การตอบสนองรูปแบบการสื่อสารยุคใหม่ได้อย่างลงตัวและโดนใจผู้บริโภคที่สุด ต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้มีความเหนือชั้นยิ่งกว่าคู่แข่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟีเจอร์ฟังก์ชั่นที่ทำให้ผลิตภัณฑ์นั้นเป็นเพียงแบรนด์เดียวที่สามารถทำได้ ย่อมกลายเป็นที่ต้องการของผู้ใช้งานที่มองหาพีดีเอโฟน
'ตลอด 10 กว่าปี เอชทีซีคือผู้นำพีดีเอโฟนหน้าจอสัมผัส เราคิดตลอดเวลาและเรียนรู้เสมอว่าจะพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมให้เอชทีซียังคงเป็นผู้นำในตลาดนี้'
เป็นคำกล่าวของ ณัฐวัชร์ วรนพกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เอชทีซี (ไทยแลนด์) จำกัด และว่า ผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ของเอชทีซีที่จะประเดิมศักราชใหม่ให้กับเอชทีซีในปี 2552 นี้ ได้ถูกพัฒนาให้มีความเหนือชั้นยิ่งขึ้น จากการรับฟังความคิดเห็นของผู้ใช้ในช่วงปี 2551 ที่ผ่านมา จนนำไปสู่การพัฒนาและเปิดตัว HTC Touch Diamond2 และ HTC Touch Pro2
'เราได้สร้างนิยามใหม่ให้กับทั้งสองผลิตภัณฑ์ว่าเป็นความเหนือกว่าที่จะตอบสนองรูปแบบการสื่อสารยุคใหม่ได้อย่างลงตัวที่สุด'
ฟีเจอร์ฟังก์ชั่นใหม่คือหัวใจสำคัญของทั้ง HTC Touch Diamond2 และ HTC Touch Pro2 ไม่ว่าจะเป็น HTC TouchFLO 3D รุ่นล่าสุด ที่ผสานการทำงานเข้ากับวินโดวส์โมบาย 6.1 มากขึ้น ทำให้การทำงานมีเสถียรภาพขึ้นในการใช้งานแอปพลิเคชั่นบนวินโดวส์ โมบาย และการเรียกใช้งานเมนูคำสั่ง โดย TouchFLO 3D นำฟีเจอร์สำคัญมาไว้อินเตอร์เฟซ เช่น การค้นหารายชื่อที่ติดต่อบ่อย การส่งข้อความ อีเมล รูป เพลง และการพยากรณ์อากาศ
HTC Touch Diamond2 และ HTC Touch Pro2 ได้นำเสนอเทคโนโลยี People Centric โดยรวบรวมทุกรูปแบบของการติดต่อสื่อสารของแต่ละบุคคลไว้ในหน้าเดียว ไม่ว่าจะเป็น การโทร. การส่งข้อความ หรืออีเมล สามารถเรียกดูจากสมุดรายชื่อ หรือแสดงรายละเอียดในระหว่างการสนทนาก็ได้
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Push Internet ช่วยให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตบนมือถือง่ายขึ้น โดยเอชทีซีพุช อินเทอร์เน็ต ช่วยให้การดาวน์โหลดและเรียกดูเว็บเพจบนมือถือทำได้ดีขึ้น ผู้ใช้สามารถเลือกเก็บเว็บไซต์ที่ชื่นชอบและเรียกดูเว็บได้ทันทีโดยไม่ต้องรอ
ณัฐวัชร์ กล่าวถึง HTC Touch Diamond2 ว่าเป็นการพัฒนาไปอีกขั้นจากความสำเร็จของ HTC Touch Diamond โดยได้รับการออกแบบให้พอดีมือ มีขนาดกะทัดรัด และสไตล์ที่โฉบเฉี่ยวมากกว่าเดิม มีหน้าจอขนาด 3.2 นิ้วที่ใหญ่ขึ้น ให้ความคมชัดสูงในระบบ WVGA ในความหนาเพียง 13.7 มิลลิเมตร พร้อมกล้องดิจิตอลออโต้โฟกัส ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล นอกจากนี้ยังมีแถบเมนูขยายหน้าจอแสดงผล (zoom bar) แบบใหม่ที่ทำให้การขยายหน้าจอแสดงผลทำได้รวดเร็วขึ้น เพื่อดูเว็บ อีเมล ข้อความ รูปภาพ หรือเอกสารต่างๆ
