Author Topic: “บอล” น้ำตาซึม สวมกอด “นาตาลี” พร้อมเปิดใจเลิกเพราะหน้าที่การงานต่างกัน จ่อหย่า มี.ค.  (Read 888 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46027
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


"บอล" น้ำตาซึม เปิดใจเรื่องเลิก "นาตาลี" ยัน สาเหตุหลักเป็นเพราะหน้าที่การทำงานแตกต่าง ทำให้ไม่มีเวลาให้กัน รับ ก่อนแต่งเรียนรู้กันน้อยไป ชมที่ผ่านมานาตาลีเป็นภรรยาที่ดี เผย เตรียมหย่าเดือนมี.ค. บอก ตอนนี้ต่างฝ่ายมีสิทธิ์มีคนใหม่ไม่ถือว่าผิด ส่วนเรื่องสินสมรสแบ่งลงตัวไม่มีปัญหา ด้าน “นาตาลี” เผย แยกกันอยู่ตั้งแต่เดือนก.ค.ปีที่แล้ว และต่างคนก็เปิดใจคบคนใหม่ตั้งแต่นั้นมา ย้ำ รู้สึกเสียใจที่จะต้องหย่ากับอดีตสามี แต่ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
       
       ปิดตำนานคู่รักระดับโลกไปแล้วเรียบร้อย สำหรับคู่ของ "บอล ภราดร ศรีชาพันธ์" อดีตนักเทนนิสมือ 9 ของโลก และ “นาตาลี เกลโบวา” อดีตนางงามจักรวาลปี 2005 หลังจากทั้งคู่ตกลงปลงใจแต่งงานและใช้ชีวิตคู่ด้วยกันเพียงแค่ 3 ปี ล่าสุดความรักก็ถึงคราวอวสาน โดยก่อนหน้านี้ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บ.แองเจิ้ล แอนด์ แบร์ โปรดักท์ชั่น จำกัด ของฝ่ายชาย ได้ออกมาเปิดเผยข่าวรักร้าวนี้แก่สื่อมวลชนไปแล้ว ว่า ทั้งคู่ได้แยกกันอยู่ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว เนื่องจากภาระหน้าที่ที่ทำให้ต้องห่างกัน จนไม่สามารถปรับเข้าหากันได้
       
       ล่าสุด "บอล ภราดร" และ "นาตาลี" ได้เดินทางมาบันทึกเทปรายการ “ตีสิบ” ณ เซ็นทรัลพระราม 2 ทั้งนี้ได้มีกองทัพสื่อมวลชนให้ความสนใจเดินทางไปร่วมทำข่าวแทบทุกสำนัก โดยมีพิธีกรหนุ่ม "ฮาร์ท สุทธิพงศ์ ทัดพิทักษ์กุล" รับหน้าที่เป็นพิธีกรรับเชิญ ซึ่งบอลได้เปิดฉากเล่าถึงปัญหาที่ทำให้ชีวิตคู่ไปไม่รอดว่า
       
       บอล : “สาเหตุหลักๆ ก็คือเวลาที่เรามีให้กันน้อยลงครับ ด้วยเหตุผลที่หลังๆ การงานก็มีเยอะ ทั้งตัวของผมเองก็คือธุรกิจที่ผมทำคือตัวอาหารเสริม ส่วนของน้องก็คือเดินทางบ่อยขึ้นในเรื่องของการถ่ายแฟชั่นทั้งในและต่างประเทศ แต่จริงๆ เราก็แบ่งเวลานะครับ แต่พองานมันเข้ามาเรื่อยๆ มันก็เป็นอย่างนั้นต่อมาเรื่อยๆ ซึ่งมันทำให้ยากกับการที่จะใช้ชีวิตเหมือนเดิมครับ”
       
       “ถามว่าเลือกงานก่อนครอบครัวไหม คือเราคุยกันแล้วครับ เราดูสถานการณ์แล้วว่าน่าจะตกลงกันให้ออกมาในมุมนี้น่าจะดีที่สุด เพราะเราเชื่อว่าถ้าเราพยายามแล้วพยายามอีกจนมันไม่ได้ออกมาเป็นแบบนี้แล้วมันออกไปในทิศทางอื่นมันจะไม่ดี แต่ภรรยาสำคัญกว่างานแน่นอนครับ แต่มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตมนุษย์ทุกคน ทั้งงาน ทั้งครอบครัว ทั้งเพื่อน มันอยู่ที่เราจะแบ่งยังไง แต่ในเมื่อเราคุยกันแล้วว่าเราเลือกจะใช้วิธีนี้ กว่าที่จะเดินต่อไปโดยมีขวางหนามเยอะแยะมันอาจจะออกมาอีกมุมนึงเลยก็ได้ ซึ่งไม่น่าจะเป็นมุมที่เราต้องการ”
       
