“คิมเบอร์ลี่” โต้ข่าวทะเลาะกับพ่อ-แม่ แล้วหนีตามทอมไปอยู่คอนโดไม่เป็นความจริง แจง ตนอยู่คอนโดกับพ่อและพี่ชายอยู่แล้ว รับ มีเพื่อนเป็นทอมแต่ไม่มีแนวโน้มจีบ บอก แม้ผู้ใหญ่ไม่ว่าอะไรแต่ก็ต้องระวังตัวมากขึ้น เพราะช่วงหลังข่าวฉาวเยอะ
เป็นนางเอกสาวน้องใหม่ที่กำลังมาแรงแห่งวิก 3 สำหรับนางเอกสาว “คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส” ที่แจ้งเกิดมาจากละคร “สี่หัวใจแห่งขุนเขา” โดยก่อนหน้านี้สาวคิม เคยมีข่าวเม้าท์ว่าเป็นมือที่สามของพระเอกหนุ่ม “บอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์” กับแฟนสาว “เอ๋ย” มาแล้ว หรือแม้กระทั้งเจ้าตัวถูกปาปารัสซี่ถ่ายรูปเดินช้อปปิ้งกับทอม จนนางเอกสาวโดนเม้าท์ว่ามีรสนิยมฉิ่งฉับ แต่สาวคิมก็ได้ออกมาปฏิเสธไปแล้วว่าเป็นแค่เพื่อนกัน กระทั้งล่าสุดมีข่าวลุกลามชนิดที่ว่า พ่อกับแม่ของเจ้าตัวห้ามไม่ให้คบทอม จึงทำให้มีปากเสียง ถึงขนาดสาวคิมหนีไปอยู่กับทอมคนดังกล่าวที่คอนโดของอีกฝ่าย งานนี้ร้อนถึงเจ้าตัวต้องรีบชี้แจงเรื่องดังกล่าวด้วยตัวเอง โดยยืนยันว่าไม่เป็นความจริง
“ข่าวที่ว่าคิมมีแฟนเป็นทอม แล้วทำให้พ่อแม่ไม่พอใจจนทะเลาะกัน คิมเลยต้องหนีมาอยู่คอนโดกับทอม คือเรื่องนี้ไม่มีค่ะ ทอมคนใหม่อีกแล้วเหรอค่ะ(หัวเราะ) ไม่มีค่ะ แต่ที่จะมีก็มีเพื่อนอยู่คนหนึ่งเป็นเพื่อนห้าวๆ แค่นั้น คือต้องบอกว่าตอนนี้คิมอยู่คอนโดอยู่แล้ว อยู่กับคุณพ่อและพี่ชายค่ะ ไม่ได้อยู่กับใครเลย ถ้าบอกว่ามีคนเห็นไปเดินช้อปปิ้งด้วยกัน ก็ไม่เคยเดินชอปปิ้งในห้างนะคะ ไม่มีค่ะ เพราะว่าช่วงนี้คิมไม่ได้ไปไหนเลย ไปก็ไปแต่พี่ชายพี่สาวตลอด”
“กับสาวหล่อคนที่ถามมา ถ้าเป็นคนนี้เราคือเพื่อนกันเลยค่ะ อย่างที่บอกไป แต่ก็จะมีเพื่อนที่ออกแนวเท่ห์ๆ แต่ไม่รู้ว่าเขาเป็นหรือเปล่า เพื่อนคนนี้เขาก็ไม่ได้มาจีบอะไรเราเลยนะ เราจะคุยกันแบบแกกับฉันเลย ไม่ได้มีแนวโน้มว่าจีบเลยแน่นอน แต่ก่อนคิมค่อนข้างสนิทกับเขา แค่ตอนนี้เขาก็ทำงานของเขา ถ้าเป็นเมือก่อนก็ค่อนข้างที่สนิท มากกว่าเพราะว่าเขาก็เป็นคนที่อยู่กลุ่มเดียวกับพี่สาวด้วย เรารู้จักกันมานานแล้ว 3 ปีแล้ว เพราะเจอกันที่ฟิตเนสค่ะ”
เผย ช่วงหลังกระแสข่าวเยอะ แต่ยังโชคดีที่ผู้ใหญ่ทางช่องไม่ได้เรียกตักเตือนอะไร บอก ต่อไปคงต้องระวังตัวเองมากขึ้น
“ผู้ใหญ่ท่านก็ไม่มีติหรืออะไร เพราะว่าข่าวมันก็ไม่จริงหมดเลย คิมก็เลยไม่ได้ซีเรียสด้วย แต่ตอนนี้ก็คงต้องระวังมากขึ้นค่ะ เดินไปไหนก็ต้องระวังจะทำตัวให้เหมือนเมื่อก่อนก็ไม่ได้ เพราะเราก็อยู่ตรงนี้ด้วยก็ไม่อยากให้มีข่าวเยอะ เกรงใจผู้ใหญ่ด้วยถึงแม้ว่าจะเป็นข่าวที่ไม่จริงก็ตาม แต่คนที่ไม่รู้จักเราก็อาจจะเข้าเราผิดได้ค่ะ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกซีเรียสกับข่าวที่เกิดขึ้น เพราะว่าไม่เป็นเรื่องจริงค่ะ”
ที่มา: manager.co.th
