หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งทวิตเตอร์ (Twitter) เว็บไซต์ให้บริการเขียนบล็อกสั้นเพื่อการสื่อสารออนไลน์ยอดนิยม ระบุว่ากำลังหาโมเดลเก็บเงินค่าบริการจากสมาชิกในอนาคต แต่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าจะวางโมเดลธุรกิจในรูปแบบใด ระบุว่าการทำเงินจากแบนเนอร์โฆษณาเป็นสิ่งที่น่าสนใจน้อยที่สุด
อีวาน วิลเลี่ยม ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอทวิตเตอร์ ให้สัมภาษณ์ในงานประชุม D: All Things Digital ซึ่งวอลล์สตรีทเจอร์นอลจัดขึ้นที่แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ว่ากำลังอยู่ระหว่างการหาแนวทางดำเนินงานที่เหมาะสม ความเป็นไปได้สูงสุดคือการสร้างบริการพิเศษที่จะเก็บค่าบริการในการใช้งาน
จุดนี้วิลเลียมและบิซ สโตน ผู้ร่วมก่อตั้งทวิตเตอร์อีกรายระบุว่า อาจจะมาในรูปบริการที่ระบุตัวตนผู้ส่งข้อความ ยกตัวอย่างเช่น สมาชิกสามารถจ่ายเงินเพื่อให้มั่นใจว่า จะไม่ถูกมือดีแอบอ้างชื่อในการส่งข้อความผ่านทวิตเตอร์โดยไม่ได้รับอนุญาต
ทวิตเตอร์นั้นเป็นหนึ่งในบริษัทเกิดใหม่ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในซิลิกอนวัลเลย์ ให้บริการบล็อกสั้นหรือไมโครบล็อกกิ้งที่ผู้ใช้สามารถเขียนบล็อกเป็นข้อความยาวไม่เกิน 140 ตัวอักษรเพื่อบอกเพื่อนสมาชิกว่ากำลังทำอะไรอยู่ในขณะนั้น เช่น “กำลังกินข้าวอยู่” หรือ “ตอนนี้เหงามาก” ผู้ใช้สามารถส่งข้อมูลให้เพื่อนในกลุ่มหรือสมาชิกทวิตเตอร์ทั้งโลกได้ผ่านทางเ้ว็บไซต์
www.twitter.com หรือแจ้งสถานะผ่านโปรแกรมแชตอย่าง Google Talk ได้ฟรี รวมถึงการส่งข้อความบอกเล่าความเป็นไปในขณะนั้นผ่านโทรศัพท์มือถือ (SMS) ได้ด้วย แต่ต้องเสียค่าบริการ
ทวิตเตอร์กลายเป็นช่องทางเยี่ยมยอดสำหรับการติดต่อสื่อสารบนโลกออนไลน์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว มีการใช้ทวิตเตอร์กระจายข่าวความเคลื่อนไหวของภารกิจอวกาศในความรับผิดชอบของนาซ่า ตลอดจนนำทวิตเตอร์ไปอัปเดทข่าวความเคลื่อนไหวในงานประชุมหรือมหกรรมใหญ่ๆ ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่าผู้ก่อการร้ายใช้บล็อกสั้นเป็นเครื่องมือประสานงานการก่อการร้ายด้วย ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นผลดีมากหากจะมีบริการที่สามารถยืนยันตัวผู้ส่งข้อความเกิดขึ้น ตามที่ทวิตเตอร์เล็งเป้าให้บริการแบบเก็บค่าใช้จ่าย
แม้ทวิตเตอร์ไม่ได้ให้ภาพชัดเจนสำหรับโมเดลธุรกิจใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ผู้ก่อตั้งทวิตเตอร์ระบุเต็มปากเต็มคำว่า สิ่งที่จะเป็นแรงผลักดันรายได้ของทวิตเตอร์จะไม่ใช่แบนเนอร์โฆษณา โดยบอกว่าแบนเนอร์โฆษณาคือสิ่งที่น่าสนใจน้อยที่สุด
งานนี้ผู้ก่อตั้งทวิตเตอร์ไม่เปิดเผยแผนการขยายสำนักงานทวิตเตอร์หลังจากประกาศเพิ่มทุนบริษัทมูลค่า 35 ล้านเหรียญเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนั้นนักวิเคราะห์ต่างฟันธงว่า เป็นการเพิ่มทุนเพื่อเตรียมความพร้อมในการสร้างผลิตภัณฑ์ทำเงินตัวใหม่ให้กับทวิตเตอร์ ที่ปัจจุบันมีผู้ใช้มากกว่า 6 ล้านคนทั่วโลก ด้วยพนักงานจำนวน 43 คน
สโตนระบุว่า หากทวิตเตอร์ให้ความสนใจกับการหาเงินมากเกินไปก็จะทำให้ความนิยมของทวิตเตอร์ลดลง ซึ่งทวิตเตอร์จะยังต้องหาโมเดลที่เหมาะสมต่อไป สำหรับข่าวลือว่าทวิตเตอร์ถูกเจรจาขอซื้อบริษัท วิลเลี่ยมระบุว่าทวิตเตอร์จะยังคงเป็นอิสระ และยังไม่ถูกใครควบรวมในเร็ววัน
ที่มา: manager.co.th