       “คือผมพร้อมที่จะมีชีวิตคู่นะครับ แต่พอเราใช้ชีวิตคู่ด้วยกันแล้วมันมีหลายปัจจัยที่เกิดขึ้นในชีวิตระหว่างที่เราใช้ชีวิตคู่กัน ก็เลยเป็นอย่างที่ออกมา แต่เรื่องโอกาสที่ปรับความเข้าใจกันมีอยู่เรื่อยๆ นะครับ คือมีโอกาสได้คุยและเข้าใจกันในทุกๆ ครั้งที่ได้คุย แต่สุดท้ายมันก็เกิดขึ้นอีก พอมันเกิดขึ้นบ่อยครั้งเข้าเราก็เลยตกลงกันคุยกันดีกว่า”
       
       นาตาลี : “แรกๆ มันก็เข้าใจและทำใจลำบากนะคะ เพราะว่าสามีและภรรยาย่อมต้องใช้เวลาอยู่ด้วยกัน แต่สุดท้ายก็เข้าใจนะคะ เพราะนาตาลีเองก็ไม่ได้อยู่ในสถานะที่แตกต่างไปจากพี่บอลเท่าไหร่ในเรื่องของเวลาและชีวิตครอบครัว ซึ่งนาตาลีเองก็แบ่งเวลาไม่ถูกเรื่องงานกับครอบครัวเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ว่าไม่สนใจพี่บอลนะคะ(หัวเราะ) คือสิ่งต่างๆ เหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ชั่วข้ามคืน แรกๆ เราสองคนก็พยายามที่จะใช้เวลาอยู่ร่วมกันให้มากที่สุด แต่ทีละเล็กทีละน้อยงานก็เข้ามาบีบแล้วก็กดดันให้เวลาที่เราสองคนจะใช้ร่วมกันมันค่อยๆ ห่างออกไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็มาจบที่ตรงนี้”
       “สำหรับนาตาลีเองก็คิดว่าพร้อมนะคะสำหรับชีวิตคู่ และเราถึงได้แต่งงานกัน แต่ทุกอย่างมันก็เกิดขึ้นได้ในชีวิต ก็อย่างที่คุณเห็นกันนี่แหละ แต่เชื่อเถอะนาตาลีไม่เคยวางแผนให้ชีวิตตัวเองจบออกมาเป็นอย่างนี้เลย ไม่มีใครอยากให้ชีวิตเป็นอย่างนี้หรอก พ่อแม่ของนาตาลีก็อยู่ด้วยกัน นาตาลีก็คิดว่าอยากจะเหมือนกับพ่อแม่ที่อยู่ด้วยกันจนแก่เหมือนกัน”
       
       ยอมรับทั้งคู่ว่าต่างฝ่ายต่างก็มีคนเข้ามา แต่ก็ให้ความเป็นอิสระซึ่งกันและกันในการคบเพศตรงข้าม เหตุเพราะเกิดจากความเชื่อใจที่มีให้กันมาโดยตลอด
       
       นาตาลี : “ยอมรับว่ามีผู้ชายคนอื่นที่พยายามจะเข้ามาจีบนาตาลี แต่นาตาลีก็ระมัดระวังเรื่องนี้มาก ก็ไปอย่างช้าๆ เรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้มองใครเป็นพิเศษค่ะ แต่ถามว่ามีโอกาสจะคบผู้ชายไทยอีกไหม จริงๆ ตั้งแต่แรกแล้วไม่เคยตั้งสเปคว่าคนที่จะมาเป็นแฟนหรือเป็นสามีจะต้องเป็นคนชาติไหน ใครก็แล้วแต่ที่เข้ามานั่งในหัวใจของนาตาลีได้ ก็คือคนนั้นแหละที่อยากจะแต่งงานด้วย ไม่ได้มีสเปคว่าต้องเป็นชาติไหน ปรึกษาพี่บอลเรื่องหนุ่มๆ ที่เข้ามาไหมเหรอ ตอนนี้ถ้าเกิดไปปรึกษาพี่บอลก็คงบ้าแล้ว เพราะคงรู้สึกประหลาดน่าดู แต่อนาคตไม่แน่ถ้าทุกอย่างมันนิ่งกว่านี้ ให้เวลาเป็นเครื่องเยียวยาได้ดีกว่านี้ พี่บอลอาจจะเป็นที่ปรึกษาที่ดีของนาตาลีก็ได้”
       
