ลีโอ อโปเธอเกอร์ ซีอีโอเอชพี
เปิดวิสัยทัศน์ซีอีโอเอชพี 'ลีโอ อโปเธอเกอร์ (Leo Apotheker)' ที่เพิ่งรับตำแหน่งเมื่อ 4 เดือนก่อน ชู 2 ไพ่เด็ดใบใหม่ที่มั่นใจว่าจะเพิ่มรายได้ให้เอชพีแบบก้าวกระโดดนับจากนี้ หนึ่งคือบริการคลาวด์คอมพิวติง (cloud computing) หรือการประมวลผลกลุ่มเมฆแบบครบวงจรซึ่งเอชพีมีแผนจะให้บริการแก่สาธารณชนในอนาคต สองคือสินค้าระบบปฏิบัติการเว็บโอเอส (WebOS) ทั้งกลุ่มอุปกรณ์พกพาและคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล กำหนดการบุกตลาดคือช่วงกลางปีและปลายปีตามลำดับ เบื้องต้นคาดว่าสินค้าตระกูลเว็บโอเอสจะสามารถโกยยอดขายได้มากกว่า 100 ล้านเครื่องต่อปี
ลีโอ อโปเธอเกอร์ ซีอีโอเอชพีกล่าวบนเวทีงานประชุม HP Summit 2011 ท่ามกลางนักลงทุนและนักวิเคราะห์การเงินที่ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ว่าเอชพี (Hewlett-Packard) มีแผนให้บริการคลาวด์คอมพิวติงหรือการประมวลผลกลุ่มเมฆทั้งในแง่แอปพลิเคชันและบริการฝากข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต รวมถึงการให้บริการโอเพนคลาวด์มาร์เกตเพลส (Open Cloud Marketplace) ในฐานะแหล่งรวมซอฟต์แวร์และบริการบนกลุ่มเมฆของทั้งเอชพีและพันธมิตร โดยระบุว่าจะสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ในเวลาอันใกล้
"เอชพีกำลังมุ่งมั่นสร้างและทดสอบบริการคลาวด์ของเอชพี เราจะเปิดให้บริการโครงข่ายแก่ลูกค้ากลุ่มองค์กรธุรกิจ และจะให้บริการคลาวด์สาธารณะ (public cloud) ในเร็วๆนี้ ตลาดนี้เป็นตลาดใหญ่ ลูกค้าคือผู้ผลักดันให้เอชพีเดินเข้าสู่ธุรกิจคลาวด์ ชัดเจนว่าตลาดมีความต้องการบริการคลาวด์ทางเลือกสูง"
อโปเธอเกอร์นั้นเป็นผู้รับตำแหน่งซีอีโอเอชพีต่อจากมาร์ก เฮิร์ด (Mark Hurd) ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเพราะกรณีพิพาทเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยการประกาศพร้อมลุยในตลาดคลาวด์ทำให้นักวิเคราะห์มองว่าเอชพีกำลังพร้อมชนบริการคลาวด์ของอเมซอน (Amazon.com) และการให้บริการโครงข่ายระบบคลาวด์แก่ภาคธุรกิจของทั้งไอบีเอ็มและหลากหลายค่าย อย่างไรก็ตาม นักลงทุนตอบรับแผนการดำเนินงานของเอชพีในทางบวก ส่งให้มูลค่าหุ้นเอชพีปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.75% เป็น 41.8 เหรียญ
เว็บโอเอสจุดพลุมิ.ย.นี้
นอกจากบริการคลาวด์ ระบบปฏิบัติการเว็บโอเอสเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์หลักที่เอชพีจะให้ความสนใจต่อเนื่องนับจากนี้ โดยในส่วนผลิตภัณฑ์แท็บเล็ต เอชพีระบุว่ามีแผนจะวางจำหน่ายแท็บเล็ตเว็บโอเอสซึ่งรู้จักกันในชื่อทัชแพด (TouchPad) ช่วงเดือนมิถุนายนนี้ สำหรับคอมพิวเตอร์พีซี เอชพีเชื่อว่าจะสามารถเปิดตัวเว็บโอเอสเวอร์ชันสำหรับใช้บนคอมพิวเตอร์พีซีได้ในช่วงไตรมาส 4
เว็บโอเอสเป็นระบบปฏิบัติการที่เอชพีได้มาครอบครองเพราะการเข้าซื้อบริษัทปาล์ม (Palm) เมื่อปี 2010 ที่ผ่านมา โดยซีอีโอเอชพีตั้งความหวังว่า ระบบปฏิบัติการเว็บโอเอสจะถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในอุปกรณ์มากกว่า 100 ล้านเครื่องต่อปี (ทั้งสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์พีซี)
นักวิเคราะห์มองว่ากลยุทธ์ทั้ง 2 ของเอชพีอาจมีผลกระทบถึงสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างเอชพีและไมโครซอฟท์ เพราะการเข้าสู่สังเวียนคลาวด์คอมพิวติง จะทำให้เอชพีกลายเป็นคู่แข่งของบริการอะซัวร์ (Azure) ของไมโครซอฟท์ และเว็บโอเอสก็อาจกลายเป็นระบบปฏิบัติการคู่แข่งของวินโดวส์ อย่างไรก็ตาม เอชพียังคงหยอดคำหวานว่าแม้จะมีระบบปฏิบัติการของตัวเอง แต่เอชพีจะยังจับมือเป็นพันธมิตรกับไมโครซอฟท์ต่อไป โดยยืนยันว่ามีแผนใช้วินโดวส์บนแท็บเล็ตเอชพี หากวินโดวส์รุ่นนั้นเป็นรุ่นที่เหมาะสม
อีกสิ่งที่น่าสนใจสำหรับการประกาศวิสัยทัศน์ครั้งนี้ คือการปรับเพิ่มส่วนแบ่งเงินปันผลของเอชพีครั้งแรกในรอบ 10 ปี โดยเอชพีมีระเบียบปันผล 8 เซนต์ต่อหุ้นมาตั้งแต่ปี 1998 โดยล่าสุด กรรมการบริหารเอชพีมีมติปรับอัตราเงินปันผลนี้เป็น 12 เซนต์ในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ จุดนี้เคธี เลสแจค (Cathie Lesjak) ประธานฝ่ายการเงินของเอชพีให้ข้อมูลว่าเอชพีมีแผนเพิ่มสัดส่วนเงินปันผลต่อเนื่องทุกปีในอัตราเกิน 10% (เลข 2 หลัก)
เลสแจคระบุว่า เอชพีตั้งเป้าเพิ่มตัวเลขยอดขายรวมให้ได้ 7 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้นภายในปี 2014 เทียบกับปีที่ผ่านมาที่เอชพีทำได้ 4.58 ดอลลาร์ ซึ่งคาดว่า 2 กลยุทธ์หลักของเอชพีจะเป็นแหล่งทำเงินใหม่ที่สร้างรายได้เข้ากระเป๋าเอชพี ซึ่งมีพนักงานมากกว่า 300,000 คนทั่วโลกแบบก้าวกระโดด
Company Related Link :
HP
ที่มา: manager.co.th