แอปิคอต ไอออนนำเทคโนโลยี Web Analytics ช่วยวิเคราะห์กลยุทธ์ทางการตลาดเชิงลึกเสริมศักยภาพธุรกิจ เผยข้อดีต้นทุนต่ำ ดำเนินธุรกิจลู่ตามภาวะวิกฤตเศรษฐกิจที่ตกสะเก็ด ย้ำไม่ต้องควักเงินลงทุนระบบ CRM หลายสิบล้าน ก็สามารถนำเสนอบริการที่ตรงตามความต้องการลูกค้าอย่างแท้จริง ชี้หมดยุคออกโปรดักต์เหวี่ยงแหที่ไม่โดนใจลูกค้า
นายนิรันดร์ ประวิทย์ธนา Senior Web Analyst และผู้บริหารระดับสูงในกลุ่ม บริษัท แอปิคอต ไอออน (Apricot Ion) เปิดเผยว่า บริษัทเห็นแนวโน้มการใช้งาน Web Analytics เพื่อช่วยวางกลยุทธ์การตลาดในเชิงลึก ซึ่งในประเทศไทย Web Analytics ถือเป็นเรื่องที่ยังใหม่อยู่และเป็นที่รู้จักในวงจำกัด ในขณะที่สถิติกูเกิลระบุว่าในทวีปยุโรปและอเมริกาให้การยอมรับอย่างแพร่หลาย โดย Web Analytics ก็คือการวิเคราะห์ข้อมูลและพฤติกรรมลูกค้าที่มีการโต้ตอบกับเว็บไซต์ขององค์กรธุรกิจนั้นๆ เพื่อกำหนดกลยุทธ์การตลาดและการออกโปรดักต์ที่ตรงกับความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า
‘ปัจจุบันแนวโน้มการผสมผสานองค์ความรู้หลากหลายแขนงเข้าด้วยกันมีเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะการผสมผสานกันระหว่างไอที และการตลาด Web Analytics เป็นตัวอย่างหนึ่งที่น่าสำคัญ แต่ในไทยยังไม่เป็นที่รูจัก ปัจจุบันประเทศไทยถนัดแต่ใช้สื่อแต่ไม่ได้มีการติดตามและประเมินผลตอบรับจากการใช้สื่อ’
สำหรับขนาดตลาด Web Analytics ของประเทศไทยปัจจุบันมีจำนวนมหาศาล เนื่องจากในทุกภาคธุรกิจต่างมีความต้องการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวเข้ามาช่วยวิเคราะห์และวางแผนการตลาดในเชิงลึกเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ประกอบกับการดำเนินการมีต้นทุนต่ำและให้ข้อมูลเชิงลึกตรงตามความต้องการมากกว่าการลงทุนระบบ CRM ที่ต้องใช้เงินลงทุนเป็นหลัก 10 ล้าน หรือ 100 ล้านบาท
ทั้งนี้ จากการเสนอโปรแกรม Web Analytics ให้แก่ลูกค้าเดิมของบริษัทพบว่าลูกค้าทั้งหมดให้ความสนใจที่จะนำไปใช้งาน โดยในเบื้องต้นบริษัท จะแบ่งการให้บริการ Web Analytics แก่ลูกค้าเป็น 2 ส่วน คือ1.เอาต์ซอร์สการทำงานทั้งหมดของลูกค้า ตั้งแต่วิเคราะห์ข้อมูล พฤติกรรมกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจนถึงการออกโปรดักส์ใหม่ที่ตรงกับความต้องการลูกค้าหรือ 2.เป็นที่ปรึกษาและฝึกสอนให้แก่ลูกค้าเพื่อให้สามารถใช้งานได้เอง
นายนิรันดร์กล่าวว่า ในปีแรกบริษัทจะเน้นการให้ความรู้ด้านประโยชน์และคุณสมบัติการใช้งานของ Web Analytics แก่ตลาดก่อน เนื่องจากขณะนี้บริษัทยังไม่ได้มีการจัดทำแผนธุรกิจที่ชัดเจน โดยการให้ความรู้แก่ตลาดก็จะเริ่มทำบนฐานลูกค้าเดิมที่บริษัทเข้าไปทำโซลูชันด้านไอทีให้ และหลังจากนั้นเชื่อว่า หากตลาดรับรู้ถึงข้อดีในการใช้งานโดยเฉพาะในเรื่องต้นทุนที่ต่ำก็จะเกิดการกระจายข้อมูลออกไปแบบปากต่อปาก
