นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 ที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เดินหน้าโครงการ “ศูนย์การเรียนรู้ ไอซีที ชุมชน”
เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีของเด็ก เยาวชน และคนในชุมชน ซึ่งสิ้นปีนี้จะจัดตั้งแล้วเสร็จ 260 ศูนย์ทั่วประเทศ โดยมีอีก 7 ศูนย์ เครือข่ายเข้าร่วม ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลเข้าถึงความรู้ผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศมากขึ้น
ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมว.ไอซีที กล่าวว่า ศูนย์ไอซีทีชุมชนทั่วประเทศจะมีขนาดที่ต่างกันตั้งแต่ขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ ขึ้นอยู่กับขนาดของชุมชน และจำนวนประชาชนที่จะเข้ามาใช้ประโยชน์ โดยปีแรกไอซีทีจะรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ต เครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ แต่ปีถัด ๆ ไปชุมชนจะต้องเข้ามา บริหารจัดการ
“กระทรวงไอซีทีกำลังพิจารณาที่จะให้ศูนย์ไอซีทีชุมชนทั่วประเทศได้ใช้อินเทอร์เน็ตฟรีโดยไอซีทีเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายตลอดไป และผลักดันให้เด็กไทยได้ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อแสวงหาความรู้ฟรี เหมือนกับให้เรียนฟรี 15 ปี” รมว.ไอซีที กล่าว
ปัจจุบันกระทรวงไอซีทีจัดตั้งศูนย์ไอซีทีชุมชนแล้ว 260 แห่ง คาดจะดำเนินงานให้ครอบคลุม 847 อำเภอ ซึ่งปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 ได้รับงบ 100 ล้านบาท เพื่อจัดตั้งศูนย์ไอซีทีชุมชนอีก 100 แห่ง ดังนั้น อำเภอหรือหมู่บ้านไหนที่สนใจสามารถดูรายละเอียดการขอจัดตั้งศูนย์ไอซีทีชุมชนได้ที่
www.mict.go.th หรือขอแบบฟอร์มที่สำนักงานสถิติจังหวัด
นอกจากการนำเครื่องคอม พิวเตอร์พร้อมอินเทอร์เน็ตกระจายสู่ท้องถิ่นทั่วประเทศผ่านโครงการศูนย์การเรียนรู้ ไอซีทีชุมชนแล้ว รมว.ไอซีที ยังมีโครงการจัดทำอี-บุ๊ก หรือ ตำราเรียนในรูปแบบอิเล็กทรอ นิกส์ โดยได้หารือกับกระทรวงศึกษาธิการเพื่อจัดทำตำราเรียนวิชาหลัก ๆ เพื่อให้นักเรียนสามารถค้นคว้าหาความรู้ และทำแบบทดสอบผ่านเว็บไซต์ได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการตั้งคณะกรรมการดูแลโครงการดังกล่าว รวมทั้งมีแนวคิดทำโครงการเน็ตบุ๊กพ่วงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแต่ราคาถูก เพื่อกระจายการเข้าถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตไปสู่ประชาชนทุกกลุ่ม ซึ่งเป็นการผลัดเปลี่ยนเครื่องคอมพิวเตอร์จากสมัยคอมพิวเตอร์ราคาประหยัด สู่การใช้งานเน็ตบุ๊กพ่วงอินเทอร์เน็ตราคาประหยัด
นายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงไอซีที กล่าวว่า ตั้งแต่เริ่มดำเนินโครงการศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีชุมชน ใช้งบประมาณในการจัดตั้งศูนย์ไปแล้ว 180 ล้านบาท ซึ่งการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ไอซีทีชุมชน จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากท้องถิ่น ให้ร่วมสานต่อโครงการและร่วมดูแลศูนย์ไอซีทีชุมชน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ดังนั้นกระทรวงไอซีทีจึงได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัดรวม 71 จังหวัด เพื่อร่วมกันดูแลศูนย์ไอซีทีชุมชน
“ขณะนี้ศูนย์ไอซีทีชุมชนในหลายจังหวัดกำลังได้รับความสนใจอย่างมากจากประชาชน เพราะหลายคนถูกเลิกจ้างต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา ทำให้สนใจที่จะอบรมการใช้คอมพิวเตอร์และสร้างเว็บไซต์ด้วยตนเอง เพื่อเป็นช่องทางในการขยายตลาดสินค้าชุมชน ตลอดจนธุรกิจท่องเที่ยวของแต่ละพื้นที่ เพื่อดึงดูดให้คนมาท่องเที่ยวและซื้อสินค้า ซึ่งเป็นโครงการที่จะพัฒนาคน สร้างงาน และสร้างเงินได้เป็นอย่างดี” นายสือ กล่าว
นายสือ กล่าวว่า การจัดตั้งศูนย์ไอซีทีชุมชน ไม่ใช่แค่จัดทำห้อง ตั้งคอมพิวเตอร์ และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเท่านั้น แต่กระทรวงไอซีทีจะร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ จัดอบรมการใช้คอมพิวเตอร์ และโปรแกรมการทำงานที่ประชาชนสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อยู่เสมอ ๆ เพื่อสร้างการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้ประชาชน
นายกิจจา เสาโร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนางรอง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ขณะนี้การจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีชุมชนของ จ.บุรีรัมย์ อยู่ระหว่างดำเนินงาน ซึ่งแผนการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีชุมชนของกระทรวงไอซีทีเป็นเรื่องดี เพราะสามารถพัฒนาอำเภอ ตำบล โดยนำสินค้าที่ดีของท้องถิ่น ขึ้นขายบนเว็บไซต์ให้คนทั่วโลกได้รู้จักและสามารถสั่งซื้อได้
โครงการดี ๆ ที่กระทรวงไอซีทีสามารถนำไอทีเข้าสู่ประชาชนได้อย่างทั่วถึง และสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย.
น้ำเพชร จันทา
namphetc@dailynews.co.th
ที่มา: dailynews.co.th