ในขณะที่สินค้าออกจากวงการบันเทิงเกาหลีใต้กลายเป็นสินค้าขายดีเทน้ำเทท่า ในเวลาเดียวกันกระแสความเกลียดชัง และต่อต้านวัฒนธรรม ก็ถูกจุดขึ้นมาด้วย ซึ่งสื่อสารมวลชนรุ่นใหญ่ในเกาหลี ได้วิเคราะห์ว่าสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นผลสืบเนื่องจากทั้งเรื่องของ วัฒนธรรม, การเมือง และประวัติศาสตร์
ความสำเร็จอย่างก้าวกระโดดของสื่อบันเทิงจากเกาหลีใต้ นับตั้งแต่ภาพยนตร์, ซีรีส์ และเหล่านักร้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งไอดอลวัยใสทั้งหลาย เป็นสิ่งที่เติบโตควบคู่ไปกับกระแสความเกลียดชังวัฒนธรรมร่วมสมัยของเกาหลี โดยประชาชนในประเทศต่าง ๆ ของแทบเอเซีย
ซึ่งในช่วงที่กระแสแอนตี้เกาหลี เริ่มแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในหลาย ๆ ประเทศ ชาวเกาหลีใต้เองก็รู้สึกสนใจในปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกัน
ซองวอนซบ ผู้อำนวยการของสื่อดังอย่าง JoongAng Entertainment and Sports เชื่อว่าส่วนหนึ่งของกระแสดังกล่าวเกิดขึ้นมาจากท่าทีของชาวเกาหลีใต้เอง ที่ต้องการเผยแพร่วัฒนธรรมของตัวเอง แต่ในทางกลับกันส่วนใหญ่สังคมเกาหลีมักจะปิดรับวัฒนธรรมจากต่างชาติที่พยายามแทรกเข้าไปที่นั่น
“อุตสาหกรรมบันเทิงของเกาหลีใต้กระตือรือร้นอย่างมาก ที่จะขายผลงานของตัวเอง แต่กลับปฏิเสธที่จะยอมรับผลงานของผู้อื่นบ้าง” ซองกล่าว "กระแสต่าง ๆ แสดงออกถึงความรู้สึกไม่พึงพอใจของประเทศอื่น ๆ ในเรื่องนี้"
นอกจากนั้นภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ยังมีผลต่อเรื่องนี้ด้วย ซอง แจกแจงถึงประเด็นเป็นรายประเทศว่า “สำหรับชาวจีน พวกเขามักจะมีความรู้สึกว่าชาวเกาหลีใต้ควรจะสำนักบุญคุณวัฒนธรรมของจีนมากกว่า”
“เช่นเดียวกับในกรณีของชาวญี่ปุ่น ที่ไม่พอใจในกระแสของเกาหลีใต้ เพราะก่อนหน้านี้วัฒนธรรมของเกาหลีเคยตามหลังแนวทางของญี่ปุ่นมาก่อน ในสายตาของพวกอนุรักษ์นิยมบางส่วนในญี่ปุ่น ยังมองเกาหลีใต้เป็นประเทศกำลังพัฒนา ที่เมื่อเร็ว ๆ นี้ยังเคยเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่นอยู่เลย ในมุมมองนี้ เกาหลีใต้เริ่มท้าทายญี่ปุ่นทั้งในแง่ของเศรษฐกิจ และการเมือง”
“สำหรับไต้หวัน ความเกลียดชังเกาหลีใต้มันมีสาเหตุมาจากเรื่องของประวัติศาสตร์ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ครั้งหนึ่งทั้งสองประเทศเคยเป็นพันธมิตรต่อกันทั้งในแง่ของการเมือง และเศรษฐกิจ แต่เมื่อเกาหลีใต้เริ่มหันไปเป็นพันธมิตรกับจีนแทน ไต้หวันจึงรู้สึกเหมือนถูกทรยศ”
นักข่าวจากเกาหลีใต้ท่านนี้ได้สรุปว่า การลดทอนความตึงเครียดและความเกลียดชังที่ดีที่สุดก็คือ “เราควรพยายามพิจารณาอย่างถ่องแท้ถึงมุมมองของชาวต่างชาติ ที่มีต่อชาวเกาหลี และพยายามให้ความสนใจในวัฒนธรรมของผู้อื่นด้วยเช่นเดียวกัน”
ที่มา: manager.co.th