"หลินฟง" หรือ "เรย์มอน แลม" นักแสดงชาวฮ่องกง ถึงกับเครียดเลยทีเดียวหลังมีภาพถ่ายบนเตียงของเขาขณะนอนอยู่กับ "พ่านช่วงช่วง" อดีตแฟนสาวตีพิมพ์ในนิตยสารแท็บลอยด์ เจ้าตัวยอมรับเป็นภาพจริงไม่มีการตัดต่อแต่เป็นภาพเก่าที่อดีตแฟนสาวถ่ายไว้นานแล้ว เชื่อใจไม่ได้ปล่อยออกมาเพื่อเกาะกระแสดัง
เรียกได้ว่าภาพถ่ายบนเตียงของหนุ่มหลินฟง กับ พ่านช่วงช่วง อดีตแฟนสาววัย 23 ปี นักแสดงจากจีนแผ่นดินใหญ่ได้กลายเป็นประเด็นร้อนในฮ่องกงอย่างมากทีเดียว
โดยภาพดังกล่าวเป็นภาพที่พ่านช่วงช่วง ถ่ายไว้โดยมีหลินฟงนอนหลับข้างเธอเป็นแบ็คกราวนด์อยู่ด้านหลัง ซึ่งนิตยสารดังกล่าวได้ตีพิมพ์ภาพเหล่านี้พร้อมกับรูปถ่ายเซ็กซี่ของเธอ ซึ่งตอนแรกทำเอาหลายฝ่ายต่างไม่เชื่อและคิดว่าเป็นการตัดต่อเพราะไม่เคยมีข่าวของคนคู่นี้ แต่ทางฝ่ายหลินฟงได้ออกมายอมรับแล้วว่าครั้งหนึ่งเขาเคยคบหากับพ่านช่วงช่วงจริง
โดยระหว่างลองเสื้อผ้าเพื่อใช้ถ่ายทำ Return to the Three Kingdoms ละครเรื่องใหม่ของทาง TVB เขาได้ยอมรับว่าเวลานั้นพวกเขาทั้งคู่ได้คบกันจริงจังนานหลายเดือน และต่างก็พาไปพบพ่อแม่ของอีกฝ่ายแล้ว แต่ในท้ายที่สุดด้วยเหตุผลส่วนตัวและประกอบกับที่เธอรับไม่ได้ที่เขามีตารางงานยุ่งมากทำให้ทั้งคู่ต้องเลิกรากันไป
โดยเจ้าตัวยอมรับว่า "ก่อนที่ผมจะเข้าวงการนี้ผมก็เคยมีแฟนนะครับ แต่หลังจากที่ผมเข้าวงการได้ทำในสิ่งที่ผมอยากจะทำ ปีแล้วปีเล่าผมต้องเจอกับข่าวลือต่างๆ ซึ่งทั้งหมดต่างก็เป็นเรื่องโกหกทั้งนั้น แต่สำหรับเธอคนนี้ผมกับเธอเคยคบกันมาก่อนจริงๆครับ แต่เราก็เลิกรากันไปนานแล้ว ผมไม่ได้ติดต่อเธอเลย และคงจะไม่ติดต่อด้วยเพราะมันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น"
พ่านช่วงช่วง เป็นนักแสดงสาวจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่มักรับงานถ่ายแบบเซ็กซี่อยู่เสมอ โดยเธอถึงกับถูกขนานนามว่าเป็น ซูฉีน้อย เลยทีเดียว หลังเริ่มมีชื่อเสียงในฐานะนางแบบนั้นเธอก็ได้เซ็นสัญญากับ Poly Group ทำให้เธอได้มาเจอกับ หลินฟง ครั้งแรกในภาพยนตร์ฮ่องกงเรื่อง The Jade and The Pearl เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งแหล่งข่าววงในระบุว่าทั้งคู่พบกันครั้งแรกในเรื่องนี้ หลินฟงรับบทนำ ขณะที่พ่านช่วงช่วงรับบทเป็นเจ้าหญิงในราชวัง และระหว่างที่อยู่ในกองถ่ายทั้งคู่ต่างก็สนิทสนมพูดคุยกันอย่างมีความสุขจนก่อเกิดเป็นความรักในที่สุด
