วันศุกร์ที่ 11 ก.พ. 2011 คือวันที่สื่อต่างชาติลุ้นกันว่ายักษ์ใหญ่โลกโทรศัพท์มือถืออย่างโนเกียและเจ้าพ่อโลกซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์อย่างไมโครซอฟท์จะประกาศความร่วมมืออะไรและอย่างไร แทนที่จะมีข้อกังขาว่าความร่วมมือนี้อาจไม่เหมาะสม เนื่องจากทั้งสองกำลังถูกเขย่าขาเก้าอี้อย่างรุนแรงจากบริษัทเลือดใหม่ในตลาด จนทำให้อิทธิพลที่ทั้ง 2 เคยมีอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้คือนักลงทุนต่างเห็นด้วย และเร่งให้สองขั้วอำนาจผนึกกำลังสู้ศึกรอบด้านเสียที
ล่าสุด มีรายงานว่าโนเกียเตรียมปรับโครงสร้างผู้บริหารระดับสูงครั้งใหญ่ เพื่อยกเครื่องทีมบริหารให้มีความเชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์มากขึ้น
ข้อมูลที่ถูกเปิดเผยในขณะนี้ มีเพียงการคาดการณ์ว่าทั้งสองบริษัทกำลังเตรียมจะแถลงข่าวร่วมกันเปิดตัวผลิตภัณฑ์บางอย่างต่อสื่อมวลชนและนักลงทุนในอังกฤษ วันศุกร์ที่ 11 ก.พ.นี้ตามเวลาสหราชอาณาจักร หลายฝ่ายคาดว่าหนึ่งในผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะถูกเปิดตัวคือสมาร์ทโฟนแบรนด์โนเกียที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows Phone 7 เป็นระบบปฏิบัติการหลัก เพิ่มเติมจากสมาร์ทโฟนแบรนด์โนเกียที่ใช้ระบบปฏิบัติการ MeeGo (ในกลุ่ม NSeries) และ Symbian (ในกลุ่ม ESeries, XSeries และ CSeries)
นักลงทุนเชื่อมาถูกทาง
รายงานระบุว่านักลงทุนตอบรับแผนความร่วมมือนี้ด้วยการออกแถลงการณ์กระตุ้นให้โนเกียและไมโครซอฟท์ ร่วมมือกันต่อสู้กับ iPhone และ Android สองแพลตฟอร์มโทรศัพท์มือถือที่มาแรงสุดขีดในขณะนี้โดยเร็ว โดยไม่เพียงนักลงทุน นักวิเคราะห์จากสถาบันการเงินในลอนดอนอย่าง Berenberg Bank นาม Adnaan Ahmad ยังประกาศจดหมายเปิดผนึกเพื่อกระตุ้นให้โนเกีย"ละทิ้ง"ระบบปฏิบัติการลินุกซ์ซึ่งโนเกียพัฒนาเองในนาม MeeGo ด้วย
แม้โนเกียจะยืนยันมาตลอดว่า MeeGo คืออนาคตของสมาร์ทโฟนแบรนด์โนเกียที่จะเป็นไม้เด็ดโดนใจผู้บริโภค แต่ความเห็นของ Ahmad เป็นอีกสัญญาณความไม่เชื่อมั่นของนักสังเกตการณ์ต่อการวิจัยและพัฒนาระบบปฏิบัติการของโนเกีย โดยแสดงความมั่นใจว่า Windows Phone 7 คือตัวเลือกหลักที่เหมาะสมแล้วของโนเกียในขณะนี้
Ahmad วิเคราะห์ว่าหากโนเกียละทิ้ง MeeGo แล้วไปจับมือกับระบบปฏิบัติการ Android ซึ่งพัฒนาบนฐานคือลินุกซ์เหมือนกัน โนเกียมีความเสี่ยงสูงที่จะแพ้ยักษ์กิมจิอย่างซัมซุง แต่ด้วย Windows Phone 7 โนเกียและไมโครซอฟท์จะสามารถร่วมแรงเพื่อเป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งได้ไม่ยาก
