Author Topic: ทรีคอมปรับแบรนด์เขย่าบัลลังก์ซิสโก้ เปิดตัว 2 สวิตช์ส่งข้อมูลสูงสุด 2.2 พันล้าน  (Read 835 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline Reporter

  • Moderator
  • Gold Member
  • *
  • Posts: 1093
  • Karma: +8/-0
  • Gender: Male
    • ซ่อมคอมเชียงใหม่

   
Peter Chai
 
 
       ทรีคอม (3Com) ปรับกลยุทธ์ใหม่เพื่อรุกตลาดอุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์สำหรับองค์กรขนาดใหญ่ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ชูแบรนด์เอชทรีซี (H3C) สำหรับทำตลาดในกลุ่มเอนเตอร์ไพรส์โดยเฉพาะ ล่าสุดเปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์สวิตช์เพื่อใช้กับดาต้าเซ็นเตอร์ตระกูลเอชทรีซีที่มีความเร็วในการส่งข้อมูลสูงสุด 2.2 พันล้านแพกเกจต่อวินาที พร้อมโชว์ซอฟต์แวร์ระบบบริหารจัดการอัจฉริยะตัวล่าสุด ซึ่งทรีคอมการันตีว่าใช้งานสะดวกและง่ายดายกว่าคู่แข่งเบอร์หนึ่งอย่างซิสโก้แน่นอน
       
       สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ทรีคอมแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ออกเป็นสามส่วน หนึ่งคือสายเอชทรีซีเพื่อเน้นตลาดองค์กรขนาดใหญ่และใช้งานกับศูนย์กลางข้อมูลหรือดาต้าเซ็นเตอร์ สองคือสายทรีคอมที่จะเน้นตลาดองค์กรขนาดรองลงมาทั้ง SME และ SMB สามคือส่วนของทิปปิ้งพอยต์ (TippingPoint) ที่เน้นการดูแลระบบรักษาความปลอดภัยระดับไฮเอนด์
       
       "การใช้แบรนด์เอชทรีซีในการทำตลาดลูกค้าเอนเตอร์ไพรส์ของทรีคอมนั้นจะสร้างความชัดเจนให้กับบริษัทและพันธมิตรมากขึ้น ขณะเดียวกันก็แสดงว่าเอชทรีซีเป็นแบรนด์ของทรีคอมเต็มตัว" ปีเตอร์ ชัย รองประธานบริษัทและผู้จัดการทั่วไป ทรีคอม เอเชียแปซิฟิก กล่าว
       
       สาเหตุที่ชัยกล่าวเช่นนั้นเป็นเพราะทรีคอมซื้อแบรนด์เอชทรีซีคืนจากหัวเหว่ย (Huawei) ในราคา 882 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อปี 2006 ส่วนแบ่งตลาดอุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เอชทรีซีมีอยู่มากกว่า 35 เปอร์เซ็นต์ในประเทศจีน เช่น อุปกรณ์เชื่อมต่อเครือข่ายข้อมูลทั้งแบบมีสายและไร้สาย สวิตช์เชื่อมต่อโครงข่ายดาต้าเซ็นเตอร์ ระบบโทรศัพท์และระบบรักษาความปลอดภัยเครือข่ายข้อมูล ทั้ง VPN และไฟร์วอลล์ จึงตกเป็นของทรีคอมแต่ผู้เดียว
       
       ชัยระบุว่าการเป็นที่หนึ่งในตลาดจีนเป็นข้อพิสูจน์ว่าผลิตภัณฑ์เอชทรีซีมีคุณภาพดี สิ่งที่ทรีคอมกำลังทำคือการนำโซลูชันเน็ตเวิร์กสำหรับลูกค้าองค์กรของ H3C มาให้บริการกับลูกค้าทั่วโลกนอกประเทศจีน โดยการให้ความสำคัญกับแบรนด์เอชทรีซีจะไม่มีผลกระทบกับสินค้าตระกูลทรีคอมที่มีอยู่เดิม
       
       เพื่อรับกับการประกาศครั้งนี้ ทรีคอมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ตระกูลเอชทรีซีขึ้นใหม่ 2 ชิ้น หนึ่งคือ H3C S12500 สวิตช์สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ความเร็ว 6.6 เทราบิตต่อวินาทีที่สามารถรับส่งแพกเกจข้อมูล 2.2 พันล้านชุดต่อวินาที มาพร้อม 10G อีเธอเน็ตพอร์ตจำนวน 512 พอร์ต และพอร์ต 1G จำนวน 864 พอร์ต หวังชนกับสวิตช์ตระกูล Nexus ของซิสโก้
       
       แอนดรูว์ ฮินด์มาร์ช ผู้จัดการฝ่ายการตลาดด้านผลิตภัณฑ์ประจำภูมิภาค ทรีคอมเอเชียแปซิฟิกให้ข้อมูลว่า S12500 นั้นมีความสามารถเหนือกว่า Nexus 7000 สองเท่าตัว แต่กลับใช้พลังงานน้อยกว่าและมีขนาดเล็กกว่า โดยทรีคอมยังไม่ประกาศราคาจำหน่าย S12500 อย่างเป็นทางการในขณะนี้ กำหนดการวางจำหน่ายจริงคือเดือนกรกฎาคม
       
