Author Topic: “จุ๋ย” โฮ เสียใจเลิก “นิว” รับ คิดแต่ง บอก อยากให้เป็นผู้ชายคนแรกเหมือนที่แม่มีพ่อเป็นคนแ  (Read 1059 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


       “จุ๋ย” ปล่อยโฮ เสียดายต้องเลิก “นิว” รับ คาดหวังถึงขั้นแต่งงานกัน พร้อมบอก อยากให้เป็นผู้ชายคนแรกเหมือนที่แม่มีพ่อเป็นคนแรก แต่ในเมื่อเป็นไปไม่ได้ก็ต้องยอมรับมัน เจ้าตัวลั่น นิวยังเป็นคนดีในสายตาเสมอ ยัน “พอร์ช” ไม่ใช่มือที่3 ด้าน “นิว” เผย เสียใจที่ต้องจบแบบนี้ ย้ำ จุ๋ยก็เป็นคนที่อยากอยู่ด้วยจนแก่เฒ่าเช่นกัน
       
       ทำเอาอึ้งไปตามๆ กันหลังนางเอก “จุ๋ย วริทยา นิลคูหา” ออกมายอมรับว่าเลิกรากับ “นิว วงศกร ปรมัตถากร” มาร่วมปีแล้ว ซึ่งให้เหตุผลเพราะว่าเป็นเรื่องระหว่างคนสองคน ทั้งนี้ตั้งแต่ออกมาประกาศเลิกราก็มีข่าวเม้าท์ถึงเรื่องมีที่สาม ทั้งสองฝ่ายอย่างสาวจุ๋ยเองก็มีข่าวลือว่าพระเอกหนุ่มรุ่นน้อง “พอร์ช ศรัณย์ ศิริลักษณ์” มาตามจีบ อีกทั้งยังมีคนตาดีเห็นว่ามีการไปรับไปส่งถึงบ้านของฝ่ายหญิงอีกด้วย แต่สาวจุ๋ยก็ได้ปฏิเสธชัดเจนว่าพอร์ชไม่ใช่มื่อที่สามแน่นอน
       
       ด้านนิวก็มีข่าวกับดาราสาว “ตาล กัญญา รัตนเพ็ชร” ว่ากำลังกิ๊กกันอยู่ ซึ่งนิวก็ได้ปฏิเสธไปแล้วเช่นกันว่าไม่มีอะไรในกอไผ่ ซึ่งเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 23 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา หนุ่มนิวเองได้มาร่วมงาน Summer Trend Update 2011 ที่เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ เจ้าตัวก็ได้เปิดใจถึงความรู้สึกหลังต้องเลิกรากับจุ๋ยทั้งที่ประคับประคองรักกันมานานถึง 4 ปีว่า….
       
       “จริงๆ แล้วเรื่องของความรักไม่ได้มีแค่ความรักอย่างเดียวมันต้องมีอย่างอื่นเป็นส่วนประกอบด้วย และก็เป็นที่เราทั้งสองฝ่ายก็ต้องยอมรับว่ามันไม่ประสบความสำเร็จที่ตั้งใจไว้ คือเรื่องแต่งานเป็นแผนที่ผมวางอนาคตไว้ไกลมาก แต่เราต้องยอมรับความจริงสุดท้ายแล้วมันไม่ใช่ แต่เราก็ยังมีความรู้สึกดีๆ ต่อกันอยู่ ไม่ได้เกลียดไม่ได้โกรธไม่ได้ทะเลาะกันอย่างที่เป็นข่าว เพียงแต่ว่าเราคิดว่าเราไม่สามารถที่จะประคับประคองต่อไปได้ มันไม่ใช่คนใดคนหนึ่งเป็นคนตัดสินใจต้องมานั่งคุยกันสุดท้ายทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเรา เป็นเพื่อนกันจะดีกว่า ซึ่งก่อนหน้านี้เรามีการยื้อไว้ก่อนก่อนที่จะตัดสินใจ เราใช้เวลาประมาณ 9 เดือนที่คุยกัน”
       
