ควอลคอมม์หวังกระตุ้นมือถือเฮาส์แบรนด์ไทยใส่ชิปเซต 3G เข้าตลาด หลังสมาร์ทโฟนโตกระจาย มั่นใจเห็นสมาร์ทโฟนราคา 6,500 บาทปีนี้ พร้อมบุกตลาดชิปเซตรุ่นใหม่ ความเร็ว 2.5 กิกะเฮิรตซ์ 4 คอร์ปีหน้า
นางคนึงจิตร สุริยะธำรงกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย ควอลคอมม์ อินเตอร์ปอเรทเต็ด กล่าวว่า แนวทางขยายตลาดปีนี้ของควอลคอมม์ในไทยจะโฟกัสไปยังผู้ผลิตมือถือที่เป็นแบรนด์ภายในประเทศ เพื่อให้หันมาใช้ชิปเซตของควอลคอมม์ให้มากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของสมาร์ทโฟนในไทย เห็นได้จากรายได้ของโอเปอเรเตอร์ที่ประกาศผลประกอบการออกมาว่า รายได้จากบริการในกลุ่มนอนวอยซ์เพิ่มขึ้น 33%
ขณะที่การเปิดตัวของสมาร์ทโฟนของแบรนด์ต่างๆ ทั่วโลกเฉพาะครึ่งปีแรกของปี 2553 มีมากกว่า 100 รุ่นเมื่อเทียบกับปี 2552 ทั้งปีมีสัดส่วนน้อยกว่า 15% โดยการ์ทเนอร์คาดการณ์ว่า ในปี 2557 จะมียอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นกว่า 45% ส่วนยอดการดาวน์โหลดแอปฯผ่านมือถือใน 2552 มีประมาณ 7 พันล้านเหรียญ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 5 หมื่นล้านเหรียญในปี 2555
'ความร้อนแรงของสมาร์ทโฟนได้ก่อให้เกิดอีโคซิสเต็มส์ที่เอื้อประโยชน์ให้แก่ทั้งผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ผู้ผลิต รวมไปถึงผู้พัฒนาแอปฯ รวมไปถึงตัวผู้บริโภคด้วย'
ยังมีการคาดการณ์ว่า สมาร์ทโฟนในระดับต้นและกลาง จะมียอดจำหน่ายเติบโตถึง 9 เท่าในปี 2557 ขณะที่ระดับบนคาดว่าจะเติบโตประมาณ 3 เท่า ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวจะเริ่มเห็นในไทยชัดขึ้น จากการที่มีมือถือที่ใช้ชิปเซต 'สแน็ปดราก้อน' ความเร็ว 1 กิกะเฮิรตซ์ของควอลคอมม์เข้ามาจำหน่ายในราคา 9 พันกว่าบาท หากเมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่สมาร์ทโฟนที่ใช้ชิปเซตตัวเดียวกันนี้ราคาจะอยู่ในระดับ 1 หมื่นกว่าบาทจนถึง 2 หมื่นกว่าบาท ซึ่งถือว่า ระดับราคาลดลงอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ควอลคอมม์เป็นบริษัทผู้ผลิตชิปเซต บทบาททางการตลาดในไทย จึงเน้นไปที่ทำงานร่วมกับผู้ผลิตมือถือทั้งที่เป็นแบรนด์ดังๆ จนถึงแบรนด์ภายในประเทศ รวมถึงผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ โดยให้ความรู้เกี่ยวกับทิศทางการพัฒนาเทคโนโลยีชิปเซตและเทคโนโลยีทางด้านคลื่นความถี่ เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการออกมาให้สอดคล้องกัน
'เวลานี้กำลังคุยกับผู้ผลิตมือถือที่เป็นโลคัลแบรนด์ในไทยเพื่อกระตุ้นให้ใช้ชิปเซต 3G มากขึ้น ซึ่งจะทำให้สมาร์ทโฟน 3G จากมือถือโลคัลแบรนด์มีระดับราคา 5,000-6,500 บาท ภายในปีนี้ ส่วนที่ราคาจะลดลงมาถึงระดับประมาณ 3 พันกว่าบาทนั้นคงจะต้องใช้เวลาซึ่งมีหลายๆ ปัจจัยที่มีผลต่อราคาไม่ใช่เฉพาะชิปเซตเพียงอย่างเดียว'
นางคนึงจิตรกล่าวถึงแนวทางพัฒนาชิปเซตสแน็ปดราก้อนซึ่งเป็นชิปเซตระดับสูงของควอลคอมม์ว่า ในปี 2554 ควอมคอมม์จะเปิดตัวชิปเซตสแน็ปดราก้อนรุ่นใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี 28 นาโมมิเตอร์ ทำให้มีสมรรถนะการทำงานเพิ่มขึ้นกว่าสถาปัตยกรรม ARM ถึง 150% ต่อ 1 คอร์ ขณะที่กินไฟน้อยลงถึง 65% โดยชิปเซตที่จะเปิดตัวนั้นจะมีความเร็วที่ 2.5 กิกะเฮิรตซ์ โดยจะมีทั้งที่เป็น 1 คอร์ 2 คอร์ ออกสู่ตลาดภายในปีนี้ ส่วน 4 คอร์จะออกมาประมาณต้นปีหน้า และจากการที่ชิปเชตใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ทำให้ตัวชิปเชตมีขนาดเล็กลงประมาณ 10-20% ทำให้ง่ายต่อการดีไซน์ซึ่งส่งผลให้สมาร์ทโฟนมีขนาดเล็กลง รวมไปถึงแท็ปเล็ตด้วย
'จุดเด่นของชิปเซตสแน็ปดราก้อนอยู่ที่การรวมฟังก์ชันการทำงานทางด้านการสื่อสารหลากหลายประเภท รวมไปถึงฟังก์ชันใหม่ๆ อาทิ ระบบจีพีเอส โมเด็ม มัลติมีเดีย คลื่นความถี่วิทยุ และระบบบริหารการใช้พลังงานเข้าไว้ด้วยกันบนชิปเดียว ซึ่งแตกต่างจากคู่แข่ง'
ส่วนชิปเซตที่ความเร็ว 1.2 และ 1.5 กิกะเฮิรตซ์นั้น ในปีนี้จะเห็นผู้ผลิตมือถือแบรนด์ดังๆ ทยอยวางตลาดมากขึ้น ปัจจุบันมีอุปกรณ์กว่า 55 รุ่น ซึ่งเปิดตัวร่วมกับผู้ให้บริการมือถือกว่า 60 รายใช้ชิปเซตสแน็บดราก้อน
Company Related Link :
Qualcomm
ที่มา: manager.co.th