       บอล : “สำหรับผมจริงๆ ก็มีผู้หญิงเข้ามาเรื่อยๆ(หัวเราะ) คือมันเป็นธรรมชาติของผมอยู่แล้ว ซึ่งเวลาที่ไปไหนกับใครหรือแม้กระทั่งไปกับเพื่อนก็จะมีคนเห็นอยู่ตลอดเวลา หรือไม่เห็นแต่ก็บอกว่าเห็น(หัวเราะ) อาจจะเห็นเป็นกลุ่มหรือเห็นเป็นสองคน ซึ่งอยู่ที่ว่าสิ่งที่ผมทำลงไปในขณะนั้นคืออะไร คือเพื่อนหรือเปล่า หรือคนอื่นที่ผมแอบเก็บไว้ ซึ่งประเด็นของผมคือไม่ได้เป็นคนอื่นที่ผมเก็บไว้ อย่างที่บอกคือเราเชื่อใจกัน ไม่อย่างนั้นก็คงมีปัญหากันแน่ๆ”
       
       “แต่การที่มีเพื่อนผู้หญิงเข้ามาเรื่อยๆ ไม่ใช่เหตุของปัญหาของเราครับ คือเรามีพื้นที่ให้กันและกัน อย่างน้อยเขาก็มีผู้ชายเข้ามา คำว่าเพื่อนผู้ชายก็อาจจะพัฒนาเป็นแฟนในอนาคตก็ได้ ซึ่งก็เหมือนกันกับผม เพื่อนผู้หญิงที่เข้ามาอาจจะพัฒนาเป็นแฟนในอนาคตก็ได้ และตอนนี้เราเปิดใจกันทั้งสองคนแล้วว่าเราให้พื้นที่กันตรงนี้ และตอนนี้ก็ชัดเจนในเรื่องของการแยกกันอยู่ การที่คุณสามารถจะมีใครก็ได้ตั้งแต่เมื่อเดือนกรกฎาคมที่เราแยกกันอยู่ ซึ่งภาพต่างๆ ของผมกับสาวๆ ที่ออกมาไม่มีผลกระทบความสัมพันธ์ เพราะตั้งแต่แรกก่อนที่ผมจะรู้จักกับน้องฟ้าผมก็มีภาพพวกนี้ออกมาตลอดเรื่อยๆ ประจำ(หัวเราะ) แต่ก็ไม่ได้ทำให้น้องฟ้าเขาคิดมาก เพราะว่าอย่างที่เขาบอกไปว่าผมก็อยู่กับน้องฟ้าทุกวัน ไม่ได้ไปไหน”
       
       นาตาลี :“นาตาลีไม่เคยคิดว่าพี่บอลเจ้าชู้เลย ไม่เคยคิดว่าพี่บอลเป็นอย่างนั้น แต่ที่มีภาพออกมานาตาลีไม่เคยเห็นนะคะ”
       
       เรื่องบ้านที่พักอยู่ด้วยกันตอนนี้ ยังไม่มีการตัดสินใจที่จะขายแล้วแบ่งคนละครึ่ง เพราะยังอยู่ด้วยกัน แต่ยืนยันแบ่งสินสมรสลงตัวไม่มีปัญหา
       
       บอล: “ตอนนี้ยังอยู่บ้านเดียวกันครับ แต่ว่าถ้ามีงานที่อยู่ในเมืองที่ต้องมีตอนเช้าก็คงจะอยู่ที่คอนโดส่วนตัวของแต่ละคนที่มีไว้ ส่วนเรื่องจะขายแล้วหารหรือไม่หารครึ่งกันเราสองคนเดินเข้ามายังไงก็ยังงั้น เราไม่มีการเอารัดเอาเปรียบกัน ซึ่งน้องเขาก็ไม่ได้คิดว่าจะมาเอาเปรียบผมเรื่องนี้ หรือคิดว่าจะต้องมาเอาทรัพย์สมบัติอะไรตรงนี้ ซึ่งอย่างที่บอกว่าเราเข้าใจกันดีทุกอย่าง สินสมรสลงตัวครับ และยืนยันว่าไม่มีการฟ้องหย่าครับ”
       
