Author Topic: แอลจีชูเทคโนโลยี 3D TV มั่นใจชัดที่สุดในเมืองไทย  (Read 1302 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


นายฉันท์ชาย พันธุฟัก หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด

แอลจีอวดเทคโนโลยีใหม่ Cinema 3D มั่นใจให้ภาพคมชัดที่สุดในตอนนี้ พร้อมโชว์แว่นตาไร้แบตเตอรีที่มีราคาวางจำหน่ายเริ่มต้นเพียง 490 บาท เตรียมส่งทีวี 3 มิติลงตลาด 4 รุ่นในครึ่งปีแรก ระบุปี 54 การแข่งขันสูงราคาถูกลงเกือบเท่าตัว คาดการณ์ปีนี้ภาพรวมตลาดโตแน่ 30%
       
       นายฉันท์ชาย พันธุฟัก หัวหน้ากลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่าในปีที่ผ่านมาตลาดทีวี 3 มิติในประเทศไทยยังมีสัดส่วนค่อนข้างน้อย คิดเป็น 5% ของตลาดรวม เนื่องจากความต้องการสินค้า และกำลังการผลิตยังมีค่อนข้างน้อย ส่งผลให้ราคาสินค้าค่อนข้างสูง นอกจากนี้การใช้เทคโนโลยีในการแสดงผลภาพแบบเก่ายังทำให้ผู้ใช้งานไม่สามารถรับชมภาพ 3 มิติได้เป็นเวลานาน เนื่องจากจะเกิดอาการเบลอจากภาพซ้อน
       
       "สำหรับในปีนี้กระแสความร้อนของทีวี 3 มิติในเมืองไทยมีเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากผู้ผลิตหลายค่ายเริ่มลงมาทำตลาดนี้กันมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการแข่งขันกันด้านของราคาและเทคโนโลยี โดยมีแนวโน้มว่ายอดการเติบโตของทีวีสามมิติในตลาดรวมจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 30%"
       
       ด้านของเทคโนโลยีของแอลจี หลังจากปีที่ผ่านมามีการปล่อยทีวี 3 มิติออกสู่ตลาด 2 รุ่น ซึ่งเป็นทีวีที่ใช้เทคโนโลยีในการแสดงผลภาพแบบ Active Shutter Glass ที่แอลจีมองว่าเป็นเทคโนโลยีที่ยังไม่มีความสมบูรณ์แบบ เนื่องจากการทำงานระหว่างหน้าจอแสดงผลกับแว่นตายังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้เกิดภาพซ้อน เมื่อผู้ใช้งานรับชมเป็นเวลานาน จะก่อให้เกิดอาการปวดหัว อีกทั้งแว่นตาที่ใช้ยังมีขนาดใหญ่ และต้องชาร์จแบตเตอรีอยู่ตลอดเวลา
       
       ปีนี้แอลจีจึงได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีในการแสดงผลภาพ 3 มิติแบบใหม่ที่เรียกว่า "Cinema 3D" โดยจะทำงานโดยการใช้ฟิล์ม FPR (Film Patterned Retarder) ติดลงบนหน้าจอ เพื่อให้ใช้งานร่วมกับแว่นตาโพลาไรซ์ที่ทำหน้าที่ตัดแสงในแนวตั้งและแนวนอน จนทำให้เกิดภาพ 3 มิติขึ้น โดยปราศจากภาพซ้อน ภาพกระพริบขึ้น จึงช่วยลดปัญหาความเมื่อยล้าของสายตาเมื่อรับชมเป็นเวลานาน อีกทั้งยังได้มีการพัฒนาฟีเจอร์ 3D Light Boost ที่ช่วยปรับความสว่างของภาพ 3 มิติ และเพิ่มความคมชัดให้กับภาพ
       
       ฉันท์ชายมองว่าเทคโนโลยีในการแสดงภาพแบบ Active Shutter Glass ที่ผู้ผลิตทีวี 3 มิติส่วนใหญ่เลือกใช้นั้น เป็นเทคโนโลยีที่มีต้นทุนในการผลิตไม่สูงมาก ทำให้สินค้าที่ได้มีราคาสมเหตุสมผล แต่ข้อเสียคือแว่นตาที่ใช้ยังมีขนาดใหญ่ และมีราคาแพง ในส่วนของทีวี 3 มิติที่ไม่ต้องใช้แว่นนั้น ด้วยความที่ใช้ฟิลเตอร์เป็นตัวบังคับการมองเห็น ทำให้ตัวเครื่องทีวีมีความหนา มีมุมมองภาพที่ค่อนข้างจำกัด อีกทั้งความสว่างของภาพยังค่อนข้างน้อย ซึ่งไม่เหมาะแก่การทำมาใช้รับชมภาพในบ้าน
       
