ค่ายไอทีไม่สิ้นหวัง กัดฟันสู้วิกฤตเศรษฐกิจ บิ๊กค้าส่ง"ซินเน็ค" ลดค่าใช้จ่าย ช่วยเหลือสภาพคล่องลูกค้า เพิ่มส่วนแบ่งตลาด ขณะที่ "ไมโครซอฟท์" ปักป้ายลดค่าใช้จ่าย รุกหนักลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ ประกาศปีหน้ามุ่งความพึงพอใจลูกค้า ชิมลางบริการเช่าใช้
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ค้าส่งสินค้าไอทีรายใหญ่ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า บริษัทได้ปรับวิธีการทำงานเพื่อรองรับกับภาวการณ์ชะลอตัวทางเศรษฐกิจ โดยกลยุทธ์หลักที่สำคัญคือการมุ่งลดต้นทุน และการเพิ่มช่องจำหน่าย รวมไปถึงการให้วงเงินเครดิตกับลูกค้า ที่ขาดความคล่องตัว หรือมีความยุ่งยากในการขอวงเงินกู้จากธนาคาร
"ตลาดโดยรวมปีนี้คาดว่าจะไม่เติบโต คู่แข่งอยู่ในสถานการณ์ลำบาก มีการเข้มงวดเรื่องเครดิต แต่เรามองว่าในภาวการณ์เช่นนี้การให้การสนับสนุนด้านการเงินกับลูกค้าน่าจะเป็นโอกาสของเราในการสร้างส่วนแบ่งตลาดมากขึ้น โดยขณะนี้เรามีส่วนแบ่งในตลาดที่เป็นพีซีเบส หรือคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลอยู่ประมาณ 25%"
นายสุพันธุ์ กล่าวต่อไปว่าส่วนไตรมาสแรก ของปีนี้นั้นบริษัทยังคงมียอดการเติบโต แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขได้เนื่องจากยังไม่ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ แต่เป็นตัวเลขการเติบโตที่น่าพอใจ ขณะที่ตลาดโดยรวมโต 3-5% ขณะเดียวตัวเลขการเติบโตในไตรมาสแรกของปีนี้ทำให้บริษัทมั่นใจว่าในปีนี้จะมีตัวเลขการเติบโตรวมตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือ 5% จากปีที่ผ่านมามีรายได้ประมาณ 12,000 ล้านบาท
ด้านนางสาวปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าผลกระทบจากภาวการณ์ชะลอตัวทางเศรษฐกิจ บริษัทมีการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป มีการรณรงค์ปิดไฟ มีการปรับลดงบประมาณการเดินทางลงไป ซึ่งระยะเวลา 2 เดือนของปีงบประมาณนี้ จะมุ่งเตรียมความพร้อม โดยมีการอบรมในระดับผู้จัดการ และมีการพัฒนาทักษะพนักงานผ่านออนไลน์เทรนนิ่ง เพื่อเตรียมความพร้อมสามารถนำเสนอเทคโนโลยี หรือ ผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ลูกค้าได้ทันทีเมื่อฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังมุ่งให้ความสำคัญไปยังกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ อาทิ ธนาคาร ซึ่งวันนี้ยังไม่หยุดลงทุน ขณะที่ระบบงาน หรือแอพพลิเคชัน ของไมโครซอฟท์ มีการเติบโตอย่างมากในกลุ่มมหาวิทยาลัยทั้งรัฐ และเอกชน ส่วนกลุ่มสินค้าโออีเอ็มนั้นจะมุ่งขยายการทำตลาดต่างจังหวัดมากขึ้น ทั้งนี้คาดว่าในปีงบประมาณ 2552 บริษัทจะมียอดการเติบโต 22%
ส่วนในปีงบประมาณ 2553 (เริ่ม ก.ค.52-มิ.ย.53) นั้นบริษัทจะมุ่งเน้นการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า แม้ลูกค้าจะไม่มีงบประมาณลงทุน แต่ก็จะเข้าไปช่วยให้ลูกค้าใช้ประโยชน์จากระบบไอทีที่มีอยู่อย่างเต็มที่ ขณะที่แคมเปญตลาด หรือกิจกรรมตลาดที่ออกมาจะมุ่งไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้น ขณะเดียวกันยังมีแผนเปิดให้บริการเช่าใช้ซอฟต์แวร์ อาทิ ซอฟต์แวร์ออฟฟิศ หรือ แชร์พอยต์ โดยมีระยะเวลาสูงสุด 3 ปี โดยที่ลูกค้าจ่ายค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือน ซึ่งรูปแบบดังกล่าวจะช่วยแบ่งเบาภาระการลงทุนลูกค้า และสามารถนำไปเป็นค่าใช้จ่ายไปหักภาษีได้
ที่มา: thannews.th.com