"นก ยลดา" เดินหน้า "จิ๋มเอื้ออาทร" ลั่นคนที่เกิดมาจิตใจ-สัญชาตญาณไม่ตรงสภาพร่างกายบางส่วนคือคนป่วยซึ่งที่ผ่านมามีวิธีรักษาด้วยการแปลงเพศอย่างเดียวเท่านั้น ฉะผอ.รายการช่อง 9 เหม็นเหมือนขี้ ก่อนปัดสมาคมฯ รับเงินโปรโมตโรงพยาบาล
กลายเป็นเรื่องราวที่กระแสสังคมให้ความสนใจไม่น้อยสำหรับโครงการ “Sister’s Hand แปลงเพศฟรี พี่ช่วยน้อง” หรือ “จิ๋มเอื้ออาทร" ครั้งที่ 2 โดยสมาคมสตรีข้ามเพศแห่งประเทศไทยที่มี “นก ยลลดา เกริกก้อง สวนยศ” นั่งเป็นนายกสมาคมฯ กับโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังเพื่อทำการคัดเลือก 5 สาวข้ามเพศมาผ่าตัดแปลงเพศโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีเสียงคัดค้านไม่น้อยของหลายภาคส่วนในสังคมด้วยความห่วงใยว่าโครงการนี้จะทำให้เด็กและเยาวชนในสังคมหันมาให้ความสนใจและหมกหมุ่นกับเรื่องทำนองนี้มากขึ้นทว่าทางฟากของ "นก ยลดา" ก็ออกมาเปิดเผยว่าจะเดินหน้าโครงการนี้ต่อไปอย่างแน่นอน
โดยเจ้าตัวระบุว่าคนที่เกิดมาแล้วมีสภาพจิตใจที่ไม่ตรงกับสภาพร่างกายนั้นคืออาการป่วยชนิดหนึ่งซึ่งทาง WHO องค์การอนามัยโลกระบุไว้ว่า GID-Transsexualism และวิธีการอย่างเดียวที่จะแก้ไขนั่นคือการผ่าตัดเนื่องจากยังไม่เคยมีวิธีการแก้ไขใดๆ ทางจิตใจให้กลับไปตรงกับร่างกายได้
"ซึ่งแพทยสภาและราชวิทยาลัยจิตแพทย์ก็ได้ทำตามองค์การอนามัยโลก จนปี 2552 เดือนพฤศจิกายนก็มีกฎข้อบังคับทางการแพทย์ออกมาในเรื่องของการรักษาด้วยการแปลงเพศว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ซึ่งน่าจะทราบกันดีอยู่แล้วว่ากว่าจะได้แปลงเพศต้องผ่านขั้นตอนกระบวนการต่างๆ เยอะแยะ ซึ่งกฎข้อบังคับที่เกิดขึ้นในเมืองไทยมันเกือบ 2 ปีมาแล้วนะคะ”
เผยผิดหวังกับการให้สัมภาษณ์ของนายแพทย์อภิชัย มงคล อธิบดีกรมสุขภาพจิต ที่บอกทำนองว่าการพูดถึงเรื่องนี้มากๆ จะทำให้สังคมสับสนมีคนหันไปแปลงเพศกันเยอะขึ้น แทนที่จะบอกว่าการแปลงเพศคือการรักษาที่ถูกต้องสำหรับคนที่เป็นผู้หญิงข้ามเพศ ผู้ชายข้ามเพศ คนที่ป่วยเป็นโรคนี้จริงๆ ซึ่งคนที่ไม่ป่วยก็ไม่จำเป็นต้องไปผ่าตัดแปลงเพศก็ได้
พร้อมกันนั้นเจ้าตัวยังจวกไปยัง ผอ.ฝ่ายรายการโมเดิร์นไนน์ ทีวี นาย “พรชัย ปิยะเกศิน” ที่สั่งระงับการออกอากาศรายการ "คนค้นฅน" เทปที่นำเสนอเรื่องนี้โดยให้ไปตัดต่อเนื้อหารายการใหม่ว่าเป็นการกระทำที่คุกคามสื่อแถมยังดุด่าหาว่ากลุ่มของตนเป็นชนกลุ่มน้อย ก่อนโวยกลับไม่อยากสนใจมาก เหมือนเอาไม้ไปแหย่ขี้ก็จะเหม็นเปล่าๆ
"ซึ่งเหตุผลในวันที่สมาคมเดินเข้าไปหาคุณพรชัยอะไรนี่ ชื่อเขานกยังไม่อยากจำเลย เราเข้าไปพร้อมช่อดอกไม้ แล้วก็บอกว่าเราไม่ได้ต้องการจะมาอะไรนะคะ เราแค่อยากจะมาสร้างความเข้าใจ แต่สื่อที่ไปพร้อมกับเรากลับโดนไล่ออกมา ซึ่งเราเป็นแขกก็ไม่รู้จะบอกเขายังไงเพราะเจ้าของบ้านเขาไล่ เราก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวอะไรกับสื่อที่ไปด้วย แต่เรามีความรู้สึกว่าสิ่งที่เขาทำกับแขกที่มาถึงบ้าน ถ้ายังมีใจที่ยังเป็นคนอยู่ ต่อให้หมาเดินเข้ามา มันก็ควรที่จะเอ็นดูสงสารใช่ไหมคะ แต่นี่ไล่เขาออกมา แล้วด่าพวกหนู”
