“โทนี่” หวง “เพชร” สั่งห้ามไม่ให้ถ่ายชุดว่ายน้ำ รับ หวงไม่อยากให้โชว์วาบหวิว บอก ที่ผ่านมาแฟนสาวเคยถ่ายหวือไม่ถือ แต่ถ้าคบกันแล้วห้ามเด็ดขาด แย้ม อยากแต่งงานตั้งแต่อายุ 18 แต่ยังไม่ได้คุยเรื่องนี้กับเพชร เผย ปีนี้สุดเฮงมีละคร 2 เรื่อง แถมหนังอีก 1 เรื่อง ถึงกับต้องทิ้งร้านตัวผมของตัวเอง เหตุเพราะไม่มีเวลาเข้าไปดูแล
ดูท่าทางไม่น่าจะขี้หึงขี้หวงสักเท่าไหร่ สำหรับหนุ่มติสท์ “โทนี่ รากแก่น” แต่สังเกตได้จากที่แฟนสาวอย่าง “เพชร รัตนารัตน์ เอื้อทวีกุล” ที่ก่อนหน้านี้ก็เคยถ่ายชุดว่ายน้ำมา และเวลาแต่งตัวออกงานก็มีเซ็กซี่บ้างเล็กๆ แต่พอมาคบกับหนุ่ม “โทนี่” แล้ว กลับดูเรียบร้อยขึ้นผิดหูผิดตา ซึ่งหนุ่มโทนี่ก็ยอมรับเอง ในงานเปิดตัวนาฬิกา ZERONE ที่ชั้น 1 ลาน Fashion Gallery สยามพารากอน ว่าเป็นคนที่ขี้หึงใช้ได้ เพราะล่าสุดเพิ่งปฏิเสธงานถ่ายแฟชั่นชุดว่ายน้ำคู่กันไป ยอมรับอย่างเต็มปากเต็มคำเลยว่าหวง
"ความรักตอนนี้ก็ดีครับ แต่ที่ยังต้องปรับตัวกันผมว่าก็ยังมีอีกเยอะ เพราะคบกันยังไม่ถึงปีเลย ในส่วนที่ต้องปรับก็เห็นกันเรื่อยๆ ครับ แต่เราดีอย่างตรงที่เราพูดกันตรงๆ ดีที่ว่าทั้งคู่ต่างรับฟังกัน เพชรเขาก็รู้ในความเป็นผมนะ เพราะผมเป็นคนที่ทำอะไรโดยความรู้สึก อย่างเรื่องงานก็เหมือนกัน เรารู้สึกว่าเราอยากทำ รู้สึกว่ามันน่าสนุกก็ทำ"
"แต่ตอนเด็กๆ บางทีที่บ้านก็ไม่ค่อยเก็ตผมนะ มีตอนที่ผมบอกพี่สาวว่าผมจะไปนั่งวาดรูปขายบนถนน เขาบอกจะบ้าเหรอ เอาเวลาไปนั่งอ่านหนังสือดีกว่า หรืออย่างตอนถ่ายหนังเรื่อง บิ๊กบอย ผมก็รอจนถ่ายก่อนถึงจะบอกที่บ้านว่าผมกำลังถ่ายหนังนะ เขาก็งงว่าทำไมไม่บอกกันเลย จะเป็นอย่างนี้ตลอด คือมีความรู้สึกว่าบางทีเขาไม่เข้าใจเรา เราต้องทำให้เขาเห็นก่อนว่าเราทำออกมาแล้วมันเป็นยังไง แต่เพชรเขาก็เข้าใจ โชคดีตรงนี้"
"งานคู่ก็มีติดต่อเข้ามา แต่บางอย่างที่ต้องถ่ายชุดว่ายน้ำ คือผมโอเคนะ แต่ผมไม่อยากให้เพชรถ่าย(หัวเราะ) ก็หวงนิดนึง ที่เขาเคยถ่ายก็ออกมาดูดีแหละ แต่ไม่รู้ซิรู้สึกว่าในเมื่อวันนี้เขาคบกับเราก็ไม่อยากให้วาบหวิวมาก แต่เรื่องแต่งตัวผมไม่ได้ว่าเขานะ ผมปล่อย เพราะเรื่องออกสื่อเขาระวังตัวอยู่แล้ว"
"แต่ถามว่าห้ามถ่ายเลยไหมจริงๆ ก็ถ่ายได้ แต่ถ้ามันออกแนวแฟชั่นหรือแนวสปอร์ตก็โอเค แต่ถ้าแนวเซ็กซี่ผมก็ว่าไม่เวิร์ค ก็ขอไว้ก่อนแล้วกัน แต่เรื่องพวกนี้เพชรเขารู้อยู่แล้วครับ เขาเป็นผู้ใหญ่แล้วเขาตัดสินใจเองได้ บางทีถึงวันนึงถ้าเขาคิดว่าเขาอยากจะถ่ายขึ้นมา เราก็โอเค เพราะโดยรวมแล้วผมว่าเขาก็ไม่ได้ดูแย่ถ้าเกิดจะถ่าย"
“เรื่องแต่งงานมีครอบครัวผมคิดตั้งแต่ 18 แล้วครับ ใช่คนนี้ไหม ผมว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของอนาคตมากกว่าครับ ไม่ถึงกับเคยคุยถึงเรื่องนั้นนะ เรามีความสุขวันต่อวันมากกว่าครับ อย่าไปต้องมาผูกมัดกันด้วยเรื่องอะไรสักอย่าง ผมว่ามันจะเครียดไปเปล่าๆ กับเพชรพาไปเจอคุณแม่แล้ว ก็เจอคุณแม่ตั้งนานแล้ว ก็ดีครับ น่ารักดี”