       สวิตช์อีกรุ่นที่ถูกเปิดตัวใหม่คือ S5800 Flex-Chassis ซึ่งมีสมาชิกในกลุ่มอีก 6 รุ่นที่สามารถเชื่อมต่อสวิตช์ 1G และ 10G เข้าเป็นสวิตช์เสมือนตัวเดียวเพื่อความสะดวกในการใช้งานแอปพลิเคชัน โดยสวิตช์ S5800 ถูกออกแบบมาเพื่อใช้เป็นส่วนเชื่อมต่อดาต้าเซ็นเตอร์และเครือข่าย สามารถรองรับพอร์ต 10G อีเธอร์เน็ตมากกว่า 24 พอร์ต หรือ 192 พอร์ตหากทำงานในรูปเสมือน โดยสามารถรับพอร์ต 1G อีเธอร์เน็ตได้ 80 พอร์ตหรือ 640 พอร์ตกรณีทำงานแบบเสมือน พร้อมวางจำหน่ายในเดือนกรกฎาคมเช่นกัน
       
       พร้อมกันนี้ ทรีคอมยังเปิดตัวโปรแกรม H3C Intelligent Management Center โปรแกรมจัดการที่ช่วยเหลือให้การดึงข้อมูลในดาต้าเซ็นเตอร์เข้าสู่เครือข่ายทำได้ง่ายดายและสะดวกขึ้นกว่าเดิม มีทั้งเวอร์ชันที่ลูกค้าสามารถดาวน์โหลดได้ฟรี และแบบที่ต้องชำระค่าบริการ โดยราคายังไม่เปิดเผย แผนการจำหน่ายคือเดือนมิถุนายน
       
       "สวิตช์และโปรแกรม IMC จะถูกเรียกรวมว่า H3C Extensible Data Center Switching and Management Platform แพลตฟอร์มนี้จะมีหน้าต่างให้จัดการเรื่องความปลอดภัย และทราฟฟิกต่างๆได้ในที่เดียว รองรับทิศทางดาต้าเซ็นเตอร์ยุคหน้า ลดค่าใช้จ่าย ลดงาน เน้น 5 ความต้องการพื้นฐานเครือข่าย เช่น รักษาสิ่งแวดล้อม มาตรฐานเปิด สามารถดำเนินการต่อได้ทุกสถานการณ์ ประสิทธิภาพในการดำเนินงานเพิ่มขึ้น และความปลอดภัย" แอนดรูว์กล่าว "บริษัทอื่นอาจซื้อบริษัทแล้วเอาเทคโนโลยีมาอินทิเกรด แต่เราพัฒนาเอง H3C IMC ไม่ใช่แค่ระบบที่จัดการสวิตช์ในเครือข่ายแต่สามารถเชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์ของบริษัทอื่น ทำให้ลูกค้าดึงข้อมูลจากดาต้าเซ็นเตอร์เข้ามาในเครือข่ายได้ในพื้นที่เดียว"
       
       แอนดรูว์กล่าวด้วยว่า ทรีคอมที่ผ่านมาเน้นการจำหน่ายเครือข่ายและการจัดการเครือข่าย พื้นที่ที่ทรีคอมจะไปในอนาคตคือการเชื่อมระหว่างเครือข่ายเข้ากับซอฟต์แวร์, เครือข่ายกับเซิร์ฟเวอร์ และเครือข่ายกับดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งทั้งหมดจะนำไปสู่การประสานเป็นเครือข่ายครบวงจรไร้รอยต่อหรือ Unified Fabric กับนานาบริษัทพันธมิตร
       
       "เราไม่ได้มองว่าผลิตภัณฑ์ใหม่เหล่านี้จะดึงมาร์เกตแชร์จากคู่แข่งเท่าใด แต่เรามองว่าความสามารถในการแข่งขันของเราดีขึ้น"
       
       นิโคลา เฮย์ส รองประธานบริษัทวิจัย BroadGroup เชื่อว่าทิศทางการเติบโตของตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะส่งผลดีต่อการทำตลาดผลิตภัณฑ์กลุ่มเอชทรีซีของทรีคอม โดยเฉพาะใน 5 ตลาดหลักอาเซียนคือ สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย และเวียดนาม ที่คาดว่าอัตราการเติบโตจะต่อเนื่องไปถึงปี 2015
       
       "สิงคโปร์จะอยู่ในระดับสูงสุด รองลงมาคือ มาเลเซีย เวียดนาม ไทย และอินโดนีเซีย กลุ่มหลักที่จะผลักดันตลาดคือกลุ่มองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่"
       
       สำหรับตลาดโลก บริษัทวิจัยการ์ทเนอร์เคยประมาณการณ์ว่า 70% ของบริษัทชั้นนำ 1,000 แห่งทั่วโลกจะต้องอัปเกรดดาต้าเซ็นเตอร์ของตัวเองแน่นอนภายใน 5 ปีนับจากนี้ เป็นตัวเลขที่น่าสนใจมากสำหรับผู้ค้าอุปกรณ์เครือข่ายทุกราย


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)