รองมิสฮ่องกง "หลี่ฮุ่ยอี้" รุ่งสุด ๆ หลังคบพี่เตี้ย "เจิ้งจื่อเหว่ย"

[Nick]

เป็นเรื่องฮือฮาไม่น้อยกับข่าวความสัมพันธ์ของคนดังต่างวัยอย่าง ดาวตลกคนดัง "เจิ้งจื่อเหว่ย" กับอดีตรองมิสฮ่องกง "หลี่ฮุ่ยอี้" ที่ดูเหมือนว่าทั้งสองจะมีความสนิทสนมกันเป็นพิเศษในระยะหลัง และเป็นผลพลอยได้ที่ทำให้อาชีพในวงการบันเทิงของฝ่ายหญิง ดูจะรุ่งขึ้นมาเรื่อย ๆ ด้วย
       
       

       
       สาวใจถึง: หลี่ฮุ่ยอี้
       
       หลี่ฮุ่ยอี้ อดีตรองมิสฮ่องกงเมื่อปี 2006 เข้าวงการบันเทิงมาถึง 5 ปีแล้วในฐานะนักแสดงสังกัดของทีวีบี แต่ไม่ใช่งานแสดงที่ทำให้สาวคนนี้โด่งดังเป็นที่รู้จัก หากแต่เป็นการโชว์ความเซ็กซี่ในงานอีเวนต์ หรือพรมแดงต่าง ๆ ต่างหากที่ทำให้ใคร ๆ ก็รู้จัก หลี่ฮุ่ยอี้
       
       สาวสวยผู้มีจุดเด่นอยู่ที่ช่วงขายาว 44 นิ้ว ไม่เคยกังวลใจในการอวดขาสวย ๆ และรูปร่างของตัวเอง รวมถึงในงานประกวด มิสเตอร์ฮ่องกงเมื่อปี 2010 ที่ผ่านมา ซึ่ง หลี่ฮุ่ยอี้ ร่วมเป็นกรรมการ แต่กลับขโมยซีนด้วยชุดราตรีสีแดงสดแหวกด้านหน้า โชว์เนินอกขาว ๆ ซึ่งนอกจากจะเตะตาต้องใจบรรดาหนุ่มแล้ว ยังสร้างความไม่สบายใจ ให้กับคนดูส่วนหนึ่ง ที่โทรศัพท์ร้องเรียนเข้าไปที่ทีวีบีถึง 29 สาย เพื่อตำหนิงานประกวดในวันนั้น สืบเนื่องจากความเซ็กซี่ของเธอ
       
       ซึ่งนอกจากด้านความเซ็กซี่แล้ว ข่าวกับหนุ่ม ๆ ก็เป็นสิ่งที่สาวคนนี้ไม่เคยห่าง
       
       เคยมีข่าวว่า หลี่ฮุ่ยอี้ ได้คบหาดูใจกับ ดิ๊กสัน หว่อง อดีตผู้เข้าประกวดมิสเตอร์ฮ่องกง แต่ในเวลาเดียวกันเธอยังมีข่าวกับนักแสดงรุ่นใหญ่ในวงการอย่าง หวงซิวเซิง ระหว่างร่วมถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Turning Point ด้วยกัน
       
       ในตอนนั้นมีข่าวถึงขั้นที่ว่า หวงซิวเซิง ถึงกับออกปากเรียกร้องไปที่ผู้กำกับ เพื่อเพิ่มบทให้กับ หลี่ฮุ่ยอี้ ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกเธอเพียงมาเข้าฉากในฐานะดารารับเชิญเท่านั้น
       
       อย่างไรก็ตามข่าวความสัมพันธ์ของ หวงซิวเซิง และหลี่ฮุ่ยอี้ ก็เงียบไป เมื่อภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวปิดกล้องไปในเวลาต่อมา ... จนกระทั่งล่าสุดอดีตรองมิสฮ่องกงคนนี้ ก็กลับมามีข่าวกับหนุ่มใหญ่อีกครั้ง และคราวนี้เป็นคนที่ นิตยสารไทมส์ เคยให้ฉายาว่าเป็น "ก็อดฟาเธอร์ แห่งวงการบันเทิงฮ่องกง" อย่าง เจิ้งจื่อเหว่ย เลยทีเดียว
       
       

       
       รุ่งสุด ๆ หลังคบ "ก็อดฟาเธอร์" แห่งวงการบันเทิงฮ่องกง
       
       สื่อจากฮ่องกงแฉว่า หลี่ฮุ่ยอี้ ได้พบและสานสัมพันธ์กับ เจิ้งจื่อเหว่ย เมื่อปีก่อน และหลังจากนั้นอาชีพในวงการบันเทิงของเธอก็ดูจะรุ่งขึ้นเรื่อย ๆ
       