       “ส่วนธุรกิจที่ทำร่วมกัน คือที่ผมทำอยู่ตอนนี้เป็นหลักเลยก็คืออาหารเสริมของผู้ชาย แล้วก็เป็นโค้ชทีมชาติให้กับสมาคมเทนนิสของประเทศไทย แล้วก็มีโรงเรียนสอนเทนนิสของตัวเองด้วย และสิ่งที่เตรียมไว้ของน้องฟ้าก็คือผลิตภัณฑ์เมจิกพิ้งค์ โดยนาตาลี ตอนนี้ก็มีออกมาขายแล้วนะครับ ซึ่งน้องฟ้าก็เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์และเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์เองด้วย นี่คือสิ่งที่เรามองไปข้างหน้าและจะทำร่วมกัน ซึ่งก็จะทำให้เราสองคนยังอยู่ด้วยกันในมุมของการทำธุรกิจด้วยกัน และเชื่อว่าสิ่งนี้จะทำให้เรารักและห่วงใยซึ่งกันและกันเหมือนเดิม คือบริษัทนี้ผมเป็นผู้บริหารเอง แต่ในส่วนของน้องฟ้าก็น้องฟ้าเป็นผู้บริหารไป”
       
       “แต่ถามว่าทำผลิตภัณฑ์เพื่อผู้ชาย แต่ทำไมชีวิตครอบครัวถึงเป็นอย่างนี้เหรอครับ(หัวเราะ) จริงๆ ก็เคยมีเพื่อนแซวเหมือนกันว่าข้างกล่องมันเขียนไว้หรือเปล่าว่าให้ใช้เฉพาะนอกบ้าน(หัวเราะ) คือมันไม่เสมอไปหรอกครับ มันเป็นเรื่องของสุขภาพ และสิ่งที่ผู้ชายต้องการก็คือความมั่นใจและสุขภาพระยะยาวที่ไม่มีผลข้างเคียงเป็นผลร้ายต่อสุขภาพ ซึ่งตัวผมเองเป็นนักกีฬาผมสามารถที่จะสื่อตรงนั้นให้ผู้บริโภคเห็นได้ค่อนข้างชัดเจน”
       
       นาตาลี : “สำหรับนาตาลีในการที่จะทำธุรกิจในประเทศไทยต่อไปหรือแม้แต่การใช้ชีวิตก็ตามคิดว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะถึงต่อไปจะกลายเป็นเหมือนแค่ชาวต่างชาติคนนึง เพราะก่อนที่จะคบกับพี่บอล นาตาลีก็เคยใช้ชีวิตเหมือนคนต่างชาติทั่วไปในประเทศไทยมาก่อน คงไม่มีปัญหาค่ะ”
       ยืนยันว่าที่มาออกรายการคู่กันครั้งนี้ไม่ได้เสแสร้ง แกล้งทำเพื่ออะไรทั้งสิ้น แต่เป็นเพราะการตัดสินใจของทั้งคู่ และตนสองคนก็เป็นคนของประชาชน จึงอยากให้ทุกคนได้รับรู้ตรงกัน เพื่อที่จะไม่ได้คาดเดากันไปเอง
       
       นาตาลี : “คือทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สิ่งที่ทุกคนเห็นทุกอย่างนี้คือเรื่องจริง เราไม่ได้เสแสร้งหรือเล่นละครกัน นี่คือความรู้สึกที่ดีที่เรามีต่อกันอย่างแท้จริง แต่สุดท้ายเมื่อมาเผชิญความจริงแล้วก็ตัดสินใจกันทั้งคู่แล้วจะเดินแยกกัน และไม่ได้เพิ่งจะมาตัดสินใจเมื่อเร็วๆ นี้ แต่เราตัดสินใจมาเมื่อ 8 เดือนที่แล้ว สุดท้ายก็คือเราตัดสินใจแล้วว่านี่คือสิ่งที่เราตัดสินใจ จริงๆ นาตาลีก็เห็นด้วยที่ว่าตอนนี้เราก็มีการสื่อสารมากมาย ที่แม้ว่าเราจะทำงานกันคนละที่ แต่เราก็ยังสามารถติดต่อกันได้ตลอด แต่สุดท้ายเราก็ตัดสินใจแล้ว และได้พยายามที่จะใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว แต่มันไม่สำเร็จ”
       “นาตาลีไม่เคยมาคิดทบทวนย้อนหลังแล้วมานั่งเสียใจ แต่แน่นอนช่วงนี้คงไม่ใช่ช่วงที่เราจะมาดีใจหรือฉลองอะไร มันเป็นช่วงเวลาของความเศร้าใจที่เราต้องจากกัน แต่ตอนนี้เราโฟกัสไปที่อนาคต เรายังมีอนาคตที่สดใสของกันและกันอยู่ข้างหน้า”
       
