'ซัมซุง'จัดทัพธุรกิจไอทีใหม่ ส่งกล้องดิจิตอล- กล้องวิดีโอ-เอ็มพี3ลุย ขนโน้ตบุ๊กคืนตลาดเป็นหัวหอกทำตลาด
ซัมซุงยกเครื่องกลุ่มธุรกิจไอทีครั้งใหญ่ ดึงกล้องดิจิตอล-เอ็มพี3-กล้องวิดีโอร่วมก๊วน นำโน้ตบุ๊กกลับเข้าทำตลาดอีกครั้งพร้อมดันเป็นหัวหอกรุกตลาด ชูคุณภาพ-ดีไซน์สร้างความต่าง ตั้งเป้าปีนี้กลุ่มธุรกิจไอทีโต 40%
นายบุญเลิศ วิบูลย์เกียรติ หัวหน้ากลุ่มธุรกิจไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า บริษัทได้ดำเนินการปรับโครงสร้างธุรกิจไอทีใหม่ ด้วยการนำสินค้าประเภทอุปกรณ์ดิจิตอล (Digital Gadget) ประกอบด้วย กล้องดิจิตอล เครื่องเล่นเพลงเอ็มพี3 และกล้องวิดีโอ เข้ามาอยู่ในกลุ่มสินค้าไอที นอกจากนี้ยังได้นำสินค้าใหม่โดยนำผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์พกพาหรือโน้ตบุ๊ก กลับเข้ามาทำตลาดอีกครั้ง หลังหยุดทำตลาดไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว พร้อมกันนั้นยังได้นำผลิตภัณฑ์กรอบรูปดิจิตอล และเครื่องฉายโปรเจ็กเตอร์เข้ามาเสริมการทำตลาดกลุ่มสินค้าไอที
"ปีนี้เราพยายามนำเสนอภาพของกลุ่มธุรกิจไอทีให้มีความครบวงจร (Total IT Solution) โดยมีโน้ตบุ๊กเป็นหัวหอกในการทำตลาดหลัก ซึ่งเรามองว่าตลาดไอทีมีโอกาสในการเติบโตได้อีกเยอะ โดยผลิตภัณฑ์เดิมที่เราขายอยู่ อาทิ พรินเตอร์ มอนิเตอร์ อุปกรณ์ออพติคัลไดรฟ์ และอุปกรณ์นำเสนอภาพขนาดใหญ่ นั้นอยู่ในตลาดที่มีมูลค่าประมาณ 14,000 ล้านบาท ขณะที่ตลาดรวมสินค้าไอทีมีมูลค่า 70,000 ล้านบาท แต่ภายหลังจากที่เรานำโน้ตบุ๊กเข้ามาเสริมการทำตลาด ทำให้มูลค่าตลาดที่เรามีสินค้าทำตลาดอยู่มีมูลค่า 40,000 ล้านบาท"
สำหรับการทำตลาดโน้ตบุ๊กนั้นบริษัทจะมุ่งเน้นการนำเสนอคุณภาพ จากการเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ และหน้าจอที่ใหญ่สุดของโลก รวมไปถึงการนำเสนอดีไซน์ออกแบบที่แตกต่าง แต่จะไม่มุ่งนำเสนอสินค้าโดยมีจุดขายด้านราคาเป็นหลัก ล่าสุดได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิดนวัตกรรม "Lighter Than Air" ที่มุ่งเน้นรองรับการใช้งานแบบเคลื่อนที่ (Mobility) การเชื่อมต่อ (Connectivity) และแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นาน 8-10 ชั่วโมง ทั้งนี้ประกอบด้วยซัมซุง เอ็กซ์ ซีรีส์ เอ็กซ์ 460 และเอ็กซ์ 360 โน้ตบุ๊ก ที่บางเบาที่สุดในโลก ทำจากวัสดุแมกนีเซียมอัลลอยด์ ซัมซุงคิวซีรีส์ ที่มุ่งเจาะกลุ่มผู้ชอบดีไซน์ , ซัมซุงอาร์ซีรีส์ สำหรับนักเรียนนักศึกษา และมินิโน้ตบุ๊ก เอ็นซี 10 ซึ่งตามแผนปีนี้คาดว่าจะเปิดตัวโน้ตบุ๊กทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 20 รุ่น คาดว่าสิ้นปียอดขายทะลุ 25,000 เครื่อง
"ปีนี้เราคงไม่ได้ตั้งเป้ายอดขายไว้สูง แต่เราต้องการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งส่วนของตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการ โดยปีนี้คาดว่าจะมีร้านค้าทั่วประเทศประมาณ 1,200-1,500 ราย ส่วนศูนย์บริการนั้นปีนี้จะมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค 2 คน คอยให้บริการประจำศูนย์ซัมซุงทั้ง 23 แห่ง "
นายบุญเลิศ กล่าวต่อไปว่า ปีนี้กลุ่มธุรกิจไอทีตั้งเป้าหมายการเติบโตใกล้เคียงกับปีที่แล้ว คือ 40% โดยปีที่ผ่านมากลุ่มธุรกิจไอทีมีรายได้ ประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ประมาณ 3,500 ล้านบาท (อัตรา 1 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อ 35 บาท) โดยผลิตภัณฑ์ที่มีโอกาสเติบโตปีนี้ คือ เลเซอร์พรินเตอร์ที่ปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดอันดับ 2 โดยไตรมาสสุดท้ายปีที่ผ่านมามีส่วนแบ่งตลาด 25% นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ออพติคัลไดร์ฟ ที่แบรนด์จากไต้หวันประสบปัญหาจากวิกฤติเศรษฐกิจ ขณะที่ซัมซุงยังแข็งแกร่งอยู่ทำให้ค่อนข้างมีโอกาส โดยไตรมาสแรกมีส่วนแบ่งตลาด 26-27% เติบโตขึ้น 40%
ที่มา: thannews.th.com