       “ถ้าถามถึงปัญหาคือสำหรับเราพื้นฐานก็ไม่คิดว่าเราสองคนเป็นเจ้าของของกันและกัน ในเมื่อสุดท้ายแล้วความรักของเราไม่ประสบความสำเร็จ มันไปไม่รอดต้องยอมรับความจริง ต่างคนก็ต้องต่างเริ่มชีวิตใหม่ แต่ตอนที่เราคบกันมา เราไม่เคยทะเลาะกันเลย แต่เรื่องของเวลามันก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่มันมีปัญหาเรื่องอื่นหลายเรื่องซึ่งบางทีอย่างที่บอกคนเราคบกันไม่ใช่แค่รักกันอย่างเดียว ต้องมีพื้นฐานอีกหลายๆ ข้อซึ่งเราต้องยอมรับเราทำอะไรไม่ได้”
       
       “ส่วนเรื่องมือที่สามไม่ใช่เลย เราสองคนมีปัญหากันมานานแล้ว ตกลงคุยกันต่างคนก็มอบความอิสระให้แก่กัน เพราะต่างคนก็มีสิทธิ์ที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่แล้วน้องเขาก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกใครสักคนที่คิดว่าดีที่สุดสำหรับเขา ทุกวันนี้ก็ยังทำร้านอาหารด้วยกัน ทำงานด้วยกันมีผู้จัดการคนเดียวกันอยู่ในแก๊งเดียวกันไปไหนมาไหนก็เจอกันบ้าง ร้านก็ยังไม่ถอนหุ้น เพราะเราไม่เคยทะเลาะกันเรื่องร้าน เพราะฉะนั้นมันต้องแยกแยะระหว่างเรื่องส่วนตัวกับเรื่องธุรกิจ ถ้ารับงานคู่ด้วยกันอีกก็ได้คือตอนนี้จริงๆ ก็ยังรับอยู่แต่หลายคนก็ยังไม่ทราบ”
       
       แจง แม้จะต้องเลิกกันไปแต่ก็ไม่ได้ฟูมฟายอะไรมากนัก เพราะใช้เวลาหลายเดือนในการตัดสินใจ
       “สำหรับตัวผมที่ประกาศห่างกันวันแรกก็ไม่ได้ที่จะฟูมฟายอะไรมากนัก เพราะเราไม่ได้คุยกันปุ๊บแล้วเราตกลงกันเลย อย่างที่บอกไปว่าเราใช้เวลาหลายเดือนมากในการตัดสินใจ และพยายามกันทั้ง 2 ฝ่ายแล้วประคับประคองความรักของเรา โดยหวังว่าให้มันจะดีขึ้น สุดท้ายเราต้องยอมรับความจริง ว่ามันไปด้วยกันไม่ได้ต้องยอมรับมัน แต่ตอนมีจุ๋ยกับตอนนี้ไม่มีจุ๋ยแล้วก็ไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ แต่ถ้าถามว่าเสียน้ำตามั้ย ลูกผู้ชายถ้าเกิดเสียน้ำตาก็ไม่ให้ใครเห็นอยู่แล้วครับ นอนร้องไห้ทุกคืนเลยครับ พูดเล่นครับพูดเล่น(หัวเราะ)”
       
       “ตอนนี้ก็เพียงแต่ประคับประคองตัวเอง เพราะผมก็คนธรรมดาคนนึงแหละ เวลาคนทั่วไปเขามีความรักแล้วผิดหวังในความรักเขาเป็นยังไง เราก็เป็นอย่างนั้น แต่ว่าจากวันนั้นถึงวันนี้ก็ดีขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะว่าระยะเวลามันก็นาน เราก็มีเพื่อนมีงานได้ทำในสิ่งที่เรารัก และก็พยายามไม่อยู่คนเดียว มันผ่านในช่วงที่กินไม่ได้นอนไม่หลับไม่อยากออกไปไหน ช่วงแย่ๆ มันผ่านมาแล้ว ตอนนี้ก็เริ่มออกไปไหนมาไหนกับเพื่อนๆ บ้าง ยังไม่ทันไรเลยก็มีเรื่องละ ก็ประมาณนั้น ถ้ามันไม่มีข่าวมีเรื่องมีราวมันก็จะดีกว่านี้ แต่พอมีเรื่องมีข่าวปุ๊บมันก็กลับมาทำให้เราคิดอีก จริงๆ เรื่องมันจบไปแล้วก็อยากให้มันจบด้วยดีให้มันผ่านไป”
       
