แบรนด์ไอทีกระหน่ำตลาดแท็บเล็ตครึ่งปีแรก หลังเห็นกระแสการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เชื่อระยะยาวยังต้องรอดูพฤติกรรมผู้บริโภค ส่วนระบบปฏิบัติการที่ใช้มีทั้งวินโดวส์ 7 และแอนดรอยด์ ขนาด 7-10 นิ้วเป็นหลัก
นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ความต้องการของตลาดแท็บเล็ตในประเทศไทยตอนนี้ เกิดขึ้นจากกระแสการทำตลาดของแบรนด์ใหญ่เพียงเจ้าเดียวเท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ แต่ยังไม่กระจายออกไปในวงกว้างทำให้ต้องมีการให้ความรู้กับผู้บริโภคอีกระยะเวลาหนึ่ง
"เอเซอร์พร้อมนำแท็บเล็ตเข้ามาในตลาดภายในไตรมาสแรกนี้แน่นอน และเชื่อว่าตลาดแท็บเล็ตจะได้รับความนิยมเป็นวงกว้างในช่วงครึ่งปีหลัง จากการรับรู้ของผู้บริโภคที่ปรับการใช้งานแท็บเล็ตให้เข้ากับพฤติกรรมการใช้งาน แต่เชื่อว่าจะไม่ไปแย่งส่วนแบ่งการตลาดของโน้ตบุ๊กและเน็ตบุ๊กเนื่องจากรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกัน"
โดยข้อมูลล่าสุดที่เอเซอร์เปิดเผยออกมาคือ พร้อมวางจำหน่ายแท็บเล็ต "ICONIA Tab" ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 ซึ่งตัวแท็บสามารถต่อกับฐานคีย์บอร์ดเพื่อใช้งานแป้นคีย์บอร์ดได้เหมือนโน้ตบุ๊กทั่วไป ขณะที่หน่วยประมวลผลที่ใช้จะเป็นเอเอ็มดี
ส่วน ICONIA Tab ซีรีส์ที่ใช้งานระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์นั้น ทางเอเซอร์ยังรอให้การพัฒนาบนเวอร์ชัน 3.0 (Honey Comb) สำเร็จก่อน ถึงจะเริ่มวางจำหน่ายแท็บเล็ตที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ โดยขนาดของแท็บเล็ตจะมีทั้ง 7 นิ้ว และ 10 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อยูเอสบี และ HDMI ได้
ทั้งนี้เอเซอร์มองว่า การเติบโตของตลาดแท็บเล็ตจะมีสูงในช่วงแรกเท่านั้น ซึ่งผู้ซื้อใช้ส่วนใหญ่มีความรู้และเลือกหาอุปกรณ์ที่จะมาตอบโจทย์การใช้งาน แต่ในระยะยาวแล้วอุปกรณ์ไอทีอย่างเน็ตบุ๊กหรือโน้ตบุ๊ก ยังมีปัจจัยการเติบโตอยู่อย่างต่อเนื่องแน่นอน
ทางฝั่งเลอโนโว นายขจรเกียรติ อร่ามรัศมีกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายผลิตภัณฑ์สำหรับใช้ในบ้าน ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าในปีนี้เลอโนโวมีแผนจะเข้าแท็บเล็ตด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่นคือ LePad ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 2.2 และพีซียู Snapdragon รุ่นล่าสุด และ IdeaPad U1 โน๊ตบุ๊กไฮบริดที่ใช้ซีพียู Core i5-540UM ความเร็ว 1.2 GHz
สำหรับในประเทศไทยจะมีการนำ LePad เข้ามาวางจำหน่ายในไตรมาสที่ 2 ซึ่งคาดว่าน่าจะประมาณเดือนมิถุนายน
"ในปีนี้ภาพรวมของตลาดแท็บเล็ตในประเทศไทยจะโตขึ้น โดยลูกค้าหลักคน่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าองค์กรที่จะนำแท็บเล็ตไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับหน่วยงานของตน สำหรับ LePad นั้นปัจจุบันมีวางจำหน่ายที่ประเทศจีนเพียงแห่งเดียว ตอนนี้เรารอเรื่องของแอปพลิเคชันที่รองรับ รวมถึงความพร้อมของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ถ้าทุกอย่างสมบูรณ์ คนไทยคงได้ใช้งานกัน"
ส่วนเจ้าที่เริ่มทำตลาดแท็บเล็ตไปก่อนหน้าอย่างซัมซุง นายวิชัย พรพระตั้ง ผู้อำนวยการธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ เห็นว่า ตลาดแท็บเล็ตยังสามารถขยายตัวได้อีก เพราะช่วงที่ผ่านมามีความต้องการของแท็บเล็ตในตลาดค่อนข้างสูง ทำให้ไม่สามารถผลิตสินค้าออกมาจำหน่ายตามความต้องการได้
"กระแสความต้องการของกาแล็กซีแท็บในตลาด ถือว่าได้รับความนิยมค่อนข้างสูง จากพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ช่วยให้สามารถลดระยะเวลาการทำธุรกรรมจากปกติที่ต้องไปธนาคาร มาเป็นผ่านแท็บเล็ต อ่านหนังสือพิมพ์ทุกฉบับระหว่างเวลาเดินทางเป็นต้น"
แน่นอนว่าทางซัมซุงเองก็มีแผนที่จะนำแท็บเล็ตรุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติมเช่นกัน เพียงแต่ยังอยู่ในระหว่างการคัดสรรคผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวในต่างประเทศ ที่จะนำเข้ามาทำตลาดให้เหมาะกับพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภค และอุตสาหกรรมในประเทศไทย
โดยภายในงานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค CES 2011 ประเทศสหรัฐอเมริกา ซัมซุงได้มีการเปิดเผย "Sliding PC 7" ซึ่งเป็นแท็บเล็ตหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว ที่มาพร้อมคีย์บอร์ดแบบสไลด์ข้าง ทำงานบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 7 บนหน่วยประมวลผลอินเทลในโค้ดเนม Oak Trail คาดว่าจะเริ่มเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยกลางปีนี้
อีกหนึ่งแบรนด์ที่เริ่มวางจำหน่ายแท็บเล็ต ผ่านการตลาดบนโซเชียลเน็ตเวิร์กอย่าง เดลล์ สตรีค 5 นิ้ว ที่ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง จากยอดจำหน่ายสินค้าที่สั่งเข้ามาล็อตแรก และก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ประสบปัญหาการผลิตไม่ทันจำหน่าย
นายกฤตวิทย์ กฤตยเรืองโรจน์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กลุ่มธุรกิจคอนซูมเมอร์ บริษัท เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงความนิยมของเดลล์ สตรีคในประเทศไทยว่า จากข้อจำกัดในเรื่องจำนวนการผลิตทำให้จนบัดนี้ยังไม่มีการเปิดตัว เดลล์ สตรีค อย่างเป็นทางการในประเทศไทย รวมไปถึงกิจกรรมการตลาดต่างๆที่ออกไปยังอยู่ในวงจำกัด
"เดลล์ วางแผนไว้ว่าจะมีการเปิดตัว เดลล์ สตรีคอย่างเป็นทางการในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่งานไทยแลนด์ โมบายล์ เอ็กซ์โป ซึ่งยังเป็นรุ่น 5 นิ้วอยู่ ขณะที่สตรีครุ่น 7 นิ้ว ก็น่าจะเริ่มเข้ามาทำตลาดภายในไตรมาสแรกด้วยเช่นกัน แน่นอนว่ายังรวมถึงสมาร์ทโฟนในระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์อีกจำนวนหนึ่งที่ยังรอการอนุมัติจากทาง กสทช."
โดยเดลล์เผยเพิ่มเติมว่าในปีนี้ จะเน้นการทำตลาดแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนแบบเต็มตัว ขณะที่สินค้าบางรุ่นที่เปิดตัวในต่างประเทศ อาจจะไม่ได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย โดยมีข่าวลือมาว่า Inspiron Duo ที่เป็นทั้งเน็ตบุ๊กและถอดออกมาเป็นแท็บเล็ต อาจไม่ได้เข้ามาวางจำหน่ายในแถบประเทศเอเชีย
ส่วนทางโตชิบา ที่เคยพลาดนำแท็บเล็ต AS100 เข้ามาวางจำหน่ายเมื่อปลายปี 2010 ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้รับความนิยมมากที่ควรก็มีเผยที่จะนำแท็บเล็ตรุ่นใหม่เข้ามาวางจำหน่ายด้วยเช่นเดียวกัน
นายถกล นิยมไทย ผู้จัดการประจำประเทศไทย ฝ่ายธุรกิจเทคโนโลยี บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่าในปีนี้โตชิบามีแผนจะเปิดตัวแท็บเล็ตด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น 3 ระบบปฏิบัติการ คือแอนดรอยด์ วินโดวส์ และโครม มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 9-10 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐาน อีกทั้งยังสามารถแสดงผลภาพ 3 มิติ โดยที่ผู้ใช้งานไม่ต้องใส่แว่นตาขณะรับชม มีราคาเริ่มต้นที่ 15,900 บาท โดยจะเริ่มเข้ามาในประเทศไทยช่วงเดือนมีนาคม 2554
"ปัจจุบันรูปแบบการใช้งานคอมพิวเตอร์ในเมืองไทยเปลี่ยนไป คนจะซื้อโน๊ตบุ้กเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องแรก และมองหาแท็บเล็ตเป็นเครื่องที่ 2 สำหรับการใช้งานโซเชียล เน็ตเวิร์ก เนื่องจากมีขนาดเล็ก พกพางาาย และเปิดอ่านข้อความได้ง่าย"
ถกลคาดการณ์ว่า ในปีนี้ปริมาณแท็บเล็ตในเมืองไทยจะอยู่ที่ 200,000-300,000 เครื่อง สำหรับโตชิบาเองจะมีสัดส่วนการนำเข้าแท็บเล็ตอยู่ที่ 2% เมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊ก และเน็ตบุ๊ก
อีกหนึ่งแบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่างเอซุส ก็มีการเปิดเผยว่าพร้อมนำแท็บเล็ตเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยเช่นกัน โดยรุ่นแรกที่จะมีการเปิดตัวคือ "EeePad Transformer" ที่เป็นทั้งแท็บเล็ตและสามารถต่อกับฐานคีย์บอร์ดได้ ขนาดหน้าจอ 10 นิ้ว ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 3.0 คาดว่าจะเริ่มเข้ามาทำตลาดในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้
โดยยอมรับว่าตลาดของแท็บเล็ตยังต้องรอดูผลตอบรับของตลาดหลังจากสินค้าเริ่มเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศเป็นในช่วงไตรมา 2 - 3 ส่วนตลาดของเน็ตบุ๊กน่าจะเป็นตลาดที่ได้รับผลกระทบจากแท็บเล็ตโดยตรง เพียงแต่จะไม่ถึงกับชัดเจน แต่ยังมีช่องว่างให้สามารถเติบโตได้อย่างจำกัด
Company Related Links :
Acer
Lenovo
Samsung
Dell
Toshiba
Asus
ที่มา: manager.co.th