หลินฟงร้องไห้ก่อนให้สัมภาษณ์สื่อ
ซึ่งระหว่างที่รอให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวต่างก็เห็นว่าเขาตาแดงและมีน้ำตาคลออยู่ตลอด เจ้าตัวจึงยอมรับว่าก่อนหน้านี้เขาเพิ่งร้องไห้เนื่องจากรู้สึกกดดันอย่างมาก "ตั้งแต่ที่ผมเข้าวงการจนถึงตอนนี้ ผมเคยพูดไว้แล้ว เคยให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าผมเองเคยมีแฟนตั้งแต่ก่อนที่จะเข้าวงการ พอหลังจากเข้าวงการมาแล้วผมก็อยากที่จะออกเดทคบหากับใครสักคนเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่ผมยอมรับเรื่องความสัมพันธ์เลยสักครั้ง ข่าวลือที่เกิดขึ้นก็ล้วนเป็นข่าวโปรโมทหนังโปรโมทละคร แต่ครั้งนี้ผมยอมรับครับว่าพ่านช่วงช่วงกับผมเราเคยคบกัน แต่ความสัมพันธ์มันจบไปนานแล้ว เราเจอกันตอนถ่ายหนังครับ" เจ้าตัวยอมรับว่าที่ผ่านมาไม่ได้คิดจะปิดบังสื่อว่าทั้งคู่กำลังคบหากันแต่อย่างใด "ผมอยากจะพัฒนาความสัมพันธ์ เพราะว่าผมเคยบอกหลายครั้งแล้วว่าผมอยากมีแฟนอยากออกเดท แต่ผมไม่อยากไปนั่งบอกทุกๆคนว่าตอนนี้ผมคบคนนี้อยู่นะ เมื่อทุกคนรู้เรื่อง ผมก็ไม่ปฏิเสธ"
ไม่มีใครอยากให้แฟนตนเองเซ็กซี่เกินไป
หลินฟง ยังระบุว่าเขายังเชื่อใจและไม่รู้สึกว่ารูปหลุดครั้งนี้เป็นเพราะถูกอดีตแฟนสาวหักหลังปล่อยออกมา พวกเขาเลิกรากันด้วยดีและเป็นเพราะเขาต้องการหาคนที่เหมาะสมและเข้ากันได้กับเขาจริงๆ และเมื่อถูกถามว่าที่เลิกกันเป็นเพราะเธอชอบถ่ายรูปเซ็กซี่ใช่ไหม? นักแสดงหนุ่มเผยว่า "ตอนแรก เธอพยายามอย่างมากเท่าที่จะทำได้ที่จะลดๆลง ไม่มีใครชอบให้แฟนตัวเองเซ็กซี่มากหรือโชว์อะไรมากเกินไปหรอกครับ โดยส่วนตัวแล้วผมรับเรื่องนี้ไม่ค่อยได้ สาเหตุที่เลิกจึงเป็นการเลิกกันด้วยดี อย่างแรกเลยคือเรื่องส่วนตัวของเราครับ และผมก็งานยุ่งมากจริงๆ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ผมจะแยกร่างไปทำอย่างอื่นด้วย"
และเมื่อรู้ว่ามีภาพถ่ายบนเตียงหลุดออกมาเจ้าตัวไม่ได้รู้สึกผิดหวังกับอดีตแฟนสาวแต่อย่างใด "ไม่รู้สิครับ สำหรับผมเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ผมไม่ได้คิดว่าเธอปล่อยรูปเพื่อมาทำลายภาพลักษณ์ของผม เธอมีเป้าหมายของตนเอง มีความคิดและมีพัฒนาการ ผมหวังว่าทุกอย่างจะไปได้สวยสำหรับเธอ ผมไม่อยากเชื่อครับว่าผมถูกใช้เป็นเครื่องมือเกาะกระแสดัง แม้ว่าเราจะออกเดทกันหลายเดือน แต่ความสัมพันธ์ของพวกเรามันก็ยังเป็นเรื่องของเราสองคนอยู่ดี"