       รับ หลังจากประกาศเลิกทุกข่าวที่ออกมาทรมานใจหมด ใช้วิธีประคับประคองตัวเองด้วยการที่จะไม่อยู่คนเดียว
       “ทุกข่าวเลยทรมานหัวใจผม คือที่พูดแบบนี้คือว่าเรื่องของคน 2 คนมันก็ควรจะจบแค่คน 2 คนไม่อยากดึงคนโน้นคนนี้มาเกี่ยวข้อง ต้องทำคนอื่นเขามาเดือดร้อนทั้งๆ ที่อย่างในข่าวก็เห็นอยู่แล้วว่าในเนื้อข่าวเองก็เฉลยแล้วว่ามันไม่ใช่ แล้วจะเขียนข่าวแบบนี้ทำไม ซึ่งถึงมันจะทำให้ผมทรมานใจเท่าไหร่ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อเรื่องงานครับ เพราะว่าเราแยกแยะได้ เพราะเราทำงานมาหลายปีแล้วว่าอะไรคืองานอะไรคือเรื่องส่วนตัว ถ้าถามว่ารู้สึกมั้ยก็รู้สึกว่าไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว ก็รู้สึกเหงาๆบ้าง”
       
       เผย เหงา แต่ตอนนี้มีน้องหมาเป็นเพื่อน
       “เหงาครับ ทุกคนก็ต้องเดินหน้าต่อไป ต้องมีชีวิตใหม่ที่ต้องสู้ต่อไปจะมานั่งจมอยู่กับความเศร้าตลอดไปมันคงไม่ได้ ถ้าเรากลับไปลองอีกสักครั้งก็คงไม่ใช่ตอนนี้ เพราะเราไม่ได้ทะเลาะกันปุ๊บปั๊บแล้วเราตัดสินใจ เราพยายามแล้ว เราให้เวลากับมันนานมาก แต่สุดท้ายมันไม่เป็นแบบที่เราต้องการเราก็ต้องยอมรับว่าไม่ประสบความสำเร็จ ก็ไม่ได้รังเกียจที่จะมีแฟนเป็นนางเอกอีกหรอกนะครับ แต่กะว่าจะหาแฟนเป็นนักข่าวบ้าง (หัวเราะ) เราก็เป็นแค่คนธรรมดาคนนึง เราก็คิดว่าเราจะใช้ชีวิตร่วมกับเขาไปจนแก่จนเฒ่า แต่วันนั้นจะถึงเมื่อไหร่เราก็ไม่รู้”
       
       “แต่ตอนนี้มีน้องหมาไว้แก้เหงา คือไปถ่ายละครน้องหมาเขาหลงมาในกองถ่ายก็เลยเก็บมาพาไปหาคุณหมอไปไว้ที่โรงพยาบาล แต่ตอนนี้รับกลับมาอยู่ที่บ้านแล้วครับ คือเคยมีคนบอกว่าสัตว์ 4เท้าจะนำลาบมาให้ ไม่รู้จริงหรือเปล่า แต่จริงๆ เราก็ไม่ได้โชคร้ายอะไรนะ เราก็ทำงานแล้วก็มีความสุขดีในระดับหนึ่ง ถึงบางทีอาจจะเหงาไปบ้าง แต่ว่าเราก็มีคนที่เข้าใจเราให้กำลังใจเรา สิ่งที่อยากจะขอจริงๆ ในตอนนี้ก็คืออย่างให้พี่ช่วยเป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ ให้เราผ่านเรื่องนี้ไปได้ด้วยดีถึงแม้จะเป็นกำลังใจให้เราไม่ได้ก็ให้มันง่ายขึ้นสำหรับเรา ก็อย่างเช่นอย่าดึงคนโน้นคนนี้เข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่องมีที่3 มือที่4 จริงๆ แล้วมันไม่ใช่เลยครับ”
       
