ซัมซุงอิเล็กทรอนิกส์ ประกาศว่าบริษัทมีกำไรสุทธิช่วงไตรมาส 4 ปี 2010 สูงถึง 3.42 ล้านล้านวอน หรือราว 94,260 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 13% อานิสงส์จากยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนและชิปเซมิคอนดักเตอร์ โดยระบุว่าได้จัดส่งโทรศัพท์มือถือมากกว่า 80.7 ล้านเครื่องในเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา
กำไร 3.42 ล้านล้านวอนของซัมซุงเป็นกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นจาก 3.04 ล้านล้านวอนในปี 2009 ถือเป็นตัวเลขที่สูงกว่าคำคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่มองไว้ 3.1 ล้านล้านวอนเท่านั้น เฉพาะในส่วนของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซัมซุงระบุว่าสามารถทำกำไรเพิ่มขึ้นราว 38% ผลจากยอดขายร้อนแรงของสมาร์ทโฟนตระกูล "กาแล็กซี" ซึ่งซัมซุงปั้นแต่งมาเพื่อชนช้างอย่างไอโฟนของแอปเปิล
ซัมซุงเป็นบริษัทผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองซูวอน ประเทศเกาหลีใต้ ถือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่เนื่องจากซัมซุงมีสัดส่วนการส่งออกสินค้าคิดเป็นปริมาณราว 20% ของการส่งออกในเกาหลีใต้ โดยเบ็ดเสร็จทั้งปี 2010 ซัมซุงสามารถโกยกำไรสุทธิไปได้ 16.15 ล้านล้านวอน บนรายรับรวม 154.63 ล้านล้านวอน
ในแง่ของยอดขาย ตลอด 3 เดือนปลายปี 2010 ซัมซุงระบุว่ามียอดขายเพิ่มขึ้น 6.7% เป็นมูลค่า 41.87 ล้านล้านวอน แต่บริษัทกลับมีกำไรจากการดำเนินงานลดลง 12.4% เหลือ 3.01 ล้านล้านวอน ทั้งหมดนี้เป็นผลจากภาวะสินค้าราคาตกต่ำ ทำให้บริษัทได้กำไรไม่สูงขึ้นแม้จะจำหน่ายได้มากกว่าเดิม
ซัมซุงระบุว่ากาแล็กซีเอส (Galaxy S) สมาร์ทโฟนที่ซัมซุงเพิ่งเปิดตัวในเดือนมิถุนายนนั้นสามารถจำหน่ายได้เกิน 10 ล้านเครื่องแล้วในตลาดโลก โดยในภาพรวม ซัมซุงระบุว่าได้จัดส่งโทรศัพท์มือถือมากกว่า 80.7 ล้านเครื่องในเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 17%
สำหรับอนาคต ซัมซุงยอมรับว่าสินค้าสำหรับผู้บริโภค ทั้งกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า ไอที และพกพา ล้วนมีแนวโน้มราคาลดลงต่อเนื่อง ซัมซุงจึงเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาชิปให้มีราคาต้นทุนต่ำ ลดค่าใช้จ่ายได้การตลาด และเพิ่มการวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตไฮเอนด์มากขึ้นกว่าเดิม โดยตัวเลขการลงทุนรวมในปี 2011 คาดว่าจะสูงถึง 23 ล้านล้านวอน มากกว่าปี 2010 ที่ผ่านมาซึ่งซัมซุงลงทุนรวมทั้งสิ้น 21.6 ล้านล้านวอน
Company Related Link :
Samsung
ที่มา: manager.co.th