       "เทคโนโลยีใหม่นี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานรับชมภาพ 3มิติได้เต็มความสามารถ คือภาพที่ได้มีความสว่าง คมชัด เป็นธรรมชาติ อีกยังสามารถรับชมภาพ 3 มิติในมุมมองที่กว้างกว่าเทคโนโลยีตัวอื่นๆ"
       
       ในปี 2554 แอลจีเตรียมเปิดตัวทีวี 3 มิติที่ใช้เทคโนโลยี "Cinema 3D" ทั้งหมด 4 รุ่นในครึ่งปีแรก โดยรุ่น LW6500 จะเริ่มวางจำหน่ายต้นเดือนเมษายน และ LW4500 จะวางจำหน่ายช่วยปลายเดือนเมษายน ส่วนอีก 2 รุ่นจะวางจำหน่ายในเดือนมิถุนายน สำหรับรุ่น LW6500 จะมาพร้อมเทคโนโลยี Smart TV, แสดงภาพเคลื่อนไหวได้คมชัดด้วยเทคโนโลยี True Motion 240Mz รองรับการเชื่อมต่อ DNLA, Wi-Fi, USB 2.0 และ HDMI 1.4
       
       ราคาถูกลง คอนเทนต์พร้อม
       
       ฉันท์ชายพูดถึงราคาจำหน่ายทีวี 3 มิติของแอลจีว่า รุ่นที่จะมีการเปิดตัวในเดือนเมษายนอย่าง LW4500 ขนาด 42 นิ้ว ถือเป็นรุ่นที่มีราคาถูกสุดคือ 49,990 บาท โดยจะขายพร้อมแว่นตา 4 อัน ถ้าผู้บริโภคต้องการซื้อเพิ่ม สามารถซื้อได้ราคา 490-1,290 บาท เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าที่มีการเปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมามีราคาสูงถึง 89,990 บาท สำหรับแว่นตา 3 มิติที่นิยมใช้กันจะมีราคาอยู่ที่ 3,900-5,000 บาท ในขณะที่แอลอีดีทีวี ของแอลจีขนาด 42 นิ้วมีราคาเริ่มต้นที่ 29,900 บาท
       
       "จริงๆ แล้วราคาแอลอีดีทีวีกับทีวี 3 มิติต่างกันไม่มาก เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับผู้บริโภคว่าจะให้ความสำคัญกับการรับชมภาพ 3 มิติมากแค่ไหน แล้วจะยอมจ่ายส่วนต่างที่เพิ่มขึ้นมาหรือไม่"
       
       สำหรับซอฟต์แวร์ หรือคอนเทนต์ที่จะมาทำงานร่วมกับทีวี 3 มิตินั้น ฉันท์ชายกล่าวว่า ทีวี 3มิติส่วนใหญ่จะมีตัวแปลงสัญญาณภาพจาก 2 มิติให้เป็น 3 มิติอยู่แล้ว ไม่ว่าสัญญาณอินพุดจะเข้ามาในรูปแบบก็ตาม แต่อาจมีความคมชัดเพียง 80% เมื่อเทียบกับการใช้ซอฟต์แวร์ที่เป็น 3 มิติจริงๆ ดังนั้นผู้ใช้งานสามารถรับชมข่าว, รายการทีวี จากฟรีทีวีได้ในรูปแบบ 3มิติทั้งหมด
       
       นอกจากนี้ ผู้ผลิตภาพยนตร์รายใหญ่ของโลกอาทิ Warner Brother ก็เริ่มหันมาผลิตแผ่นบลูเรย์ ในรูปแบบ 3มิติ ซึ่งปัจจุบันราคาจำหน่ายแผ่น 3D Blu-Ray จะอยู่ที่ 1,000-2,000 บาท ในขณะที่แผ่นบลูเรย์ทั่วไปจะอยู่ที่ 500-1,000 บาท
       
       "แม้แต่บนเว็บไซต์บิตทอเรนต์ ก็เริ่มมีคอนเทนต์ 3 มิติให้ผู้บริโภคได้ดาวน์โหลดกัน ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าซื้อมาแล้วจะไม่มีคอนเทนต์ดู"
       
       Company Related Link :
       LG


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)