เอชพีประกาศรุกตลาดคอมเมอร์เชียล หลังพบแนวโน้มการลงทุนระบบไอทีเริ่มกลับมา หันใช้กลยุทธ์ “โซลูชัน” เจาะตลาดเป็นรายเซกเมนต์ หมดสมัยขายฮาร์ดแวร์อย่างเดียว ตั้งเป้าโต 2 เท่า แจงการเปลี่ยนผู้บริหารเป็นเรื่องปกติ
นายเดนนิส มาร์ค รองประธานและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจเพอร์ชันแนลซิสเต็มส์ บริษัท ฮิวเลตต์ แพคการ์ด ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน กล่าวว่า แนวโน้มการนำไอทีมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานทางธุรกิจหรือตลาดคอมเมอร์เชียล โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นกลุ่มเอสเอ็มบีมีการเติบโตสูงขึ้นโดยไอดีซีประเมินการเติบโตในประเทศไทยไว้ว่า จะมีการเติบโตอยู่ที่ 11-12% ซึ่งเอชพีตั้งเป้าที่จะเติบโตไว้ 1.5-2 เท่าของอัตราการเติบโตตลาดรวม โดยที่ตลาดคอมเมอร์เชียลมีสัดส่วนการใช้จ่ายอยู่ที่ 30% ที่เหลือเป็นตลาดคอมซูเมอร์
“การลงทุนในกลุ่มเอสเอ็มบียังคงมีอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะมีการชะลอลงไปบ้างเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจโดยรวม”
หากดูจากการเติบโตในส่วนของจีดีพีจะพบว่า ประเทศเอเชียแปซิฟิกมีการเติบโตสูงกว่าภูมิภาคอื่นในโลก อยู่ที่ 6.7% ซึ่งเป็นสัญญาณดีที่ผู้ประกอบการต่างมองหาระบบไอทีมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มขึ้นโดยคาดว่าจะมีการลงทุนในระบบไอทีใหม่ๆ ถึง 30%
กลยุทธ์ที่เอชพีจะใช้ในการรุกตลาดคอมเมอร์เชียลปีนี้ ต่างจากในอดีต เพราะไม่ใช่แค่เครื่องเวิร์กสเตชัน หรือคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กอีกต่อไป แต่เอชพีได้นำความต้องการทางธุรกิจในแต่ละเซกเมนต์มาใช้ออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโน้ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ คอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก (Thin Computer) จอแสดงผลโดยมุ่งตอบโจทย์ในเรื่องนวัตกรรม ประสบการณ์การใช้งาน รวมไปถึงความคุ้มค่าในระดับอีโคซิสเต็มส์ โดยนำเสนอในรูปแบบโซลูชันในแต่ละเซกเมนต์มากขึ้น เพื่อให้เกิดการใช้งานที่เชื่อมต่อประสบการณ์ รวมทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกันทั้งระบบเชื่อมโยงอุปกรณ์ส่วนบุคคล อุปกรณ์ไอทีทั้งระบบ รวมไปถึงระบบคลาวด์คอมพิวติ้งอีกด้วย
“วันนี้ เอชพีได้นำเสนอ 6 โซลูชัน ประกอบไปด้วย ดิจิตอลมีเดีย การศึกษา การท่องเที่ยว ธนาคาร โรงพยาบาล และโซลูชันค้าปลีก ซึ่งเชื่อว่าเป็นโซลูชันที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มผู้ใช้ในเอเชียแปซิฟิกขึ้นมาโชว์ให้เห็นถึงความพร้อมของเอชพีในตลาดคอมเมอร์เชียลที่ว่าไม่ได้เป็นแค่ขายฮาร์ดแวร์แต่เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป”
นายเดนนิส ยังกล่าวอีกว่าไทยเป็นตลาดที่สำคัญของเอชพีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยสร้างรายได้อันดับต้นๆให้กับเอชพี โดยเอชพีจะเพิ่มการลงทุนในไทยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดกิจกรรมต่างๆ ตามหัวเมืองสำคัญ รวมไปถึงการขยายไปยังตลาดต่างจังหวัดเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้เอชพียังให้ความสำคัญกับเรื่องบุคลากร โดยมีการลงทุนไปกับเรื่องนี้ค่อนข้างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีการหมุนเวียนผู้บริหารเพื่อนำความรู้และประสบการณ์ในต่างประเทศมาถ่ายทอดให้กับทีมงานในประเทศนั้นๆ รวมทั้งมีการโปรโมทผู้บริหารในแต่ละประเทศอย่างต่อเนื่อง
“อย่างผมเพิ่งโปรโมทให้ดูแลตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน เมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งก่อนหน้านี้ผมก็ไปดูแลตลาดในจีน ทั้งๆ ที่ผมประจำอยู่ที่สิงคโปร์"
นายเดนนิสยังย้ำว่า การดึง"ปวิณ วรพฤกษ์"ขึ้นมาดูแลการทำตลาดในระดับภูมิภาคที่สิงคโปร์ นั้นเป็นเรื่องปกติของการปรับเปลี่ยนตำแหน่งการทำงานของเอชพี เพื่อคงความยืดหยุ่นในการบริหารไว้ให้มากที่สุด โดยเฉพาะในยุคที่เอชพีต้องแข่งขันสูงเช่นนี้
Company Related Link :
HP
ที่มา: manager.co.th