายเป็นสงครามน้ำลายกันอีกคู่ เพราะฝ่ายชายตอนแรกก็ยืนยันว่าส่งแค่ข้างล่าง แต่ไปๆ มาๆ พอดาราสาวโต้กลับก็ยอมรับว่าขึ้นห้องจริง แถมทิ้งท้ายว่าคิดกันเอาเองว่ามีอะไรกันหรือเปล่า ซึ่งประโยคนี้ทำให้ “เอม” ถึงกับให้สัมภาษณ์ทั้งน้ำตาว่าทำให้ตนเสื่อมเสียมาก
       
       ล่าสุดได้เจอ “น้ำฝน กุลณัฐ กุลปรียาวัฒน์” อดีตแฟนของสเตฟาน จึงสอบถามในฐานะคนที่เคยรู้จักสเตฟานดีที่สุดคนนึง แต่สาวฝนออกตัวว่าเรื่องนี้ไม่อยากออกความเห็นอะไรมาก เพราะตอนเกิดเรื่องไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์
       
       “เรื่องนี้ใครเรียนผูกก็ควรจะเรียนแก้ด้วยตัวเองนะคะ(หัวเราะ) แต่ถามว่าฟานมีมาปรึกษาไหมก็มี และฝนก็มีให้บ้างเล็กน้อย แต่ว่าเราก็ไม่สามารถที่จะไปบังคับว่าต้องพูดอย่างนั้นอย่างนี้ แต่สิ่งที่จะห่วงเขาก็คือเขาเป็นผู้ชาย อีกฝ่ายคือผู้หญิง ฝนก็ไม่สามารถรู้ได้หรอกว่าเรื่องราวแท้จริงคืออะไร ใครผิดใครถูก ฝนก็เชื่อว่าหลายๆ คนก็คงไม่สามารถตัดสินเรื่องนี้ได้ แต่สิ่งนึงที่เป็นห่วงก็คือฟานความเป็นผู้ชายพูดอะไรแรงไปก็จะส่งผลกับตัวเองได้ค่อนข้างเยอะ ก็จะบอกให้เขาเงียบๆ ซะมากกว่า”
       
       “แต่โดยส่วนตัวที่ฝนรู้จักฟาน ฝนรู้ว่าเขาเป็นคนดี จิตใจดี แล้วเขาก็เป็นสุภาพบุรุษนะ ฝนเชื่ออย่างนั้น เพราะฝนคงไม่สามารถอยู่กับคนๆ นึงที่เขาเป็นคนเลว แล้วฝนอยู่กับเขามาได้อีก 5 ปีหรอก ฝนก็ว่าเขาเป็นคนดี แต่โดยภาพหรือโดยสื่อที่ออกไปมันก็หลายแง่หลายมุม ต่างคนต่างคิด มันก็ไม่สามารถที่เราจะไปควบคุมตรงนั้นได้ แต่สิ่งนึงถ้าเรามั่นใจในความเป็นตัวเรา เราก็พยายามที่จะแก้ปัญหาตรงนั้นไปเดี๋ยวมันก็ค่อยๆ หายไปเอง”
       
       “ฝนว่าฟานเขาก็ยังไม่ได้เจ้าชู้นะ ถึง ณ วันนี้ที่เราคุยกับเขาก็ยังไม่รู้สึกว่าเขาเจ้าชู้ เหมือนเขากำลังค้นหาอะไรบางอย่างมากกว่า ก็เข้าใจเขานะ เพราะตอนที่เริ่มเป็นแฟนกับฟาน ตอนนั้นฟานน่าจะเพิ่ง 23 เองมั้ง เขายังเด็กมาก แล้วมันจะเป็นไปได้ไหมที่เขาจะมาหยุดกับผู้หญิงอีกคนนึง ตอนที่เขาอายุแค่นั้น ฝนว่าเขาก็ใช้ชีวิตเหมือนกับผู้ชายคนนึงทั่วๆ ไป เพียงแต่ข้อเสียมันเกิดจากว่าความที่เขาเป็นดาราเวลาทำอะไรมันก็เป็นที่สว่าง และคาแรคเตอร์ของฟานก็คือเขาไม่ค่อยระวังตัวเหมือนคนอื่น ฉะนั้นก็ค่อนข้างจะมีอะไรออกมาเยอะ แต่ว่าจริงๆ ฝนว่าเขาก็ไม่ได้ใช้ชีวิตแตกต่างจากผู้ชายทั่วๆ ไป”
       
       “แต่ด้วยคำพูดของเขาเวลาที่เขาพูดภาษาไทย มันอาจจะเพราะเขาแปลภาษาอังกฤษเป็นไทยมากกว่า มันก็เลยทำให้ออกมาดูตรงๆ บางทีเวลาเขาพูดอะไรกับฝนก็ทำให้ฝนสะอึกเหมือนกันนะ บางทีก็คิดว่าเฮ้ยตรงไปหรือเปล่าวะ แต่ที่สองคนเขาพูดไม่ตรงกันก็อย่างที่ฝนบอก ว่าเราไม่สามารถไปตัดสินได้ว่าอะไรจริงอะไรไม่จริง ฉะนั้นฝนจะไม่มานั่งตัดสินใครทั้งสองฝ่ายทั้งนั้น และอีกอย่างสิ่งที่ฝนรู้ก็เหมือนกับที่ฝนรู้จากสื่อและทางฟานด้วย ฝนจะมานั่งบอกได้ยังไงว่าคนนั้นถูก คนนี้ถูก ทั้งๆ ที่ตอนเกิดเรื่องเขาอยู่กันสองคนถูกไหมคะ ฝนขอไม่ตัดสินเรื่องตรงนี้ดีกว่า ก็ปล่อยให้มันเป็นไป เดี๋ยวมันก็จบค่ะ มันคงไม่ลงยาวไปถึงปีนึงหรอกมั้ง”
       
