สำนักงานสถิติแห่งชาติเดินหน้าจัดทำ “สำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ.2555” ส่งพนักงานลงพื้นที่สัมภาษณ์เพื่อรวบรวมข้อมูลการดำเนินธุรกิจทางการค้า ธุรกิจด้านบริการและอุตสาหกรรมการผลิตจากสถานประกอบการทั่วประเทศ พร้อมขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการให้ข้อมูลถูกต้องครบถ้วน เพื่อเป็นข้อมูลให้ภาครัฐและผู้ประกอบการใช้ในการวางแผนพัฒนาประเทศและธุรกิจให้มีศักยภาพ ตอกย้ำให้ผู้ประกอบการมั่นใจ ข้อมูลไม่รั่วไหล ไม่เกี่ยวพันข้อกฎหมาย ไม่โยงใยเรื่องภาษี ลงพื้นที่ 1 มีนาคม - 30มิถุนายนนี้
นายวิบูลย์ทัต สุทันธนกิตติ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ กล่าวถึงเหตุผลในการจัดทำสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรมว่า ปัจจุบันโครงสร้างทางเศรษฐกิจได้เปลี่ยนไปจากภาคเกษตรกรรมเป็นภาคอุตสาหกรรมการผลิต การค้าและบริการเป็นหลัก อุตสาหกรรมการผลิตซึ่งนับเป็นกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีบทบาทอย่างมากต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยในแต่ละปีมีมูลค่าผลผลิตประมาณ 2 ใน 5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) ในขณะที่ธุรกิจทางการค้าและธุรกิจทางการบริการ มีมูลค่าผลผลิตประมาณ 1 ใน 5 ของ GDP ดัง นั้นข้อมูลสถิติและสารสนเทศโครงสร้างพื้นฐานเกี่ยวกับการประกอบการดังกล่าว จึงมีความสำคัญสำหรับภาครัฐและเอกชนในการกำหนดนโยบายและวางแผนพัฒนาด้าน เศรษฐกิจและอุตสาหกรรม เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในเวทีการค้าโลก
ด้วยเหตุนี้สำนักงานสถิติแห่งชาติ จึงได้จัดทำสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรมขึ้นซึ่งที่ผ่านมาจัดทำทุกๆ 10 ปี แต่เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ทันสมัยมากขึ้น จึงได้ปรับเปลี่ยนให้มีการจัดทำทุกๆ 5 ปี โดยเริ่มตั้งแต่การทำสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ.2555 เป็นต้นไป
"สำหรับการลงพื้นที่เพื่อสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ.2555 จะดำเนินการระหว่างวันที่ 1 มีนาคม ถึง 30 มิถุนายน 2554 โดยมีเจ้าหน้าที่ในนาม “คุณมาดี” ที่สวมเสื้อโปโลสีส้ม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการจัดทำสำมะโนธุรกิจและอุตสาหกรรม พ.ศ.2555 ที่มีบุคลิกที่เป็นมิตร สุภาพ ยิ้มแย้มแจ่มใสและเป็นกันเอง จำนวน 1,500 คน ลงพื้นที่สัมภาษณ์ผู้ประกอบการทั่วประเทศ"
การเก็บรวบรวมข้อมูลพื้นฐานจะสอบถามจากสถานประกอบการที่ประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งทางด้านธุรกิจการค้า (ค้าปลีก ค้าส่ง) ธุรกิจทางการบริการ การผลิต การก่อสร้าง การขนส่งทางบกและสถานที่เก็บสินค้า กิจกรรม ด้านข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร และโรงพยาบาลเอกชน ส่วนการเก็บรวบรวมข้อมูลรายละเอียด จะสอบถามจากสถานประกอบการที่ดำเนินกิจการเกี่ยวกับธุรกิจการค้าปลีก-ค้าส่ง การบริการและการผลิต ซึ่งการทำสำมะโนในครั้งนี้สำนักงานสถิติแห่งชาติได้นำร่องโดยการนำระบบ E - Service และ E - Question มาใช้ในบางพื้นที่ เพื่อประเมินถึงผลดีผลเสีย และหากการดำเนินการโดยวิธีนี้สามารถลดขั้นตอน เวลา ค่าใช้จ่าย ข้อผิดพลาด และสามารถประมวลผลเป็นรายวันเมื่อจบภาคสนามก็จะขยายพื้นที่ต่อไป
“สำนัก งานสถิติแห่งชาติ ขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการให้ข้อมูลที่ครบถ้วนถูกต้อง โดยมั่นใจได้ว่า ข้อมูลที่ให้มาจะไม่รั่วไหล ไม่เกี่ยวพันข้อกฎหมาย และไม่โยงใยเรื่องภาษี เพื่อที่รัฐจะได้กำหนดแผนนโยบายพัฒนาได้ตรงกับความต้องการ"
"สำหรับผู้ประกอบการสามารถใช้ข้อมูลที่ได้เป็นเครื่องมือวิเคราะห์สถานการณ์ ด้านเศรษฐกิจ รวมทั้งการวางแผนตัดสินใจเกี่ยวกับการลงทุนขยายกิจการ บริหารและควบคุมการดำเนินกิจการในด้านต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงใช้ข้อมูลเป็นฐานเพื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงานตนกับกิจการอื่น ในส่วนของนักวิชาการ นักวิจัย และสถาบันการศึกษา สามารถนำไปวิเคราะห์ต่อยอดสร้างนวัตกรรมเพื่อสนับสนุน ส่งเสริม และพัฒนาธุรกิจทางการค้า ธุรกิจทางการบริการ และอุตสาหกรรมการผลิตที่อยู่ในความสนใจและเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และขอให้ผู้ประกอบการมั่นใจว่าข้อมูลของสถานประกอบการจะถูกเก็บเป็นความลับ ไม่มีการนำไปเปิดเผยเป็นรายกิจการ สำนักงานสถิติแห่งชาติจะนำไปประมวลเป็นค่าทางสถิติและเสนอผลในภาพรวมเท่านั้น” นายวิบูลย์ทัต กล่าว
Company Related Link :
สำนักงานสถิติแห่งชาติ
ที่มา: manager.co.th