“พีเค” เปิดใจถึงนาทีชีวิตหลังติดพายุถล่มภาคใต้ จนติดเกาะ 4 วัน เผย อยู่กันอย่างลำบากน้ำ-ไฟโดนตัด สัญญาณโทรศัพท์ถูกตัดขาด สุดระทึกไม่คิดว่าชีวิตจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ บอก ดีใจปลอดภัยได้กลับมาเจอหน้าแม่ แต่ยังเป็นห่วงพี่น้องชาวใต้ วอนคนไทยส่งข้าวของไปช่วยเหลือ
เป็นอีกคนที่เดินทางไปทำงานที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในช่วงที่ฝนถล่มภาคใต้จนต้องติดเกาะนานถึง 4 วัน เนื่องจากไฟลต์บินปิด เพราะสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย สำหรับพิธีกรชื่อดัง “พีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร” ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาเปิดใจถึงนาทีชีวิตที่จะจำไม่มีวันลืมว่า....
“ผมไปงานของ ททท. เสร็จงานวันอาทิตย์ พอเช้าวันจันทร์ฝนเริ่มตกหนัก พอไปถึงสนามบินไฟลต์เริ่มถูกยกเลิก จนกลับมาถึงโรงแรมตอน5โมงเย็น ฝนก็เริ่มตกหนัก จนดึกๆ ขับรถออกไปที่โลตัสไปซื้อของ นั่งปิ๊กอัพไป พอขึ้นเขาหน่อยเดียวตรงตีนเขาน้ำป่ามันค่อยๆ ซัดเข้ามาขึ้นมาเร็วมาก จากล้อขึ้นมาถึงไฟหน้า ตอนนั้นคิดอยู่ว่าถ้าเกิดมันดับตอนนี้อีกนิดนึงรถก็จะถูกยกไหล แต่ถ้าเกิดโดดไปตอนนี้น้ำก็คงจะพัดเราไปแน่นอน เลยฮึดกัน ใจบอกพี่คบขับให้เหยียบขับขึ้นที่สูง พอถึงจุดที่ปลอดภัยแล้วเราก็เห็นรถลอย เฟอร์นิเจอร์ลอย คนต้องเกาะกันเป็นแถวยาวๆ คือทุกคนต้องพยายามข้ามให้ได้”
“แต่ดีที่ผมปลอดภัย ตอนนี้ก็คิดอยู่ว่าจะขึ้นเขาให้สูงกว่านี้มั้ย เราอยู่ตรงนั้นประมาณ20นาที รู้สึกว่าไม่น่าออกมาเลยว่ะ คือตอนนั้นไม่ใช่ว่าน้ำมันสูงนะ ตอนไปน้ำมันยังแค่ขอบๆ ล้อ ผมถ่ายคลิปไว้ด้วย ก็คือว่าไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น อย่างน้อยก็เก็บไว้ให้แม่ดูว่าชีวิตนึงเคยเป็นแบบนี้นะ ตอนนั้นพยายามตั้งสติให้ดี แล้วก็มองหน้าพี่ แต่พี่ที่ไปด้วยกันก็นิ่งมาก จริงๆ พี่เค้ามือก็สั่นอยู่นะครับ คนในพื้นที่เขาบอกครั้งนี้หนักที่สุดที่เคยเจอมา”
“หลังจากที่น้ำท่วม เขาก็ตัดไฟหมดเลย พอไฟหมดปั๊บ น้ำก็ไม่มีเพราะว่าเขาต้องเอาไฟปั่นน้ำ สัญญาณโทรศัพท์ก็ถูกตัดขาด อาหารการกินมันมีนะ คือโรงแรมก็มีอาหารเหมือนเดิม ร้านสะดวกซื้อก็ยังเปิดเหมือนเดิม แต่ไม่มีไฟ ไม่มีน้ำติดต่อข้างนอกไม่ได้ คือน้ำไหลลงจากเขา ผมไม่เคยเจอมาก่อนก้อนหินก้อนเท่าบ้านใหญ่ จริงๆ นึกว่าดิสนีย์แลนด์ แต่ไม่ใช่ครับมันคือชีวิตจริง แล้วสุดท้ายก็ไปถึงสนามบินจนได้ นอกจากผมก็มีนายแบบฝรั่งคือชาวต่างชาติ มี นก อุษณีย์ ไปด้วย”
บอก ชาวบ้านยังรอความช่วยเหลืออยู่มาก ใครที่พอช่วยอะไรได้ก็อยากให้ช่วยเหลือกัน
“เพิ่งคุยกับเพื่อนคนที่ขับรถให้นะครับ เขาก็บอกว่าฝนยังตกอยู่ เงิน 100-200-500 เงินทุกบาททุกสตางค์ เสื้อผ้าอะไรก็แล้วแต่ส่งไปเลยครับ ผมดีใจที่ได้กลับบ้าน ได้กลับมาเจอแม่ ได้กลับมาทำงานต่อ แต่ชีวิตของคนที่นั่นต้องหยุดนิ่งไปพักใหญ่เลยครับ”
ที่มา: manager.co.th