       ลั่น ตอนนี้ไม่ได้ปิดโอกาสที่จะคบกับใคร แต่อยากได้คนที่พัฒนามาจากความเป็นเพื่อน
       “ตอนนี้ก็เปิดครับ แต่ว่ายังไม่มีใครที่ คือจริงๆ แล้วตอนนี้ต้องการแค่เพื่อนคุยเพราะว่าหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ ผมรู้สึกว่าตัวผมเองมีเพื่อนน้อยมากและก็เพิ่งรู้อีกเหมือนกันว่าเพื่อนทุกคนเขาเป็นห่วงเราแค่ไหน ก็เป็นเหตุการณ์ที่เราเข้าใจอะไรหลายอย่าง แต่ถ้าวันไหนจะมีแฟนอีก ก็คงต้องเริ่มจากการเป็นเพื่อนก่อนแล้วกันแต่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นใคร แต่ตอนนี้เราก็ได้ทำงานที่เรารักแล้วเรามีครอบครัวเรามีเพื่อนเข้าใจเราก็โอเคครับ วันนึงข้างหน้ามันต้องมีแหละครับแต่ตอนนี้มีหรือยัง ก็ยังไม่มีครับ”
       
       ทั้งนี้ช่วงบ่ายวันเดียวกันจุ๋ยได้มาร่วมงานเปิดตัวโรงภาพยนตร์ KTB Digital Cinema ณ โรงภาพยนตร์สยามภาวลัย ชั้น 6 พารากอนซีนิเพล็กซ์ พร้อมกับเปิดใจอีกครั้ง ซึ่งเมื่อเจ้าตัวได้ทราบเรื่องที่นิวพูดถึงเรื่องอดีต ก็ทำเอาสาวจุ๋ยถึงกับร้องไห้ออกมาเลยทีเดียว
       
       “เรื่องแต่ละข่าวที่เข้ามาตอนนี้จุ๋ยเข้าใจนะ เข้าใจวงการบันเทิงเข้าใจว่าถ้ามันมีเรื่องราวของการเลิกรา โสดแล้วจะเป็นยังไง ดังนั้นก็เลยรู้สึกว่าทำใจได้เฉยๆ”
       
       “กับพอร์ชเป็นเพื่อนเป็นรุ่นน้องที่สนิทกันในกองถ่าย ยอมรับว่าสนิทเขาเป็นเพื่อนร่วมงานที่คุยกันได้ แต่ไม่ได้คุยลึกเรื่องส่วนตัว มีอะไรก็เฮฮากันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ คือจุ๋ยรักเด็กจริงนะ แต่เป็นเด็กตัวเล็กๆ อันนั้นรัก เรื่องพอร์ชไปตามส่งถึงบ้าน เอาเป็นว่าเรื่องนี้ไม่จริง แต่ว่าในกลุ่มที่กองถ่ายก็เคยมีชวนว่าไปกินข้าวที่บ้านไหม หรือจะไปทานข้าวที่ร้านเราไหม แต่ว่ายังไม่มีใครว่างได้ไปกันสักคน”
       
       “ยืนยันค่ะว่าพอร์ชไม่ใช่มือที่สาม เอาเป็นว่าเป็นเรื่องของพี่นิวและจุ๋ยเท่านั้น เรื่องที่พอร์ชที่บอกว่าจุ๋ยตรงสเปค จุ๋ยถามเขาแล้วล่ะ คิดว่าอาจจะเป็นการสื่อสารที่เข้าใจผิดมากกว่า เขาบอกว่าเราเป็นคนที่น่ารัก เป็นสเปคของผู้ชายหลายๆ คนไม่ใช่แค่เขาคนเดียว ไม่ได้ตรงสเปคมาก ถามว่าพอร์ชตรงสเปคไหม จะบอกว่าจุ๋ยเป็นคนไม่มีสเปคนะ ชอบนิสัยไม่ชอบที่หน้าตา แต่ชอบคนผิวขาว แต่ไม่ได้เกี่ยวว่าเป็นพอร์ช”
       
       เผย ยังติดต่อกับ “นิว วงศกร” อยู่ตลอด เชื่อใจอีกฝ่ายไม่กิ๊ก “ตาล กัญญา” ดารารุ่นน้อง บอกตั้งแต่เลิกกันไม่เคยก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว ลั่น ไม่เปิดรับใครใหม่เพราะยังไม่พร้อม ขอบคุณความหวังดีที่หลายคนอยากให้กลับมาคบกัน
       
