*ก่อนซื้อโน้ตบุ๊กดูเทรนด์ใหม่ก่อนตัดสินใจ
*2 เหตุผลหลักคอนซูเมอร์นำไปสู่การเปลี่ยนโน้ตบุ๊กครั้งใหญ่
*ค่ายคอมพิวเตอร์เริ่มพาเหรดโปรดักส์รุ่นใหม่สู่ตลาดแล้ว
*การพลิกโฉมโน้ตบุ๊กอีกครั้ง หลังกระแส 'เน็ตบุ๊ก' เริ่มจาง
'เอเซอร์ แอสไปร์ ไทม์ไลน์ คือการพลิกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของเอเซอร์อีกครั้งหนึ่งในเรื่องของนวัตกรรมและดีไซน์' เป็นคำกล่าวของ อลัน เจียง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด
หรือคำกล่าวของ บุญเลิศ วิบูลย์เกียรติ หัวหน้ากลุ่มธุรกิจไอที บริษัท ไทยซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ จำกัด ที่ว่า 'โน้ตบุ๊กซัมซุงสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับวงการคอมพิวเตอร์พกพา'
และ 'เราเปิดตัวโน้ตบุ๊กหน้าจอ 13 นิ้ว ที่เบาและบางเฉียบที่สุดในโลก' ที่เป็นคำกล่าวของ ไอริส ชุง ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ของเอ็มเอสไอ
เกิดอะไรขึ้นกับการเปิดตัวโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ๆ จากค่ายคอมพิวเตอร์เหล่านี้ คำตอบคือเทรนด์ใหม่ของโน้ตบุ๊กกำลังก่อตัวขึ้น และมันเป็นการเปลี่ยนแปลงตลาดโน้ตบุ๊กจากที่ผ่านมาแบบสิ้นเชิง ที่ผู้บริโภคที่กำลังจะตัดสินใจซื้อโน้ตบุ๊กคาดไม่ถึง
โน้ตบุ๊กโฉมใหม่ที่จะเปลี่ยนตลาดแบบคาดไม่ถึงนี้ เกิดจากความต้องการของผู้บริโภคเอง ที่ต้องการความเป็นโมบิลิตี้แบบสุดๆ กับการใช้งานโน้ตบุ๊ก โดยสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการที่สุดคือการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานโดยไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่ และความบางเบาของโน้ตบุ๊กอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ปัจจัยดังกล่าวข้างต้นจึงเป็นที่มาของการเปิดตัว 'เอเซอร์ แอสไปร์ ไทม์ไลน์' ที่ อลัน เจียง บอกว่าเป็นการพลิกประวัติศาสตร์ของเอเซอร์ เนื่องจากโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่นี้ทำให้เอเซอร์เป็นรายแรกที่นำเสนอโน้ตบุ๊กที่สามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้นานต่อเนื่องกว่า 8 ชั่วโมง เพียงการชาร์จแบตเตอรี่ครั้งเดียวก็สามารถใช้งานได้ทั้งวัน โดยมีเทคโนโลยี Acer Power Smart Adapter ที่จะคอยควบคุมโน้ตบุ๊กให้มีพลังงานมากขึ้น
อีกด้านหนึ่งที่เอเซอร์ แอสไปร์ ไทม์ไลน์ เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง คือการดีไซน์ใหม่มีขนาดเพียง 1 นิ้วเท่านั้น มีการดีไซน์ฝาปิดทำจากอะลูมิเนียม ทำให้น้ำหนักเบา หน้าจอบางเพียง 24 มิลลิเมตร ตัวเครื่องสีเทาเมทัลลิก นอกจากนี้คีย์บอร์ดใหม่ Floating Keyboard ปุ่มที่แยกจากกัน และทัชแพดรองรับการควบคุมด้วยวิธีสัมผัสนิ้วได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งหมดเริ่มต้นที่ราคา 22,900 บาท
'เราเตรียมไลน์ผลิตภัณฑ์ไว้ถึง 11 รุ่นที่จะทำตลาดตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนนี้' บุญชัย เงาวิศิษฎ์กุล รองผู้อำนวยการ ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ เอเซอร์ กล่าว
การเปิดตัว เอเซอร์ แอสไปร์ ไทม์ไลน์ ในครั้งนี้ ยังเป็นครั้งแรกของการเปิดตัว อินเทล คอร์ 2 ดูโอ โปรเซสเซอร์ อัลตร้า โลว์ โวลเทจ โปรโซสเซอร์รุ่นใหม่ล่าสุดของอินเทลในประเทศไทยด้วย มีประสิทธิภาพด้านการประหยัดพลังงาน สำหรับโน้ตบุ๊กที่มีดีไซน์บางเฉียบ รวมทั้งอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น ช่วยตอบสนองความต้องการผู้ใช้งานในปัจจุบัน หลังจากที่ 'เน็ตบุ๊ก' ได้สร้างกระแสให้ผู้คนนิยมพกพาคอมพิวเตอร์ จนเกิดกลุ่มคนที่ต้องการโน้ตบุ๊กที่มีคุณสมบัติใหม่นี้มาเพื่อใช้งานโมบิลิตี้แบบทุกที่ทุกเวลาขึ้น