'HTC Touch Diamond2 ไม่ต้องใช้นิ้วกางออกหรือหุบลงเพื่อขยายรูปภาพเหมือนอย่างคู่แข่ง แต่เราได้พัฒนาให้ผู้ใช้งานง่ายยิ่งกว่ากับ zoom bar'
สำหรับ HTC Touch Pro2 ได้รับการออกแบบเพื่อใช้งานเชิงธุรกิจแบบมืออาชีพ ด้วยการออกแบบในสไตล์ที่แตกต่าง ด้วยการยกระดับขึ้นอีกด้วยเทคโนโลยีใหม่ทั้งสามอย่างข้างต้น หน้าจอไวด์สกรีนความละเอียดขนาด 3.6 นิ้ว แบบ VGA สำหรับมุมมองที่เพิ่มขยายได้ และคีย์บอร์ดแบบ QWERTY ขนาดใหญ่ที่ง่ายต่อการพิมพ์ Touch Pro2 ยังออกแบบให้ง่ายต่อการใช้งานแบบสัมผัสและการใช้งานอีเมล
จุดเด่นที่ทำให้ Touch Pro2 แตกต่างล้ำหน้ากว่าโทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟนอื่นๆ คือเทคโนโลยีใหม่ Straight Talk ที่ผสานการทำงานของอีเมล เสียง และลำโพง โดยผู้ใช้สามารถปรับการใช้งานจากอีเมลไปสู่การใช้งานการประชุมทางโทรศัพท์สายเดียว หรือประชุมทางโทรศัพท์หลายสาย และเปลี่ยนให้สถานที่ใดๆ กลายเป็นห้องประชุมได้
ฟีเจอร์ Straight Talk ได้นำกลไกนวัตกรรมและอะคูสติกดีไซน์ สร้างประสบการณ์การใช้งานลำโพงรูปแบบใหม่ ที่คล้ายกับที่มีในห้องบอร์ดรูมขององค์กรต่างๆ ให้คุณภาพเสียงระดับไฮไฟ ด้วยลำโพง Asymmetric Speakers ลำโพงที่ตอบรับความถี่ได้กว้างและครอบคลุมกว่าลำโพงปรกติของโทรศัพท์ทั่วไป สามารถใช้งานเสียงเรียกเข้าเป็นลำโพงแฮนด์ฟรี หรือเสียงจากการสนทนาการประชุม โดยสามารถตัดเสียงรบกวนได้อย่างหมดจดด้วยระบบเสียงอะคูสติก 2 ทิศทาง
ด้านแนวโน้มตลาดพีดีเอโฟนในปีนี้นั้น สมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มองว่าตลาดพีดีเอโฟนยังมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจโดยรวมจะแย่ ทำให้สินค้าไอทีและเทเลคอมหลายตัวมีการชะลอตัว จนในปีนี้อาจจะไม่โตและติดลบด้วยซ้ำ แต่สำหรับพีดีเอโฟนกลับสวนทางตลาดจากความนิยมใช้ของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้น
'พีดีเอโฟนยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ห่างไกลกับการอิ่มตัวของตลาด เนื่องจากยังถือเป็นช่วงเริ่มต้นของผลิตภัณฑ์ทางด้านนี้ที่ผู้บริโภคเริ่มสนใจจริงๆ จังๆ ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา'
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้พีดีเอโฟนยังเป็นที่ต้องการจากตลาด ก็คือผู้บริโภคเห็นถึงประโยชน์ของการใช้งานที่มากเมื่อเทียบกับอุปกรณ์สื่อสารอื่นๆ สามารถเชื่อมโยงทุกการติดต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับราคาที่ลดลงมาก จึงทำให้ตลาดนี้ยังมีโอกาสทางธุรกิจที่จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ที่มา: manager.co.th