ปัดข่าวที่ว่าเซ็นสัญญาเป็นศิลปินเบอร์แรกของค่ายพีดี ครีเอชั่น บอก มีการคุยกัน แต่เรื่องร้องเพลงตนไม่ถนัด พร้อมบอก ปีนี้มีละคร 2 เรื่องและหนังอีกหนึ่งเรื่อง
“เรื่องเพลงมีการคุยกันจริงครับ แต่ว่ามันตั้งนานแล้ว อีกอย่างเราแค่คุยกันผิวเผิน ตอนนี้ก็เลยไม่ได้ทำแล้วครับ แต่ที่เข้าไปคุยเพราะผมรู้จักกับพี่คนนึงที่นั่น แต่ว่าตอนหลังเวลาเราไม่พอ เพราะว่าไปรับละคร 2 เรื่อง เลยไม่ได้ทำครับ คือเรื่องร้องเพลงผมว่าผมร้องเล่นๆ ได้นะ แต่ว่าขึ้นไปเอ็นเตอร์เทนคนบนเวทีคงไม่ได้ จริงๆ ผมก็ไม่ค่อยสนใจการเป็นนักร้องนะ ผมชอบงานแสดงมากกว่า”
“แต่ก็ไม่ใช่ว่ามั่นใจในการแสดงหรอกนะ(หัวเราะ) อย่างอาทิตย์ที่แล้วเพิ่งไปถ่ายละครเรื่อง สืบสวนป่วนกำลังสาม คิวแรกกลับบ้านก็สลบเลย ต้องใช้พลังจิตเยอะมาก เพราะว่ามันต้องมีสมาธิสูงมาก ซึ่งต่างกับหนัง เพราะหนังมีกล้องตัวเดียว แต่นี่มีหลายตัว การพูดละครก็ต้องพูดทีเดียวยาวๆ บางทีเรื่องมุมกล้อง เราไปยืนบังมุมของเขาบ้างก็มี"
"แต่นี่ก็เป็นละครเรื่องแรกครับ ยากนะเพราะว่าความเป็นละครมันต้องมีความแอคทีฟกว่านี้ แต่ด้วยตัวเราเป็นคนเนือยๆ พูดจาก็เนือยๆ เวลาแสดงละครเราต้องแอคทีฟขึ้นมาอีก เราไม่รู้ตัว อย่างในหนังแค่เรากระพริบตานิดเดียวเขาก็รู้แล้วว่าเรารู้สึกอะไร แต่ว่าละครมันต้องแสดงอาการออกมามันยากครับ"
“ส่วนเรื่องที่สองกำลังจะเปิดกล้องเร็วๆ นี้ครับ ของแกรมมี่ แต่ว่าเรื่องนี้คาแรคเตอร์ของเราจะดูเด็กลงมาอีก ต่างจากเรื่องสืบสวนฯ คนละแบบกันเลย แต่ว่าถ่ายพร้อมกันทั้งสองเรื่อง แต่ทั้งสองเรื่องนี้เราคุยกันตั้งแต่ปีที่แล้ว และจังหวะเข้ามา ก็ถ่ายพร้อมกัน จริงๆ ก็ไม่ได้กะไว้ว่าปีนี้จะรับละครเต็ม เขาคุยกันตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ว่าถ่ายปีนี้ ส่วนหนังเท่าที่ได้คุยกับทางค่าย เขาบอกว่าหลังจากที่ถ่ายละครเสร็จจะมีหนังที่ต้องไปถ่าย ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าต้องถ่ายในหรือนอกประเทศ อาจจะมีทั้งสองอย่าง แต่หนังจะเริ่มถ่ายหลังละครถ่ายเสร็จ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าละครจะถ่ายเสร็จเมื่อไร”
“งานปีนี้ก็ถือว่าเยอะครับ จากครั้งแรกที่เข้ามาก็คิดว่าจะแค่มานิดเดียว แต่ทำจริงๆ มันไม่ได้ เราต้องซื่อสัตย์กับงาน จะมาเล่นๆ ฉาบฉวยไม่ได้จริงๆ พอเข้ากองเราก็จะทำเล่นๆ ก็ไม่ได้ แต่งานตัดผมที่ร้านก็ยังตัดอยู่ครับ ไม่ได้หยุดขนาดนั้น แต่อาจจะน้อยลงนิดนึง ลูกค้าก็ยังมีถามถึงครับ ผมก็ขอบคุณลูกค้าที่ยังรอ บางคนตัดไปล่าสุดกลับมาอีกทีผมยาวแล้ว แต่จริงๆ ผมไม่ซีเรียสนะ เพราะผมก็แนะนำให้ไปตัดร้านเพื่อนก็มี เพราะผมเข้าใจว่าบางทีเขามานั่งรอเราแล้วผมก็เข้าร้านได้น้อย ให้เขามารอเรามันก็ไม่ดี คือก็ยังไปตัดได้นะครับ แต่ตัดกับคนอื่นได้ เป็นสไตล์เดียวกัน”
ที่มา: manager.co.th