จากการที่อินเทลสามารถพัฒนาโปรเซสเซอร์รุ่นนี้ให้มีขนาดเล็กลง ทำให้โน้ตบุ๊กสามารถออกแบบให้มีขนาดบางและน้ำหนักเบา ประกอบกับอินเทลลามินาร์วอลล์เจท เทคโนโลยีล่าสุดที่ช่วยลดความร้อนของคอมพิวเตอร์ ยังช่วยเติมลูกเล่นในเรื่องการดีไซน์โน้ตบุ๊กให้เก๋ไก๋และทันสมัยมากขึ้น
'วันนี้ทำให้โน้ตบุ๊กที่เคยมีราคาสูงสำหรับกลุ่มผู้ใช้ระดับบน ลงมาให้กับผู้ใช้งานทั่วไปในระดับราคาที่สามารถจับต้องได้' เอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
MSI X-Slim
บางเฉียบสุดในโลก
ค่าย MSI ถือเป็นค่ายน้องใหม่ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย โดยอาศัยช่วงจังหวะของการเกิดขึ้นของเทรนด์ใหม่ของโน้ตบุ๊ก ด้วยการนำเสนอ MSI X-Slim series โน้ตบุ๊กหน้าจอ 13 นิ้ว ที่เบาและบางเฉียบที่สุดในโลก ในรุ่น X340 บางสุดเพียง 6 มิลลิเมตร และส่วนที่หนาสุดเพียง 20 มิลลิเมตร น้ำหนักรวมแบตเตอรี่เพียง 1.3 กิโลกรัม
แนวทางของเอ็มเอสไอคือการให้ความสำคัญเรื่องของแฟชั่นกับโน้ตบุ๊กตระกูล MSI X-Slim และเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ใช้งานฉีกหนีจากความจำเจของการเป็นโน้ตบุ๊กที่ต้องใช้สีเดียวเท่านั้น มาพร้อมกับดีไซน์สะดุดตา
MSI X-Slim รุ่น X340 มาพร้อมกับจอภาพแบบโรงภาพยนตร์ที่มีอัตราส่วน 16:9 ไวด์สกรีน ทั้งยังใช้เทคโนโลยีจอภาพแบบ LED ช่วยประหยัดพลังงาน และในความบางยังมีพอร์ตใช้สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ยูเอสบี HDMI ไมโครโฟน ชุดหูฟัง ช่องต่อจอแสดงผลภายนอก และช่องอ่านการ์ดหน่วยความจำ
และผู้ใช้งานสามารถเลือกรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกันได้ถึง 5 แบบ ไม่ว่าจะเป็น office, gaming, movies, presentation และ turbo battery โดยสภาพการใช้งานของแต่ละรูปแบบนั้นจะแตกต่างกันไปในเรื่องของความสว่างของหน้าจอและเวลาในการแสดงผลหน้าจอ ทำให้พลังงานที่มีอยู่สามารถใช้งานได้อย่างยืดหยุ่นและทำงานได้นานกว่าเดิม
Lighter Than Air
มาตรฐานใหม่จากซัมซุง
การกลับมาทำตลาดโน้ตบุ๊กอีกครั้งของซัมซุง เนื่องจากเป็นจิ๊กซอว์ตัวสำคัญที่ทำให้ซัมซุงกลายเป็นไอทีโซลูชั่นโพรวายเดอร์ที่ครบสมบูรณ์แบบ กับอีกปัจจัยหนึ่งคืออัตราการเติบโตของตลาดโน้ตบุ๊กที่มีอย่างต่อเนื่อง และมีจำนวนมากกว่า 1 ล้านเครื่องในปีนี้
แต่การกลับสู่ตลาดโน้ตบุ๊กครั้งใหม่ของซัมซุงต้องสร้างจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่งในตลาด เน้นนำเสนอเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าและการออกแบบที่บางเฉียบตามแนวคิด 'Lighter Than Air' โดยต้องการสร้างเป็นมาตรฐานใหม่ให้กับวงการคอมพิวเตอร์พกพา
นอกจากนี้ซัมซุงยังผสานนวัตกรรมใหม่เข้าไปในโน้ตบุ๊กซัมซุง อาทิ ชิพประมวลผลจากอินเทล การใช้เทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ หรือ Health Technology ด้วยการเคลือบสารซิลเวอร์นาโนเพื่อป้องกันเชื้อโรคและแบคทีเรียบริเวณคีย์บอร์ดและที่วางมือของโน้ตบุ๊กทุกรุ่น รวมทั้งเทคโนโลยีของซัมซุงเองในการผลิตแบตเตอรี่ ทำให้แบตเตอรี่มีความพิเศษที่สามารถใช้งานต่อเนื่องสูงสุดกว่า 10 ชั่วโมง การใช้ระบบสแกนนิ้วมือแบบชีวภาพ เพื่อสร้างความปลอดภัยสูงสุดในการเข้าสู่ข้อมูล
ในไลน์อัพผลิตภัณฑ์ซัมซุงที่การทำตลาดแบ่งออกเป็น 4 ซีรีส์ คือ X-Series Q-Series และ R-Series และไลน์มินิโน้ตบุ๊ก NC-Series ซัมซุงแบ่งกลุ่มเป้าหมายหลักๆ ออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ใช้งานตามบ้าน 45% และกลุ่มผู้ใช้งานเพื่อรองรับความต้องการธุรกิจ 35% และอีก 20% เป็นกลุ่มใช้งานเฉพาะด้าน อาทิ เกมเมอร์ กราฟิกดีไซน์ และผู้ใช้งานออกแบบ
ที่มา: manager.co.th