       เจิ้งจื่อเหว่ย ที่เป็น นักแสดง/พิธีกร/ดาวตลก/ผู้อำนวยการสร้าง ผู้กว้างขวางในวงการบันเทิงฮ่องกง ได้เลือกให้ หลี่ฮุ่ยอี้ มารับบทเด่นในหนังเรื่อง I Love Hong Kong ของเขา ที่เพิ่งประสบความสำเร็จอย่างสวยงามในการฉายเมื่อเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา ซึ่งว่ากันว่าบทของเธอเด่นกว่านักแสดงหญิงชื่อดังคนอื่น ๆ อย่าง อู๋จินหยู, หยวนหยงอี้ หรือ เฉินฝ่าร่า เสียอีก
       
       นอกจากนั้นระหว่างการโปรโมตหนังเรื่องนี้ เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ข้างกายของเจิ้งจื่อเหว่ยวัย 58 ปี ก็ดูเหมือนจะเคียงข้างด้วยสาว หลี่ฮุ่ยอี้ วัย 29 ปี อยู่ตลอด ถึงขั้นที่ว่าระหว่างกิจกรรมโปรโมตหนังที่กวางโจวในเมืองจีน หลี่ฮุ่ยอี้ คือนักแสดงหญิงเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่เจิ้งจื่อเหว่ยเรียกให้ขึ้นไปยืนอยู่บนเวทีกับเขาด้วย
       
       

       
       ความรักที่ไม่ลับ
       
       ซึ่งข่าวระบุว่าความสนิทสนมครั้งนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปีก่อนแล้ว หลังจากอดีตรองมิสฮ่องกงคนสวย ได้มีโอกาสร่วมเป็นแขกรับเชิญในรายการ Super Trio ที่ เจิ้งจื่อเหว่ย เป็นพิธีกรอยู่ และเขาประทับใจในความขี้เล่นปนเจ้าชู้ ไม่ถือเนื้อถือตัว ของสาวคนนี้มาก ถึงกับออกปากชวนให้เธอมาร่วมปรากฏตัวในรายการของเขาอีก และมอบบทเด่นในภาพยนตร์เรื่องใหม่ให้ด้วย
       
       "หลังโชว์จบไปแล้ว หลี่ฮุ่ยอี้ ยังส่งข้อความถึงเขาตลอดเวลามีข่าวอะไร ขณะที่ เจิ้งจื่อเหว่ย ก็รู้ดีว่าเรื่องครั้งนี้จะไปลงเอยกันอย่างไง ซึ่งสุดท้ายแล้วทั้งสองก็กลายเป็นแฟนกันในที่สุดจริง ๆ" แหล่งข่าวยังพูดถึงเรื่องนี้ต่อไปว่า "หลี่ฮุ่ยอี้ อยากจะแสดงหนังอีก เจิ้งจื่อเหว่ย ก็เลยพาเธอไปแนะนำให้กับคนใหญ่คนโตในวงการได้รู้จักด้วย เธอรู้ถึงวิธีพูดคุยกับผู้ชาย เธอจะสนใจเรื่องของอีกฝ่าย เล่ามุขตลกเก่ง ปาร์ตี้ได้สุดเหวี่ยง ผู้ชายทุกคนจะรู้สึกสนุกที่ได้อยู่กับเธอ"
       
       นอกจากนั้นแหล่งข่าวยังเผยด้วยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองนักแสดงชื่อดัง เกิดขึ้นทั้ง ๆ ที่ต่างฝ่ายต่างมีคนรักอยู่แล้ว โดยขณะนี้ หลี่ฮุ่ยอี้ เองก็ยังไม่ได้เลิกรากับแฟนหนุ่มที่ชื่อว่า ดิ๊กสัน หว่อง แต่ประการใด
       
       ขณะที่ภรรยาของ เจิ้งจื่อเหว่ย ก็อาศัยอยู่ที่ประเทศแคนาดา แต่ในขณะเดียวกันดาวตลกคนดังที่เคยผ่านการหย่าร้างมาแล้ว 1 ครั้ง ก็เคยให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า เขาไม่ใช่คนที่ชอบใช้ชีวิตครอบครัวนัก "ผมชอบใช้เวลาอยู่กับเพื่อนมากเกินไป แทบไม่เคยได้กลับบ้านเลย"
       

ที่มา: manager.co.th