โตชิบา มองตลาดโน้ตบุ๊กไทยยังมีอัตราการเติบโตได้อีก แม้กระแสแท็บเล็ตกำลังเข้ามาในตลาด คาดสิ้นปียอดรวมโน้ตบุ๊ก 2.4 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 20% ส่วนเป้าโตชิบารักษาอัตราการเติบโต 40% ให้มีส่วนแบ่งในตลาด 10-15% เล็งนำแท็บเล็ตที่ใช้หน่วยประมวลผล Oak trail ของอินเทล เข้าทำตลาดเดือนเมษายน 2-3 รุ่น
นายถกล นิยมไทย ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายธุรกิจเทคโนโลยี บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า ความต้องการของผู้บริโภคส่วนใหญ่ในตลาดโน้ตบุ๊กยังคงอยู่ที่เครื่องระดับราคาไม่เกิน 18,000 บาท ซึ่งถือเป็นสัดส่วนราว 70% ของตลาดโน้ตบุ๊ก ทำให้โตชิบาจำเป็นต้องออกผลิตภัณฑ์เพื่อมารองรับตลาดส่วนนี้เพิ่มมากขึ้น
"จากเดิมโตชิบามีผลิตภัณฑ์ในระดับต่ำกว่า 18,000 บาท เพียงรุ่นเดียวเท่านั้น แต่ในปีนี้เพิ่มขึ้นมาเป็น 6 รุ่น โดยแบ่งเป็นในระดับ 12,000 - 15,000 บาท 3 รุ่น และ 15,000 - 18,000 บาท อีก 3 รุ่น เพื่อช่วยให้โตชิบาสามารถเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดมากขึ้น"
โดยจากการเพิ่มงบการลงทุนเป็น 200 ล้านบาทในปี 2554 ทำให้โตชิบา สามารถเข้าไปร่วมมือกับทางธนาคาร เพื่อจัดทำโปรโมชัน ผ่อน 0% รวมถึงเพิ่มสิทธิพิเศษให้แก่ลูกค้าของธนาคารได้ครอบคลุมทุกธนาคาร จึงกลายเป็นอีกช่องทางที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น
ขณะเดียวกันการเพิ่มช่องทางจำหน่ายผ่านโมเดินเทรดอย่าง บิกซี คาร์ฟู และโลตัส จะช่วยให้โตชิบา มีช่องทางจำหน่ายเพิ่มกว่า 186 สาขา ทั่วประเทศ ช่วยให้โตชิบาสามารถเข้าไปทำตลาดในต่างจังหวัดได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น
"ในปีที่ผ่านมาโตชิบามีอัตราการเติบโตในส่วนของโน้ตบุ๊กอยู่ที่ราว 40% ซึ่งทำให้ปิดไตรมาส 4 มีส่วนแบ่งตลาดขึ้นมาอยู่อันดับที่ 4 จากแชร์ 9% ซึ่งในปีนี้ก็จะพยายามรักษาอัตราการเติบโตดังกล่าวเพื่อให้สามารถมีแชร์เกิน 10% ในตลาดให้ได้ เนื่องจากทางบริษัทแม่ให้ความสำคัญกับตลาดประเทศไทยเป็นอย่างมาก เพราะมีขนาดใหญ่ในอาเซียนเป็นรองเพียงอินโดนีเซียเท่านั้น"
ส่วนความคืบหน้าในการนำแท็บเล็ตเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทย ถกล ให้ข้อมูลว่า กำลังอยู่ในช่วงประสานเพื่อนำแท็บเล็ตทั้งรุ่น 7 นิ้ว 10 นิ้ว และ 11 นิ้วเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย โดยแบ่งออกเป็น 3 ระบบปฏิบัติการด้วยกันคือ แอนดรอยด์ 3.0 (Honey Comb) วินโดวส์ เซเว่น และโครม
"ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่าในเดือนเมษายนจะนำเข้ามาจำหน่าย 2 หรือ 3 รุ่น เพราะมองว่าในตลาดมีแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้วอยู่แล้ว ทำให้น่าจะโฟกัสไปที่ขนาด 10 นิ้วสำหรับคอนซูเมอร์ และ 11 นิ้วสำหรับองค์กรธุรกิจมากกว่า"
สิ่งหนึ่งที่ทำให้โตชิบา ยังไม่ให้ความสำคัญกับตลาดแท็บเล็ตมากนัก เพราะเล็งเห็นว่า การเข้ามาของแท็บเล็ตในช่วงปีนี้ ถือเป็นสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับตลาดโน้ตบุ๊ก แต่เชื่อว่าใน 3 ถึง 5 ปีข้างหน้า เมื่อความต้องการของตลาดชัดเจนแล้ว แท็บเล็ตจะกลายเป็นอีกหนึ่งตลาดสำคัญของสินค้าเทคโนโลยี
"การนำแท็บเล็ตเข้ามาจำหน่าย ในเบื้องต้นเพื่อเป็นการเพิ่มสีสันให้กับตลาด โดยไม่ได้ตั้งเป้าไว้ว่าจะสามารถทำรายได้เป็นอย่างมากให้กับโตชิบาในปีนี้"
ล่าสุดเปิดตัวโน้ตบุ๊ก 3 รุ่นใหม่ ที่ใช้หน่วยประมวลผลอินเทล คอร์ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชัน 2 ได้แก่ Satellite E300 ขนาดหน้าจอ 14 นิ้ว มาพร้อมฟังก์ชัน Intel Wireless Display (WiDi) ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อเข้ากับหน้าจอความละเอียดสูงแบบไร้สาย ราคาเริ่มต้นที่ 30,900 บาท Satellite L700 ที่มีด้วยกัน 2 ขนาดหน้าจอคือ 13.3 นิ้ว และ 14 นิ้ว โดดเด่นที่ฟังก์ชัน ยูเอสบี 3.0 ในราคาเริ่มต้นที่ 21,900 บาท สุดท้ายรุ่น Portege R830 โน้ตบุ๊กประสิทธิภาพสูงในรูปลักษณ์บางเบา เหมาะกับกลุ่มผู้บริหารที่เน้นโน้ตบุ๊กที่สามารถพกพาและทำงานได้ทุกรูปแบบ เริ่มต้นที่ 49,900 บาท
Company Relate Link :
Toshiba
ที่มา: manager.co.th