       “ตอนนี้ก็ยังคุยกับพี่นิวอยู่เมื่อวานก็เพิ่งคุย พรุ่งนี้ก็จะมีงานแต่งงานของผู้จัดการส่วนตัว ก็ต้องเจอกัน ข่าวพี่นิวกับน้องตาลจะบอกว่าจุ๋ยสงสารทุกคนที่เป็นข่าว ที่ต้องโดน จริงๆ เขาเป็นเพื่อนกันหมด มันไม่ผิดที่ทำงานด้วยกันแล้วจะสนิทหรือไปทานข้าวหรือบีบีคุยกัน เรื่องนี้พูดตรงๆ ว่าตั้งแต่เลิกกันมา จุ๋ยไม่ได้ยุ่งเรื่องส่วนตัว เพราะเคารพในสิทธิของเขา เขาจะเจอใครใหม่หรือจุ๋ยจะเจอใครใหม่ ก็เป็นเรื่องส่วนตัว แล้วเราจะไม่คุยถึงเรื่องนี้ เราจะคุยเรื่องสารทุกข์สุกดิบ เรื่องอื่นมากกว่า”
       
       “ที่พี่นิวบ่นว่าเหงา ก็อยากถามว่าเหงาอะไร (หัวเราะ) ไม่หรอกเห็นเพื่อนเขาเยอะ มีหลายแก็งค์ของเขา เขาเป็นคนมีเพื่อนเยอะเหมือนกัน พอเลิกกันแล้วก็เพิ่งรู้ว่าเขามีเพื่อนเยอะนะ จุ๋ยเองก็อาจจะมีช่วงหนึ่งที่รู้สึกเหงาหรือโหวงๆ แต่เราก็มีงานมีเพื่อน มันก็ทำให้หายเหงาไปได้ ตอนนี้บอกได้เลยว่าโสดสนิท ไม่กิ๊กไม่กั๊กไม่คบใคร ไม่พร้อมจะเรียนรู้ใครขอเว้นวรรคชั่วคราว”
       
       “หลายคนก็หวังดีที่อยากให้กลับมาคบกัน ก็ต้องขอขอบคุณ ความหวังดีหรือความรู้สึกดียังมีให้พี่นิวเสมอ แต่ถามว่าคนที่มันไม่ใช่ยังไงก็ไม่ใช่ ดังนั้นเราก็ไม่เสียเวลา เขาเป็นคนดีสำหรับจุ๋ยเสมอ อนาคตก็ไม่รู้จะยังไง ณ วันนี้ยังไม่แน่นอน”
       
       ก่อนหน้าเพียงไม่ถึงชั่วโมง “นิว วงศกร” ให้สัมภาษณ์ว่าเสียดายที่ต้องเลิกกัน ซึ่งทันทีที่เจ้าตัวทราบเรื่องถึงกับร้องไห้ออกมาพร้อมเผยว่า ตนก็เคยคาดหวังถึงขั้นจะแต่งงานกับนิวเช่นกัน เพราะอยากให้ฝ่ายชายเป็นคนแรกเหมือนที่แม่ของตนเองมีพ่อเป็นคนแรกเหมือนกัน
       
       “ที่พี่เขาบอกว่าอยากให้จุ๋ยเป็นคนที่ใช่และจะแต่งงานด้วย แต่พอเลิกกันแล้วรู้สึกเสียดาย จะบอกว่าจุ๋ยก็เคยหวังเหมือนกัน ในเมื่อวันหนึ่งมันไปไม่ได้ถึงขนาดนั้น เราก็ต้องรู้ตัวเอง จริงๆ พี่นิวก็รู้ เขาก็พูดในจุดที่เราห่างกัน การคบใครสักคนหนึ่งเราไม่เคยคิดว่าเราจะเลิก อยากจะไปให้มันสุด อย่างแม่จุ๋ยมีพ่อเป็นคนแรก จุ๋ยก็อยากให้พี่เขาเป็นคนแรกเสมอ เข้าใจไหม(ร้องไห้)”
       
       จู่ๆ เห็นสาวจุ๋ยร้องไห้ออกมาอย่างพรั่งพรู ก็ทำเอาผู้สื่อข่าวถึงกับอึ้งไปตามๆ กัน ก่อนจะยุติการสัมภาษณ์เพื่อให้เจ้าตัวได้ทำใจ ซึ่งพอสาวจุ๋ยรวบรวมสมาธิได้และหันไปซับน้ำตาเสร็จเรียบร้อย เจ้าตัวก็แสดงสปิริตหันมายิ้มให้กับผู้สื่อข่าว และยืนให้ช่างภาพถ่ายภาพอย่างเต็มที่ก่อนจะขอตัวกลับ


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)