Author Topic: พานาโซนิคใช้กล้องตระกูล G หวังดันตลาดโต  (Read 975 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46027
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai



      พานาโซนิครุกตลาดกล้องดิจิตอลรับพุทธศักราชใหม่ เปิดตัวกล้องมิรเรอร์เลสตอบรับแนวคิด "New Generation System Camera" ด้วย GF2 กล้องที่เล็ก เบาที่สุดในโลก และ GH2 กล้องที่มีออโต้ โฟกัส สปีดเร็วที่สุดในโลก ตั้งเป้าปี 54 กล้องตระกูล G จะช่วยดันตลาดกล้อง DSLR ให้โตติดอันดับ 1 ใน 3
       
       ฮิโรทากะ มุราคามิ ซีอีโอกลุ่มบริษัทพานาโซนิค ประเทศไทยกล่าวว่าในปี 2554 พานาโซนิคตั้งเป้าว่าจะขึ้นเป็น 1 ใน 3 ของกลุ่มกล้อง DSLR ในประเทศไทย และมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 8% จากเดิมที่ปี 2553 เคยทำไว้ 5%
       
       ในต้นปีนี้เราได้มีการเปิดตัวกล้องดิจิตอลตระกูล G Series ซึ่งถือเป็นเรือธงของบริษัท ที่จะช่วยผลักดันตลาดรวมกล้องดิจิตอลให้มีการเติบโตสูงขึ้น โดยคาดการณ์ว่าในช่วงเดือนแรกของการเปิดวางจำหน่าย จะสามารถทำยอดขายได้มากกว่า 1,000 ตัว
       
       โดยกล้องที่นำมาเปิดตัวในวันนี้เป็นกล้องตระกูลมิรเรอร์เลส (Micro 4/3) ทั้งหมด 2 รุ่นคือ GF2 ที่ทำมาเพื่อต่อยอดความสำเร็จของ GF1 กล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ที่เล็กและเบาที่สุดในโลก (112.8x67.8x32.8มม. หนัก 265กรัม) ใช้เซ็นเซอร์ Live Mos ความละเอียด 12.1ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายภาพนิ่งระบบ 3มิติ, บันทึกวิดีโอความละเอียด Full HD 1920x1080, 50i และใช้ชัตเตอร์ระบบสัมผัส บนหน้าจอขนาด 3 นิ้ว อีกรุ่นหนึ่งคือ GH2 กล้อง Live Speed AF ที่เร็วสุดในโลกเพียง 0.1วินาที ใช้เซ็นเซอร์ความละเอียด 18.31 พิกเซล ค่าความไวแสงสูงสุด 12800 หน้าจอระบบสัมผัสที่ปรับหมุนได้ และการบันทึกวิดีโอความละเอียด Full HD 1920x1080, 50i
       
       กล้องพานาโซนิค GF2 วางจำหน่ายแล้วในราคา 25,990 บาท พร้อม 14mm./F2.5 ASPH และ GH2 ราคา 59,990 บาท (เฉพาะบอดี้)
       
       "ปัจจุบันตลาดกล้องตระกูลมิรเรอร์เลสในประเทศไทยมีการแข่งขันกันสูง บริษัทจึงต้องพยายามสื่อสารกับผู้บริโภคให้เห็นถึงข้อดีของกล้องตระกูลนี้ อีกทั้งยังได้มีการทำโฆษณา ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์มากขึ้น มีการนำผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้กล้องมาถ่ายทอดประสบการณ์เพื่อให้ผู้ใช้ได้เห็นภาพโดยตรง นอกจากนี้ยังจะเพิ่มในส่วนของกิจกรรมส่งเสริมการขาย และจำนวนสินค้าในร้านค้าตัวแทนจำหน่าย"
       
       ในส่วนของตลาดรวมกล้องดิจิตอลในเมืองไทย บริษัทตั้งเป้าจะโตขึ้นอีก 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยในปี 2553 ตลาดรวมกล้องดิจิตอลในเมืองไทยอยู่ที่ 1.2 ล้านตัว มูลค่ารวมกว่า 8,200 ล้านบาท คาดการณ์ว่าในปี 2554 จะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 1.35 ล้านตัว มูลค่ารวมกว่า 9,500ล้านบาท
       
       นอกจากนี้ในครึ่งปีแรกของปี 54 บริษัทยังมีแผนเปิดตัวกล้องดิจิตอลเอสแอลอาร์ 2 รุ่น, คอมแพกต์ 8-9 รุ่น และกล้องวิดีโอ 7 รุ่น เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ในทุกๆ เซกเมนต์ รวมถึงเลนส์ถ่ายภาพอีก 8 รุ่น เพื่อรองรับการใช้งานกล้องตระกูล G Series
       
       Company Related Link :
       Panasonic

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)