       ไม่ขอพูดว่าจะมีโอกาสรีเทิร์นได้หรือเปล่า ปล่อยเป็นเรื่องของอนาคต แต่ตอนนี้ความเป็นเพื่อนที่ดียังมีอยู่เสมอ และที่สำคัญตอนนี้ตนก็มีหนุ่มนอกวงการคนหนึ่งที่คุยอยู่แล้วด้วย
       
       “เรื่องกระแสรีเทิร์น จริงๆ ฝนกับฟานก็คุยกันเรื่อยๆ นะคะ แต่ว่าไม่ได้เป็นการพูดคุยกันทุกวัน มันเหมือนกับถ้าฝนตอบว่าจะกลับ ก็จะมานั่งตอบทำไมก็กลับไปเลยซิ เพียงแต่ว่าตอนนี้มันเหมือนเป็นเพื่อนมากกว่า แล้วอารมณ์เวลาตอนที่เป็นแฟนกับเป็นเพื่อน เคยรู้สึกไหมว่าพอเวลาเป็นแฟนทำไมงี่เง่าอย่างนี้ แต่พอเป็นเพื่อนทำไมแสนดี พูดตรง เข้าใจง่าย แต่พอเป็นแฟนก็งี่เง่าอีกแล้ว ขี้งอน แล้วพอเราถอยกันออกมา แล้วเรามาคุยกันแบบเพื่อน ฝนเชื่อว่าเราสองคนยังมีความรู้สึกดีด้วยกันอยู่ มันก็เลยอาจจะทำให้คนอื่นมองตรงนั้นว่าอาจจะกลับมารีเทิร์น แต่ฝนก็ไม่ตอบนะคะว่าไม่รีเทิร์นหรือจะรีเทิร์น เพราะมันก็เป็นเรื่องของอนาคต แต่ว่า ณ ปัจจุบันนี้คือยังค่ะ”
       
       “แต่ถ้าเพื่อนที่สนิทที่สุด ฝนก็ว่าฝนสนิทกับฟานที่สุด เพราะที่สุดแล้วฝนกับเขาก็เหมือนกับเขาพูดอะไรมาเราก็พอจะเดาได้ว่าอีกแล้ว เขาก็คงพอจะเดาอาการฝนได้เหมือนกัน คือเราอยู่กันมานาน ฝนก็เลยไม่อยากจะทิ้งความรู้สึกดีๆ ตรงนี้ไป เหมือนกับไม่อยากที่วันนึงคนเราเคยรักกันมากๆ แต่พอวันนึงที่เราเลิกกันทำไมเราต้องเกลียดกัน ฝนว่าเรามัวแต่มานั่งเสียดายเวลา ทำไมเราไม่มานั่งเสียดายความรักที่มันเคยผ่านมาแล้วเราก็เก็บตรงนั้นไว้ วันนึงเราเป็นเพื่อน เราก็รักเพื่อน มันก็คือรักเหมือนกัน เพียงแต่มันก็อาจจะเปลี่ยนแปลงในเรื่องของความสัมพันธ์ที่มันแตกต่างกันออกไป แต่ว่าความรู้สึกดีๆ มันก็ยังคงอยู่”
       
       “ตอนนี้ก็มีคนที่เข้ามาคุยๆ อยู่บ้างค่ะ แต่ว่าเราก็ไม่อยากไปตู่ว่าเขาจีบ เอาเป็นว่าก็ได้มีคุยๆ ดูๆ อยู่ เป็นคนนอกวงการค่ะ ก็ไม่ได้เข็ดคนในวงการนะ เพียงแต่ว่าในวงการมันหายากมากเลยกับใครสักคนนึงที่เขาไม่เคยเป็นแฟนกับใครเลย ฝนก็เลยรู้สึกว่าถ้าเป็นอะไรที่นอกวงการมันจะสบายใจกว่า แต่คนนี้ก็คุยนานแล้วนะ ประมาณ 3-4 เดือนแล้ว เขาก็โอเคที่สุด แต่จะพัฒนาไหม เอาไว้ประกาศอีกทีแต่งเลยดีกว่า(หัวเราะ) ไม่เสียเวลาแล้ว ยังไงก็เสี่ยงเหมือนกัน(หัวเราะ)”
       
       “ตอนนี้คนใกล้ชิดทุกคนก็รู้จักเขาหมดแล้วค่ะ แต่จะพาโชว์ตัวไหมเหรอ ฝนเป็นคนขี้อายนะ เปิดทีไรเป็นเรื่องทุกที(หัวเราะ) ไม่หรอกค่ะ ดูๆ ไปเรื่อยๆ แฟนไหมเหรอ ทำไมคนไทยต้องมีคำว่าแฟนหรือคำว่าเพื่อนด้วย ฝนงง แต่ถ้าบอกว่าการเปิดตัวคือการบอกว่าเป็นแฟนแล้ว ก็ยังค่ะ แต่ว่าถ้าคนที่สนิทกับฝนก็คือรู้จักเขากันหมดแล้วค่ะ”


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)