"การหันไปหา Android อาจเป็นความคิดที่ดีในอีก 1-2 ปีข้างหน้า แต่ไม่ใช่ตอนนี้ เพราะโนเกียจะไม่สามารถไล่ตามซัมซุงได้ เพราะซัมซุงนั้นมีการผลิตสินค้า Android มากทั้งในกลุ่มทีวี พีซี โทรศัพท์ และแท็บเล็ต"
หลังจากครองอาณาจักรโทรศัพท์มือถือมายาวนานตั้งแต่ยุคปี 90 จนถึงช่วงต้นยุคปี 2000 โนเกียก็สูญเสียส่วนแบ่งและเสียงชื่นชมด้านนวัตกรรมให้กับไอโฟนและแอนดรอยด์มาตลอด ส่วนแบ่งการตลาดของโนเกียเสียหายไปเรื่อยแม้ว่าจะมีการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่อย่างจริงจังบนงบประมาณ 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ซึ่งสถาบันวิจัย Bernstein Research ยกให้เป็นงบประมาณที่สูงกว่ามาตรฐานถึง 3 เท่าตัว
ยังไม่แน่นอน
แม้ความร่วมมือนี้จะได้รับเสียงตอบรับในแง่บวก เพราะ Windows Phone 7 นั้นได้รับคำชมไม่น้อยจากการรีวิวช่วงเปิดตัวเดือนต.ค.ที่ผ่านมา แต่ด้วยความร้อนแรงของแอปเปิลและกูเกิลที่เน้นลงแรงพัฒนาระบบปฏิบัติการของตัวเองอย่างดุเดือด ต่อเนื่อง และฉับไว ทำให้นักสังเกตการณ์บางส่วนมองว่าผลสำเร็จจากความร่วมมือนี้ยังมีความไม่แน่นอนอยู่
หลายฝ่ายมองว่าความร่วมมือระหว่างโนเกียและไมโครซอฟท์ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะมีการวิเคราะห์ว่า Stephen Elop ซีอีโอโนเกียเคยบอกใบ้เรื่องความร่วมมือนี้ระหว่างการประกาศผลประกอบการครั้งล่าสุดที่ผ่านมา โดยคำพูดของซีอีโอโนเกียในวันนั้นถูกนำไปตีความว่าโนเกียจะหันมาใช้ระบบปฏิบัติการของบริษัทอื่น (ที่ไม่ใช่เฉพาะโนเกียพัฒนาขึ้น) เพื่อสร้างอุปกรณ์ยอดเยี่ยมเพื่อแข่งขันในตลาด
หลังการประกาศความร่วมมือวันที่ 11 ก.พ. คาดว่าผลิตภัณฑ์ของทั้งโนเกียและไมโครซอฟท์จะถูกส่งไปโชว์ตัวในงาน Mobile World Congress มหกรรมเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในบาร์เซโลนา ประเทศสเปนในสัปดาห์ถัดไป
ข่าวคราวล่าสุดเกี่ยวกับโนเกีย คือบทความของวารสารรายสัปดาห์สัญชาติเยอรมนีซึ่งตีพิมพ์เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสื่อเยอรมนีอ้างแหล่งข่าววงในว่าโนเกียกำลังผลัดใบผู้บริหารระดับสูง โดยคาดว่า Mary T. McDowell ผู้ดูแลฝ่ายการผลิตโทรศัพท์มือถือ, Niklas Savander มือการตลาดของโนเกีย, Kai Oistamo ประธานฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ และ Tero Ojanpera ผู้รับผิดชอบฝ่ายบริการและโซลูชัน จะโบกมือลาบริษัทเร็ววันนี้
สื่อเยอรมนีระบุว่า ผู้บริหารชุดใหม่ที่โนเกียต้องการคือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์สูง ซึ่งประชาสัมพันธ์โนเกียปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆ ตามธรรมเนียม
Company Related Link :
Nokia
ที่มา: manager.co.th
