Author Topic: กูเกิลเพิ่มฟีเจอร์ +1 ให้ผู้ใช้ "Like" ผลการค้นหา  (Read 1508 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai




กูเกิลประกาศเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ "+1" ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแสดงความชื่นชอบแก่ผลการค้นหาและโฆษณาที่โดนใจได้ มาในรูปปุ่ม +1 ให้ผู้ใช้ได้กดเพื่อแนะนำเพื่อนว่าลิงก์เว็บไซต์นี้มีคุณภาพไม่ผิดหวัง เชื่อ +1 จะสามารถเป็นสัญลักษณ์เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ผลการค้นหาของกูเกิลได้อย่างเป็นรูปธรรม
       
       ฟีเจอร์ +1 จะปรากฏขึ้นหลังจากมีการค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์ โดยจะมีปุ่ม "+1" ต่อท้ายลิงก์ของผลการค้นหา เมื่อมีการคลิกปุ่มดังกล่าว ผู้ใช้ที่มีรายชื่ออยู่บนกูเกิลโปร์ไฟล์ของผู้ใช้กูเกิลจะสามารถมองเห็นชื่อของเพื่อนที่กด +1 ซึ่งจะปรากฏอยู่ด้านล่างของลิงก์เว็บไซต์นั้นๆ ทำให้เว็บไซต์ที่ปรากฏในหน้าผลการค้นหามีความน่าเชื่อถือมากขึ้น โดยจะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนที่อาจค้นหาด้วยคำค้นเดียวกันในครั้งต่อไป
       
       ความเคลื่อนไหวเรื่องการเปิดทางให้ผู้ใช้ได้แนะนำเว็บไซต์แก่เพื่อนครั้งนี้ของกูเกิลถูกมองว่าเป็นการตอบโต้เครือข่ายสังคมอย่างเฟซบุ๊ก (Facebook) ซึ่งมีปุ่ม Like ให้กดเพื่อให้ผู้ใช้แสดงความชื่นชอบความเห็น รูปภาพ หรือวิดีโอใดๆ อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารของกูเกิลปฏิเสธและบอกว่าเป็นความพยายามในการเพิ่มคุณสมบัติด้านสังคมของกูเกิลเอง โดยนอกจากหน้าผลการค้นหาของกูเกิล กูเกิลยังมีแผนให้เจ้าของเว็บไซต์อื่น ทั้งที่ลงและไม่โฆษณากับกูเกิลไว้ สามารถนำปุ่ม +1 ไปติดไว้ที่หน้าเว็บเพจได้ด้วย
       
       อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตว่าเมื่อมีการคลิก +1 ระบบของกูเกิลจะทำการเก็บบันทึกข้อมูลการค้นหาที่ผู้ใช้งานชื่นชอบเอาไว้ เพื่อใช้ในการเลือกแสดงผลโฆษณาให้สอดคล้องกับข้อมูลที่ชื่นชอบแน่นอน เช่น หากผู้ใช้ค้นหาคำว่า "Coffee" แล้วคลิก +1 ระบบอาจแสดงผลโฆษณากาแฟสตาร์บักหรือแบรนด์อื่นๆ โดยเชื่อกันว่าคุณสมบัตินี้จะทำให้กูเกิลมีข้อมูลให้นักการตลาดสามารถใช้เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงกลุ่มมากขึ้น
       
       นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังมองว่ากูเกิลจะสามารถแก้ปัญหา"คอนเทนต์ฟาร์มเกลื่อนกูเกิล"ได้ เนื่องจากอัลกอริทึมกูเกิลที่เน้นให้คะแนนเว็บไซต์ที่มีผู้ค้นหาเข้าเยี่ยมชมมากที่สุด แล้วแสดงผลลิงก์ดังกล่าวเป็นอันดับต้นๆของการค้นหานั้นไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่าผู้เข้าชมเว็บไซต์ส่วนใหญ่จะประทับใจข้อมูลบนเว็บไซต์นั่นหรือไม่ เพราะวิธีดังกล่าวทำให้เว็บไซต์ที่วางบทบาทเป็นนักรวบรวมข้อมูลจากหลายเว็บไซต์ (คอนเทนต์ฟาร์ม) กลายเป็นผลลิงก์ที่มีอันดับการค้นหาในกูเกิลเหนือกว่าเว็บไซต์เจ้าของข้อมูลโดยตรง จุดนี้ คุณสมบัติ +1 จะทำให้ผลการค้นหาของกูเกิลมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
       
       ทั้งหมดนี้ ผู้บริหารกูเกิลระบุว่า สถิติการ +1 อาจถูกนำมาใช้ในระบบอัลกอริทึมของกูเกิล เพื่อคำนวณอันดับการแสดงผลการค้นหาในอนาคต แต่ยังไม่ใช่ขณะนี้
       
       สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการทดสอบคุณสมบัติ +1 ของกูเกิล จะต้องสร้าง Google Profile เพื่อรวบรวมเครือข่ายผู้ติดต่อซึ่งจะสามารถชมลิงก์ที่ถูกกด +1 ได้ โดยสามารถใช้ได้ร่วมกับเครือข่ายผู้ติดต่อในนานาบริการของกูเกิลทั้ง Gmail หรือในบริการโปรแกรมแชตของกูเกิล ระยะแรกจะให้บริการเฉพาะผู้ใช้ในสหรัฐฯเท่านั้น
       
       นี่ถือเป็นความพยายามอีกครั้งของกูเกิลในแง่เครือข่ายสังคม หลังจาก"Buzz"โครงการเครือข่ายสังคมที่กูเกิลตั้งใจพัฒนาขึ้นนั้นล้มไม่เป็นท่า โดยล่าสุด กูเกิลตัดสินใจยอมความกับคณะกรรมการการค้าสหรัฐฯหรือ FTC ซึ่งตั้งข้อกล่าวหาว่ากูเกิลใช้กลยุทธ์หลอกลวงและละเมิดนโยบายความเป็นส่วนตัวด้วย Buzz ซึ่งถูกเปิดตัวในปี 2010 ที่ผ่านมา โดยกูเกิลยินยอมให้ FTC ตรวจสอบอย่างอิสระทุกปี ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องตลอด 20 ปีข้างหน้า
       
       Company Related Link :
       Google

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
6034 Views
Last post March 03, 2009, 06:05:12 PM
by Reporter
0 Replies
6918 Views
Last post June 10, 2010, 02:08:06 PM
by Nick
0 Replies
6224 Views
Last post October 21, 2010, 05:59:35 PM
by Nick
0 Replies
5912 Views
Last post October 21, 2010, 10:23:15 PM
by Nick
0 Replies
7866 Views
Last post October 23, 2010, 12:51:34 PM
by Nick
0 Replies
6381 Views
Last post December 22, 2010, 09:47:59 PM
by Nick
0 Replies
4421 Views
Last post January 11, 2011, 01:45:43 PM
by Nick
0 Replies
7601 Views
Last post January 13, 2011, 04:29:26 PM
by Nick
0 Replies
5296 Views
Last post February 27, 2011, 11:13:31 PM
by Nick
0 Replies
6757 Views
Last post March 11, 2011, 04:59:35 PM
by Nick