เอชพีเชื่อตลาดไทยยังมีโอกาสขยายตัว หลังประสบความสำเร็จทำตลาด HP-UX มากว่า 25 ปี ปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 1 ล้านเครื่องทั่วโลก เดินหน้ากำหนดทิศทางการพัฒนาสร้างความมั่นใจผู้ใช้ว่ายังอยู่ในตลาดนี้อีกกว่า 15 ปี พร้อมตั้งเป้าเติบโตในไทย ด้วยการเปิดตัวโปรดักต์ใหม่ นำเสนอระบบปฏิบัติการ UNIX เวอร์ชันล่าสุดเสริมสมรรถนะในการทำเวอร์ชวลไลเซชันในสภาพแวดล้อมแบบ mission-critical มุ่งลดค่าใช้จ่ายโดยรวมในการดูแลระบบที่ตํ่าที่สุดของกลุ่มองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่
รุ่งโรจน์ เมธีดุลย์สถิต ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ Business Critical Systems (BCS) กลุ่มธุรกิจ Technology Solutions Group บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) หรือเอชพี กล่าวว่า จากประสบการณ์ของ HP-UX ที่อยู่ในตลาดมาครบ 25 ปี ปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 1 ล้านเครื่องทั่วโลก นับเป็นผู้นำอันดับ 1 ในกลุ่มละตินอเมริกาและเอเชีย โดยปัจจุบันมีแอปพลิเคชันที่รันบน HP-UX แล้วกว่า 14,000 แอปพลิเคชัน โดยเฉพาะในปี 2006-2008 มีแอปพลิเคชันที่รันบน HP-UX เพิ่มมากขึ้นกว่า 24% มีฐานลูกค้าอยู่ในกลุ่มต่างๆเช่น บริษัทด้านโทรคมนาคม กิจการธนาคาร โดยพบว่ามีการนำระบบปฏิบัติการ HP-UX ไปใช้ร่วมกับแอปพลิเคชันเพื่อทำงานบิลลิ่งแล้วกว่า 30% ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น 26-27% และเมื่อเปลี่ยนระบบปฏิบัติการจากเวอร์ชัน 2 เป็นเวอร์ชัน 3 ส่งผลให้ประสิทธิภาพของเครื่องเพิ่มขึ้นถึง 25-30%
“ตลาดรวมยูนิกส์ทั่วโลกในปีนี้ตกประมาณ 18,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งตกลงจากปีที่ผ่านมาประมาณ 1-2 %”
ผู้บริหารเอชพี กล่าวว่า แม้ตลาดรวมทั่วโลกจะตกนิดหน่อยแต่ในส่วนประเทศไทยคาดว่ายังคงมีการขยายตัวอยู่ กำลังซื้อของคนไทยยังคงมีอยู่แม้จะหดตัวลงบ้างก็ตาม โดยในส่วนของเอชพีตั้งเป้าว่าปีนี้จะมีการเติบโตเป็นตัวเลขประมาณ 1 หลัก จากปีที่ผ่านมามีการเติบโตในระดับ 2 หลัก โดยที่ผ่านมาเอชพีมุ่งทำตลาดในภาคเอกชนเป็นหลัก แต่พบว่าสามารถทำรายได้ได้ดีในตลาดราชการ มาในปีนี้จึงมุ่งให้ความสำคัญกับตลาดภาคราชการมากยิ่งขึ้น
“เอชพียังมีคงมีการวาง roadmap ที่แน่นอนของโปรดักต์ในกลุ่มนี้อย่างชัดเจนอีก 15 ปีเป็นอย่างน้อย ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าอย่างน้อยอีก 15 ปี เอชพีจะยังมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ไม่หายไปจากตลาด”
ล่าสุดเอชพีเปิดตัวระบบปฏิบัติการ HP-UX 11iv3 ที่มาพร้อมกับ HP Virtual Server Environment (VSE) นำเสนอการรวมขีดความสามารถในการทำเวอร์ชวลไลเซชันเข้ากับระบบปฏิบัติการ ทำให้องค์กรธุรกิจมีระบบการควบคุมที่ดียิ่งขึ้น แต่ใช้เวลาและการดูแลบริหารจัดการระบบลดลง นอกจากนี้ ระบบปฏิบัติการ HP-UX 11iv3 รุ่นใหม่นี้ ยังนำเสนอประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 50 ในการทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันของออราเคิล เอสเอพี และกับระบบการทำงานที่ใกล้เคียงกัน ด้วยค่าใช้จ่ายโดยรวมในการดูแลระบบที่ลดลง
“HP Virtual Server Environment ที่ใช้กับระบบปฏิบัติการ HP-UX 11i สามารถทำเวอร์ชวลไลเซชันในสภาพแวดล้อมแบบ mission-critical มีความพร้อมใช้งานสูง บริหารจัดการค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ และความยืดหยุ่นของระบบปฏิบัติงาน”
องค์กรธุรกิจที่ต้องการเทคโนโลยีเวอร์ชวลไลเซชัน เพื่อพัฒนาสภาพแวดล้อมแบบ mission-critical ขององค์กร จะได้รับประโยชน์จากระบบปฏิบัติการ HP-UX 11i v3 ที่ได้รับการอัปเดตล่าสุด คือ พัฒนาประสิทธิภาพ CPU ภายใน Integrity VM ขึ้นสูงสุดถึง 60% ช่วยให้ลูกค้าสามารถทำการรวมระบบ ด้วยการทำเวอร์ชวลไลเซชันภายใต้ต้นทุนที่ลดลง และเมื่อทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันของออราเคิล เอสเอพี และปริมาณงานอื่นๆ ของ UNIX ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้นสูงสูดถึง 50 %
“ระบบปฏิบัติการ HP-UX 11iv3 Update 3 รุ่นใหม่ล่าสุด เป็นนวัตกรรมของระบบปฏิบัติการ UNIX ที่มีพัฒนาการมายาวนานของเอชพี โดยเวอร์ชันใหม่นี้นำเสนอผลลัพธ์ทางธุรกิจที่สูงที่สุด และค่าใช้จ่ายโดยรวมในการดูแลระบบที่ตํ่าที่สุด สำหรับการใช้งานระบบปฏิบัติการ UNIX ของกลุ่มองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่”