สำหรับการทำงานของ Web Analytics นั้นจะเป็นการดึงข้อมูลพฤติกรรม อายุ ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายลูกค้าในระบบออกมาวิเคราะห์เพื่อหาความต้องการที่แท้จริงเพื่อนำไปสู่การออกโปรดักต์ที่เหมาะสมและลูกค้าต้องการและยังช่วยกลั่นกรองข้อมูลปนเปื้อนจากการรวบรวมข้อเสนอแนะเป็นกลุ่ม (โฟกัสกลุ่ม) เนื่องจากข้อมูลที่ลูกค้าแสดงความต้องการที่แท้จริงจะเป็นประโยชน์มากกว่าการแสดงความคิดเห็นจากการทำโฟกัสกลุ่ม
‘ปัจจุบันสื่อใหม่อย่างเว็บไซต์ และสื่อเก่าอย่าง หนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ และนิตยสาร ยังไม่มีการประเมินผลการทำการตลาดผ่านสื่อเหล่านี้ และไม่ได้มีการประเมินความสำเร็จในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง ซึ่ง Web Analyticsจะสามารถนำฐานข้อมูลที่สื่อเหล่านี้มาวิเคราะห์ ยกตัวอย่างเช่น เว็บไซต์หนึ่ง มีการเก็บข้อมูลอายุข้อมูลที่ผู้เยี่ยมชมสนใจและจำนวนครั้งที่มีผู้เข้าดู เราสามารถนำข้อมูลส่วนนั้นมาวิเคราะห์อย่างละเอียดได้ว่าการคลิกดูแต่ละครั้งแต่ละรายค้นหน้าข้อมูลประเภทใด แล้วเก็บเป็นสถิติ เพื่อหาโปรดักต์ที่ตอบสนองลูกค้าได้”นายนิรันดร์กล่าว
อย่างไรก็ตาม กลุ่มเป้าหมายที่ บริษัทจะเข้าไปให้ความรู้เรื่อง Web Analytics ได้แก่กลุ่มเป้าหมายที่มีลูกค้าใช้งานอินเทอร์เน็ตมีเว็บไซต์ของตนเอง เช่น ผู้ประกอบการโทรคมนาคม อสังหาริมทรัพย์ การท่องเที่ยวทัวร์ โรงแรม และอื่นๆ
นายนิรันดร์กล่าวว่า ในช่วงสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำเป็นโอกาสดีที่จะมีการนำเสนอ Web Analytics ให้แก่ตลาดเนื่องจากผู้ประกอบการทุกภาคส่วนต่างต้องการลดต้นทุนการทำตลาด ในขณะเดียวกันก็ต้องการเพิ่มยอดขายให้สูงขึ้น การลดต้นทุนทำให้ผู้ประกอบการไม่มีศักยภาพออกโปรดักต์ลงมาในตลาดคราวละมากๆเหมือนยุคเศรษฐกิจดีได้ ฉะนั้นการเน้นออกโปรโมชั่นน้อยหรือออกโปรดักต์น้อยแต่ตรงตามความต้องการลูกค้าจึงเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการซึ่ง Web Analytics สามารถตอบโจทย์ข้อนี้ได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในอนาคตการใช้งาน Web Analytics จะแพร่หลายในประเทศไทยและทวีปเอเชีย เนื่องจาก ปัจจุบันจำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมีจำนวนอุปกรณ์รองรับอินเทอร์เน็ตจำนวนมากในตลาด อาทิ โน้ตบุ๊ก และเน็ตบุ๊ก ราคาถูกลง ประกอบกับโทรศัพท์มือถือถูกออกแบบให้ใช้งานอินเทอร์เน็ตง่ายขึ้น และเครือข่ายอินเทอร์เน็ตตามสาย และไร้สายมีให้เข้าถึงมากขึ้น
ที่มา: manager.co.th
