“ณเดชน์” โผล่รับแล้ว ไม่ใช่ลูกครึ่งญี่ปุ่น ที่แท้เป็นลูกครึ่งไทย-ออสเตรีย ยัน ไม่คิดจะปิดบัง แต่ที่ไม่ได้ออกมาบอกเพราะยังไม่ถึงเวลา เผย ที่ต้องบิดเบือนเพราะต้องการให้เกียรติพ่อบุญธรรมที่เป็นชาวญี่ปุ่น เจ้าตัวโว ไม่ซีเรียส พร้อมปัด “เอ” ผู้จัดการเป็นคนจัดฉาก
เข้าวงการมาด้วยการเปิดตัวว่าตนเองเป็นลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นจนเป็นที่ฮือฮา สร้างจุดสนใจจนสาวๆ กรี๊ดกันทั่วบ้านทั่วเมือง แต่แล้วจู่ๆ ก็มีคนออกมาแฉว่า “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ไม่ใช่ลูกครึ่งญี่ปุ่นอย่างที่กล่าวอ้าง หากแต่เป็นลูกครึ่งไทย-ออสเตรียต่างหาก งานนี้ก็เลยทำเอาหลายคนถึงกับช็อคไปตามๆ กัน ไม่คิดว่าพระเอกขวัญใจจะเมคประวัติตัวเองขึ้นมาหลอกลวง หลังจากที่เก็บตัวเงียบมาหลายวัน ล่าสุดหนุ่มณเดชน์ก็ออกมาเคลียร์เรื่องดังกล่าวด้วยตัวเอง โดยยอมรับแต่โดยดีว่า เรื่องที่โดนขุดคุ้ยเป็นเรื่องจริง ตนไม่ใช่ลูกครึ่งญี่ปุ่นอย่างที่เคยบอกไว้
“ข่าวที่บอกว่าผมไม่ใช่ลูกครึ่งญี่ปุ่น ผมอยากจะบอกตรงนี้เลย คืออยากบอกมานานแล้ว แต่ว่ายังไม่ถึงเวลาแต่ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้องพูด ผมก็อยากจะบอกว่าใช่ครับ ผมไม่ใช่ลูกครึ่งญี่ปุ่น แต่ว่าคุณพ่อบุญธรรมผมเป็นคนญี่ปุ่น ผมก็เลยให้เกียรติคุณพ่อผม ด้วยการที่บอกว่าผมเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น ชื่อผมที่อยู่ที่ญี่ปุ่นก็มีครับ ซึ่งจริงๆ แล้วผมเป็นลูกครึ่งออสเตรียครับ คุณพ่อจริงๆ ผมเป็นออสเตรีย”
“คืออย่างที่บอกว่าเป็นการให้เกียรติ เพราะว่าตั้งแต่ผมเกิดมา ผมก็อยู่กับคุณแม่และก็ปะป๊ามาตลอด ทุกคนรักผมและนี่ก็คือความรักที่ผมมอบให้ทุกคน คือการทำงานและก็การที่ผมบอกว่าผมเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น และถ้าผมออกมาพูดตั้งแต่แรกว่าผมไม่ใช่แบบนี้จริงๆ ก็คงไม่มีใครมาสนใจหรอก”
โว ไม่ซีเรียสกับข่าวที่เกิดขึ้น เพราะตนไม่ได้ต้องการที่จะปิดบังตั้งแต่แรก
“กับข่าวที่ออกมาก็ไม่ได้ทำให้ผมรู้สึกอึดอัดหรือซีเรียสอะไร เพราะว่าจริงๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผมจะมาปิดบังอะไรไว้ มันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องพูดตั้งแต่ตอนนั้น แต่ตอนนี้มันถึงเวลาพูด เพราะว่าทุกคนมาให้ความสนใจกับเรื่องนี้แล้ว แต่ก็อยากจะขอบคุณแฟนๆ ที่คอยให้กำลังใจมาตลอด ก็อยากจะบอกว่าไม่ได้เครียดไม่ซีเรียสครับ เพราะว่ามันไม่ได้มีอะไรเลย”
งานนี้คนที่โดนมองเป็นคนจัดฉากก็เลยหนีไม่พ้น “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” ผู้จัดการสวนตัวของ “ณเดชน์” ซึ่งเรื่องนี้ถึงกับทำให้เอบ่นว่าเหนื่อยมาก
“พี่เอก็บอกว่าเหนื่อยมาก แต่ก็ไม่รู้นะว่าใครจะคิดยังไง คือจริงๆ ผมก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะปิดบัง แต่จะให้ผมออกมาบอกว่าผมเป็นลูกคนนี้นะ คนนี้นะ มันก็ไม่ใช่เพราะว่ามันเหมือนว่าจะโจ่งแจ้งเกินไปหรือเปล่า”
ที่มา: manager.co.th