“เริ่มต้นด่าแบบโมโหใส่เลยนะ แต่พวกเราเป็นเด็กค่ะ ความอาวุโสเรายังน้อย เราก็ต้องเงียบและฟัง เราบอกว่าเรามาเพื่อสร้างความชัดเจน สร้างความเข้าใจ ไม่ได้มาหาเรื่องใคร แต่สารที่เราได้รับมาคือบอกว่าพวกแกคือคนกลุ่มน้อย อยู่ในกรอบซะ อย่าออกมาเพ่นพ่าน การผ่าตัดแปลงเพศของพวกแกมันคือความผิดปกติทางอารมณ์"
"และการผ่าตัดแปลงเพศคือการศัลยกรรม นี่คือเขาไม่มีความเข้าใจเลย เราก็เลยเกิดคำถามว่าเขาได้ดูเทปแล้วหรือยัง สงสัยว่าเขาอาจจะไม่ได้ดูเทป แต่น้องรถเมล์นี่ยืนอยู่ต่อหน้าเขา เขาก็พูดใหญ่เลยว่า 3 คนที่ได้ก็คนนั้น คนนี้ ก็คือคนที่พูดถึงมันยืนอยู่ตรงหน้ายังไม่รู้เลย เทปยังไม่ดูเลยแต่แบนแล้วมันหมายความว่ายังไง แบบนี้มันใช่อคติหรือเปล่า”
“นี่คือสิ่งที่เราเสียใจมาก เราขอประณามการทำงานของคุณคนนี้ ขอประณามการทำงานเลยว่าทำไมคุกคามและควบคุมสื่อ โอเคถ้ามันเป็นเรื่องที่รุนแรง เป็นเรื่องที่ขัดต่อศีลธรรมจรรยา นกกำลังจะทำให้มันดีขึ้น ทำไมไม่นั่งคุยกันดีๆ ทำไมต้องไล่คนอื่นออกไป ทำไมต้องดุเรา ทำไมต้องด่าเรา อย่าเอาความอาวุโสมาทำกับเรา นี่คือสิ่งที่เราประณามนะคะ เรากลับมาทบทวนนะคะว่าเราทำผิดอะไรหรือเปล่า เรามีเจตนาที่จะช่วยกันให้สังคมให้ดีขึ้น ก็ขอจบเรื่องเขาแค่นี้ เพราะยิ่งเอาไม้ไปเขี่ยขี้ เดี๋ยวก็จะเหม็นมือเรา เหม็นไม้เรา”
แจงสมาคมสตรีข้ามเพศฯ มีการจดทะเบียนที่ถูกต้องตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วหลังรวมตัวกันมานานกว่า 5 ปี มีการทำงานที่เป็นทีม แต่ทำไมสื่อบางสื่อถึงได้เอาอีบ้าอีบอที่ไหนไม่รู้มาแสดงความคิดเห็น ฉะ “เกย์นที” บอกเป็นคนเก่งในทุกเรื่อง รู้ดีทุกอย่าง แต่ไม่เป็นกลุ่มเกย์การเมืองที่ว่าจะมีเป็นตัวเป็นตนเลย แต่ขอบคุณในคำแนะนำที่ให้สมาคมฯ ไปพึ่งรัฐ บอกจะเก็บไว้พิจารณา
"เรื่องของเราไม่ใช่เรื่องเล่นๆ และมันไม่ใช่เรื่องทางอารมณ์ มันเป็นภาวะอาการป่วยที่ต้องนำเสนอ วิทยาศาสตร์บอกแล้วว่าโรคของพวกเรามันเป็นอาการป่วยทางร่างกาย เริ่มตั้งแต่ตอนที่แม่ท้องเลย ทางวิทยาศาสตร์ระบุมีการวิจัยออกมาเป็นข้อมูลเรียบร้อยว่าเพราะเจ้าเซลล์ที่อยู่ในสมองเรา มันบอกเพศเราผิดปกติ มันก็เลยมีวิธีแก้สองอย่างคือผ่าตัดสมองกับผ่าตัดไอ้ร่างกายที่มันผิด นี่คือหลักฐานทางการแพทย์ที่เราอยากนำเสนอ มันเป็นเรื่องที่เราต้องแก้ไข”
ยันสมาคมฯ แม้จะไม่มีเงินดำเนินการ แต่ก็ไม่เคยได้รับเงินสินบนใต้โต๊ะจากโรงพยาบาลชื่อดังที่ไหนเพื่อประชาสัมพันธ์โครงการนี้แน่นอน พร้อมเร่งรวบรวมหลักฐานฟ้องคนที่กล่าวหาบอกงานนี้ต้องมีคนติดคุก
