“โจอี้ บอย” รับจีบ “เนย เนโกะจัมพ์” แต่ยังไม่ถึงขั้นแฟน บอก ห่วงฝ่ายหญิงจะโดนแม่ด่าที่มีภาพปาปารัสซี่กับตนออกมา เจ้าตัวลั่น ตอนนี้ให้ความสำคัญกับครอบครัวและงานมากว่าความรัก พร้อมเผย ตอนนี้กำลังมุ่งมั่นเรียนการบิน อนาคตฝันอยากซื้อเครื่องบินเป็นของตัวเอง
ช่วงหลังๆ มานี้สาวที่ดูจะสนิทกับแร็พเปอร์หนุ่ม “โจอี้ บอย” คงจะมีแต่นักร้องสาวหมวย “เนย วรัฐฐา อิมราพร” หรือ “เนย เนโกะจัมพ์” เพียงคนเดียว ซ้ำยังมีภาพหลุดควงกันไปโน่นมานี่อยู่บ่อยๆ แถมนักร้องหนุ่มยังทำหน้าที่เป็นสารถีคอยหิ้วของให้อีกต่างหาก ซึ่งได้มาเจอหนุ่ม “โจอี้” อีกครั้งในงานบวงสรวงภาพยนตร์เรื่อง “Ghost day แกงค์ตบผี” ที่บริษัท พระนครฟิล์ม ย่านประชาชื่น นักร้องหนุ่มยอมรับว่ามีการคุยกันมากขึ้นจริง และคุยแบบจีบ แต่ไม่คิดอะไรมาก เพราะตนยังไม่อยากมีแฟน บอก ตอนนี้ให้ความสำคัญกับครอบครัวและงานมากว่าความรัก
“กับน้องเนยก็ไม่มีอะไรครับ คุยกันธรรมดาทั่วไป มีโอกาสได้คุยกันทางโทรศัพท์ ทางบีบีเท่านั้นครับ แต่ถามจีบไหมก็คงปกติผู้ชายคุยก็คงออกแนวจีบๆ นิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย ยังไม่มีแนวโน้มอะไรหรอกครับ เพราะว่าได้แต่คุยกันเฉยๆ ไม่ค่อยได้เจอด้วยครับ แต่ข่าวมันค่อนข้างออกมาเยอะ ผมก็ถามเขานะว่าแม่ด่าหรือเปล่า ที่ผมไปถือของให้ แม่ว่าอะไรไหม แต่แม่เขาว่ายังไงผมก็ไม่รู้นะ เพราะผมไม่ได้คุยกับแม่เขา(หัวเราะ) แต่คุณแม่เขาก็คงเตือนว่าให้ระวังหน่อย คุณแม่เขาคงกลัวๆ มั้งครับ คงอยู่แล้ว แค่ชื่อโจอี้ บอย ยังไงก็น่ากลัว(หัวเราะ)”
“แต่เอาจริงๆ ตอนนี้ผมเฉยๆ นะ ความรักมันเป็นเรื่องรองไปแล้ว ปัจจุบันมันมีเรื่องนู้นเรื่องนี้ สำหรับวัยที่เราอยู่ตรงนี้ เรามีอะไรที่ต้องทำ ความรักมันเป็นเรื่องของวัยรุ่นมากกว่า แต่ผมเฉยๆ แล้วล่ะ สำหรับผมคิดว่าจริงๆ คนเราไม่จำเป็นต้องมีความรัก คือมันมีอะไรอีกหลายๆ อย่างที่มีความสำคัญ ก็คงแล้วแต่คนว่าจะลำดับความสำคัญของชีวิตยังไง แต่สำหรับผมคงเป็นเรื่องครอบครัว เรื่องงาน แต่เรื่องความรักไม่ได้ห่วงอะไรสักเท่าไหร่”
“ถ้าจะบอกว่าผมเปลี่ยนสไตล์มาชอบสาวหมวย คิกขุมากกว่าสาวเซ็กซี่ ก็คงไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ อย่างที่บอกว่าเรื่องความรักผมเฉยๆ ก็คือคุยกันทั่วไป สบายใจก็คุยกัน เราก็ไม่ได้คิดว่าอยากจะมีแฟน ไม่ได้คิดว่าอยากจะแต่งงาน ก็คงจะไม่มีการจีบใครหรือว่าคบกับใคร”
เผย ตอนนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องการเรียนขับเครื่องบิน เพราะต้องการขจัดการกลัวความสูงและกลัวการขึ้นเครื่องบินของตัวเอง และวางแผนซื้อเครื่องบินเล็กของตัวเองสักลำ
“ตอนนี้ผมเรียนการบินอยู่ครับ คิดว่าเดือนหน้าก็คงจะจบ อีก 1-2 อาทิตย์ก็จะเริ่มบินแล้ว แต่คงยังไม่เรียนต่อหรอกครับ อยากจะมีเครื่องบินของตัวเองเหมือนกัน แต่คงต้องขอเก็บตังค์ก่อน ค่าเรียนก็ค่อนข้างสูงเหมือนกันครับ แต่คงไม่ได้พัฒนาถึงเป็นนักบินอาชีพ เพราะเราก็เคยมีความใฝ่ฝันว่าเราอยากขับเครื่องบิน เพราะเป็นคนกลัวเครื่องบิน กลัวความสูงก็เลยอยากจะเรียนให้รู้"
"เคยคิดว่าถ้ามีปัญญาสักวันนึงซื้อเครื่องบินลำถูกๆ ได้ก็ขับเองแล้วกัน เพราะไหนๆ ก็กลัวเวลานั่งของชาวบ้านเขา ก็เป็นความรู้สึกที่อยากจะเอาชนะมันให้ได้ ปัจจุบันขึ้นเครื่องบินเวลาไปไหนมาไหนก็ยังไม่อยากจะขึ้นเลย ก็คิดว่ามันคงต้องบินเองแล้วล่ะ"
“แต่อาจจะพัฒนาไปเป็นกัปตันได้ ถ้าเรียนจนจบ มันมีประมาณ 4 คอร์สหลักๆ ซึ่งผมเรียนคอร์สแรกคอร์สเดียว สามารถขับเครื่องบินลำเล็กๆ ขับไปขับมาได้ แต่คอร์สต่อมามันก็จะยากขึ้นเรื่อยๆ ก็ต้องทุ่มเทขึ้นเรื่อยๆ ใช้เวลากับมันมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ผมไม่ได้คิดว่าจะเป็นนักบินพาณิชย์ ก็เลยคิดว่าคงไม่ได้เรียนจนจบ”
“แต่จริงๆ ผมว่าเครื่องบินลำนึงไม่แพงนะ ผมว่าบางทีถูกกว่ารถยนต์ทั่วไปอีก แต่หลายๆ คนไม่ค่อยเข้าใจเรื่องการบินก็เลยคิดว่ามันแพง หลายๆ คนไม่เคยรู้เลยว่าเวลาเครื่องบินลำนึงเวลาลงไปแล่นลงแอพอร์ตที 85 บาทนะครับ จอดข้ามคืน 150 บาท คือเครื่องบินนี่ถ้าเราศึกษากันจริงๆ มันค่อนข้างเป็นพาหนะที่ใช้เงินไม่ได้เยอะเท่าที่คิด”
ที่มา: manager.co.th