       บอล : “การมาครั้งนี้ไม่มีการเตี้ยมกัน ไม่มีการวางแผน แต่ว่าสิ่งที่ผมและน้องฟ้าได้คุยกันไว้ในช่วง 8 เดือนคือตั้งแต่กรกฎาคมจนมาถึงช่วงนี้มันก็ครบ 8 เดือนตามที่เราวางระยะเวลาไว้ว่าถ้ามันดีเราก็กลับมาเหมือนเดิม แต่ถ้าเราคิดว่าจะแยกกันก็คือแยกกันเลย แต่สิ่งนึงที่ทำไมเรามานั่งที่ตีสิบกันวันนี้ก็เพราะว่าเราต้องการให้สื่อออกไปในทางเดียวกัน เป็นสิ่งที่เราได้พูดในรายการเดียว จริงๆ เราไม่ได้เลือกว่าจะต้องเป็นรายการไหน แต่เราเห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมและจะได้คุยกับพี่ๆ สื่อมวลชนในทุกแขนง และต้องขอบคุณรายการที่ทำให้เราได้มานั่งที่นี่วันนี้และได้คุยกับพี่ๆ ทุกคน สิ่งนึงผมกับน้องฟ้าก็เป็นคนของประชาชนที่จะทำอะไรก็คงต้องให้ข่าวออกไป ถ้าไม่มีการพูดถึงเรื่องของเราสองคน คือการที่เราตกลงกันสองคนไม่สามารถที่จะมีใครรู้ และถ้าเห็นอะไรที่รู้สึกว่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้ก็จะเกิดการพูดหรือคาดเดากันไป”
       
       “แต่ถามว่าเสียใจกับการเลิกกันครั้งนี้ไหม มันก็เป็นความเสียใจที่เราตัดสินใจแล้ว และคิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเราสองคน ก็อย่างที่บอกว่าทำไมไม่ใช้คำว่ารักผ่านอุปสรรคนี้ไปให้ได้ คือเราใช้คำว่ารักในความรู้สึกแคร์ของแต่ละคนเพื่อที่จะมองไปข้างหน้าต่อไปมากกว่าที่จะผ่านอุปสรรค”
       
       บอล: “ถามว่าความรักครั้งนี้ให้บทเรียนอะไรบ้าง มันก็เหมือนกับหนังสือเล่มนึง คือเราไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้น แต่เราทำไปโดยการตัดสินใจ โดยความรู้สึกที่เรามี ที่เรารู้สึกว่าเรารัก เราแคร์ เราอยากใช้ชีวิตด้วย ซึ่งน้องเองก็คิดเหมือนกันกับผมว่าเราจะใช้ชีวิตร่วมกัน แต่ในเมื่อสิ่งนี้มันเกิดขึ้นแล้วผมเชื่อว่าเราคงทำบุญกันมาแค่นี้”
       
       นาตาลี :“บทเรียนก็ยังต้องเรียนรู้อยู่ แต่นาตาลียอมรับว่าตั้งแต่คบกัน แต่งงานกัน จนกระทั่งวันนี้แยกทางกันเราก็ดิ้นรนพยายามหาทางออก และในระหว่างที่ดิ้นรนนาตาลีก็เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง ซึ่ง ณ วันนี้นาตาลีก็ยังเรียนรู้อยู่ ซึ่งบทเรียนนี้เชื่อว่าคงจะรู้ในเร็วๆ นี้ แต่ตอนนี้สิ่งที่รู้ก็คือรู้แล้วว่าความรักเริ่มต้นยังไง เปลี่ยนแปลงยังไงและจบยังไง”
       

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)