“แม้แต่ข่าวเรื่องของการซุบซิบนินทาว่าสมาคมรับเงินจากผู้สนับสนุนทางการแพทย์ของเรา ว่าเอาเงินไปแล้วช่วยโปรโมทให้เขาหน่อย ซึ่งผู้สนับสนุนเรามี 2 เจ้า ถามหน่อยว่าใครไม่รู้จักเขาบ้าง นกไม่ขอพูดชื่อนะคะเดี๋ยวจะหาว่าโปรโมทให้เขาอีก และถ้าผู้สนับสนุนในปีที่ 2 เขาจะมีนอกมีใน ทำไมเขาไม่มีนอกมีในตั้งแต่ปีแรก และถ้าผู้สนับสนุนปีแรกเขาจะโปรโมทจริงๆ ทำไมเขาไม่สนับสนุนต่อไปในปีที่ 2 นกต้องบอกว่าสมาคมเป็นคนเลือกเขานะ สมาคมต้องดูว่าสถานที่แห่งไหนที่เขามีความสามารถในเรื่องผ่าตัดแปลงเพศ”
“เราเปลี่ยนผู้สนับสนุนหลายครั้ง ทำไมเราเลือกเจ้าแรกปีแรก เพราะเขาเป็นสถาบันของอาจารย์หมอที่เอาการผ่าตัดแปลงเพศเข้ามาในเมืองไทย ก็คือท่านอาจารย์นายแพทย์ปรีชา เตียวตรานนท์ ที่ๆ 2 ชื่อเขาก็บอกอยู่แล้ว นึกถึงเรื่องของการแปลงเพศนึกถึงอะไรล่ะ ถ้านกไปเอาโรงพยาบาลลิงน้อยซิมาด่านกเลย เพราะนั่นมันไม่ถูกต้อง แต่นี่เราทำถูกต้องทุกอย่าง สมาคมไม่มีเงินเลย เราเดินบากหน้าเข้าไปหาสปอนเซอร์ขอให้ช่วยเราหน่อย เราต้องการเสริมสร้างองค์ความรู้ ซึ่งสปอนเซอร์เห็นด้วย”
“แต่พอเขาถูกมองแบบนี้โครงการดีๆ พังนะคะ คนดีๆ ที่ตั้งใจที่จะมอบสิ่งดีๆ ให้กับสังคมก็พังนะคะ หมดกำลังใจนะ ชีวิตของน้องๆ ทุกคนหมด ชีวิตของคนอื่นๆ พ่อแม่พี่น้องมันพังหมด นี่คือสิ่งที่เราอยากจะชี้แจงว่าไม่มีการติดสินบน ไม่มีนอกไม่มีในการรับใต้โต๊ะอะไรจากสปอนเซอร์ทั้งสิ้น ถ้าคิดว่ามีให้หาหลักฐานมา และต้องบอกว่าตอนนี้สมาคมกำลังรวบรวมหลักฐานด้วยเช่นเดียวกันว่าใครเป็นคนพูด ต้นสายปลายเหตุมาจากไหน เรารวบรวมหลักฐานอยู่ค่ะ ถ้าหลักฐานครบเราฟ้องแน่ๆ เราเชื่อว่ามันจะต้องมีคนติดคุก ขออย่างเดียวขอให้เขาทำต่อ ขอให้เขาพูดต่อ เราจะได้มีหลักฐานมากขึ้น”
“ยืนยันว่าโครงการนี้ต้องมีต่อไปค่ะ ถ้าเกิดปีหน้าผ่าได้คนเดียวก็ทำ ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย ดีกว่าช่วยใครไม่ได้เลย ต่อให้มีคนเดียวหรือต่อให้เขาบอกว่าผ่าให้ครึ่งเดียว(หัวเราะ) หมายความว่าค่าหมอไม่คิด คิดค่าโรงพยาบาลเราก็เอา หรือถ้าโรงพยาบาลให้แต่หมอไม่ได้เราก็ไปจ้างหมอเอา หรือถ้ามีบางที่เขาบอกว่าแชร์ 50%, 20-30% ใครให้อะไรมาเราก็รับไว้หมด มันมีแต่ได้ค่ะ ฉะนั้นเอาหมด”
“นกไม่สนนะคะถ้าวันนึงกระแสด้านลบมันแรงขึ้น แล้วทำให้สมาคมของเราถูกแบนไปจริงๆ ไม่ว่าใครจะเกิดอะไรขึ้นเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือผู้หญิงข้ามเพศมันมีอยู่จริง สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือคนที่เกิดมาสัญชาติญาณกับร่างกายมันขัดกันมีอยู่จริง และเขาต้องการความช่วยเหลือ"
"มีผู้หญิงข้ามเพศที่ผ่านการผ่าตัดรักษาแล้วและใช้ชีวิตต่อไปในสังคมอย่างยากลำบากมันมีอยู่จริง ทุกวันนี้มีอะไรดีล่ะ ก็ไม่มี มีอย่างเดียวคือเราต้องช่วยเหลือตัวเอง เราต้องสู้ต่อไปเท่านั้น”
ที่มา: manager.co.th
Topic: "นก" เดินหน้า "จิ๋มเอื้ออาทร" ลั่นเป็นโรค คนป่วยต้องรักษา (Read 1006 times)
March 03, 2009, 06:05:12 PM