ไม่รู้ตัวว่าถูกถ่ายรูปตอนหลับ
หลินฟง ไม่ได้กังวลว่าจะมีรูปส่วนตัวหลุดออกมาเพิ่มอีก แต่เขากังวลว่าการที่พ่านช่วงช่วงเคยไปพบพ่อแม่ของเขาแล้ว ทำให้เขาเป็นห่วงความรู้สึกของคนในครอบครัวมากกว่า แต่เขาก็ยอมรับว่าหลังจากมีข่าวออกไปพ่อของเขาได้ส่งข้อความมาให้กำลังใจแล้ว "หลังจากได้อ่านข้อความ ใจผมรู้สึกผ่อนคลายมากเลยครับ มันเป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ที่ผมเข้าวงการมาเลย" เมื่อถูกถามว่าต่อไปต้องระมัดระวังในการเลือกคบหาแฟนสาวหรือไม่เจ้าตัวระบุเป็นเรื่องของโชคชะตา "ปล่อยให้เป็นเรื่องของชะตาฟ้าลิขิตครับ ผมคงหลีกหนีไม่พ้น แต่ประเด็นคืออยากให้คนอื่นปฏิบัติกับคุณอย่างไรคุณก็ควรปฏิบัติอย่างนั้นกับผู้อื่นครับ"
หลินฟง ยอมรับว่าเขารู้สึกเจ็บปวดมากเช่นกันที่เกิดเหตุการณ์นี้ แต่พวกเขาต่างก็เลิกรากันด้วยดีและแม้จะมีข่าวนี้ออกมาเขาก็ไม่คิดจะติดต่อเธอเพื่อถามถึงรูปภาพที่หลุดออกมานี้แต่อย่างใด "ไม่จำเป็นต้องติดต่อครับ แต่ผมไม่รู้สึกตัวเลยจริงๆว่ามีคนถ่ายรูปตอนที่ผมกำลังหลับอยู่ วันนั้นผมเหนื่อยมากจริงๆ ผมไม่รู้เรื่องอะไรเลย"
"อาซา" ไม่พอใจ!เชื่อพ่านช่วงช่วงเป็นฝ่ายหักหลังปล่อยรูปเอง
อาซา นักร้อง-นักแสดงสาวชื่อดังที่เคยทำงานร่วมกับหลินฟงและพ่านช่วงช่วงมาก่อนในเรื่อง Jade and Pearl ยอมรับว่าเธอไม่ค่อยชอบพ่านช่วงช่วงมากเท่าไหร่ และคิดว่าพ่านช่วงช่วงนี่แหละที่เป็นคนหักหลังหลินฟงเพราะตอนนั้นเธอเคยคิดว่าหลินฟงเจอคนไม่ดีเข้าแล้ว เนื่องจากโดยส่วนตัวเธอค่อนข้างมั่นใจในความรู้สึกของตนเอง เหมือนกับที่เชื่อในตัวคนรักของตนเองทั้งอดีตและปัจจุบัน เธอจะรู้สึกได้ว่าพวกเขาจะไม่มีทางทรยศหักหลังเธออย่างแน่นอน ทำให้เธอเชื่อว่าหลินฟงเชื่อใจคนผิด
และทันทีที่หลินฟงทราบว่าอาซาให้กำลังใจเขาและแสดงความเห็นว่าเขาเจอคนไม่ดี งานนี้ฝ่ายหลินฟงแสดงความขอบคุณและแสดงความเป็นสุภาพบุรุษขอแก้ต่างปกป้องอดีตแฟนสาวว่า "อย่าพูดอย่างนั้นเลยครับ อย่าไปใส่ใจกับเรื่องนี้มากเกินไปเลย"
ที่มา: manager.co.th