รัฐบาลนอร์เวย์ทดลองวิธีการสอบแนวใหม่ ไม่ใช้กระดาษและปากกาหรือดินสอ 2B แต่หันมาใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กแทน ระบุว่าสามารถลดการทุจริตได้และช่วยให้นักเรียนได้ประโยชน์จากการใช้เครื่องมือที่คุ้นเคยในการสอบ ระบุหากทดสอบแล้วได้ผลดีก็อาจขยายวงไปใช้ทั่วประเทศ
เทคนิกทุจริตการสอบด้วยการจดโน้ตเก็บไว้ในกล่องดินสอ หรือการขอยืมยางลบจากเพื่อนนั้นกำลังจะไม่สามารถทำได้แล้ว เพราะล่าสุดรัฐบาลนอร์เวย์ทดลองให้นักเรียนมัธยมปลาย (อายุ 16-19 ปี) ในจังหวัด Nord-Trondelag จำนวน 6,000 คน พกพาคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเครื่องเดียวเข้าห้องสอบ ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กเพื่อการศึกษาที่รัฐบาลแจกให้เมื่ออายุครบ 16 ปี
เหตุที่รัฐบาลนอร์เวย์ต้องการให้นักเรียนสอบด้วยคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กนั้นเป็นเพราะนักเรียนจะใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กในการเรียนการสอนทุกวัน โดยเฉพาะการทำการบ้านบนซอฟต์แวร์พื้นฐาน เช่น ซอฟต์แวร์ประมวลผลคำ ซอฟต์แวร์คำนวณ และเครื่องคิดเลข รวมถึงการบ้านบนซอฟต์แวร์เฉพาะทาง เช่น Adobe Photoshop เชื่อว่าการสอบด้วยคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กของนักเรียนเอง จะสร้างความมั่นใจว่านักเรียนได้ใช้งานเครื่องและโปรแกรมที่คุ้นเคย โดยในคอมพิวเตอร์เครื่องดังกล่าวจะมีการติดตั้งโปรแกรมพิเศษสำหรับตรวจตราและบันทึกความพยายามในการทุจริตของนักเรียนด้วย
จุดนี้ Bjorg Helland ผู้จัดการโครงการการศึกษาดิจิตอลของ Nord-Trondelag ชี้แจงว่า รัฐบาลนอร์เวย์เคยให้นักเรียนทำการสอบด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์แล้ว แต่มีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากเชื่อว่าการให้นักเรียนพกพาโน้ตบุ๊กเข้าห้องสอบจะเป็นผลดีกว่า
"เมื่อการสอบเริ่มขึ้น นักเรียนจะเข้าสู่เว็บไซต์เพื่อดาวน์โหลดกระดาษคำถามและคำตอบ ซึ่งในบางโรงเรียนจะแจกคำถามเป็นกระดาษแต่ให้นักเรียนเติมคำตอบลงในโน้ตบุ๊ก และเพื่อป้องกันไม่ให้นักเรียนแอบเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อหาข้อมูล หรือแอบคุยกับเพื่อนคนอื่น จึงมีการติดตั้งระบบตรวจตราเพื่อป้องกันการทุจริต"
ซอฟต์แวร์ดังกล่าวสามารถร้องเตือนเมื่อนักเรียนพยายามทุจริต สามารถจับภาพสกรีนช็อตเพจหรือหน้าเว็บที่นักเรียนเรียกดูระหว่างการสอบได้ทั้งหมด โดยการสอบจะอนุญาตให้นักเรียนใช้โปรแกรมตรวจสอบตัวสะกดได้เท่านั้น สำหรับนักเรียนที่แอบทุจริตในการสอบ จะถูกลงโทษปรับตกในวิชานั้น
คณะทำงานเชื่อว่าโครงการแห่งชาตินี้ไม่มีความเสี่ยง แม้จะยอมรับว่ามีความพยายามในการเจาะระบบของแฮกเกอร์ เพื่อตบตาโปรแกรมให้นักเรียนสามารถทุจริตการสอบด้วยการใช้อินเทอร์เน็ตหรือแอบดูโน้ตที่จดบันทึกไว้ ระบุว่าเพราะซอฟต์แวร์นี้จะเริ่มการทำงานเมื่อนักเรียนอยู่ระหว่างการสอบเท่านั้น นักเรียนไม่สามารถเข้าถึงโปรแกรมนี้ได้แม้โปรแกรมดังกล่าวจะถูกติดตั้งไว้ในเครื่องตลอดเวลาก็ตาม ทางเดียวคือนักเรียนต้องเสียเวลาในการสอบมาเจาะระบบ ซึ่งเชื่อว่ามีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก
หากการทดสอบนี้สำเร็จผล จะมีการพิจารณาเพื่อนำมาใช้เป็นมาตรฐานการสอบทั้งประเทศต่อไป โดยอาจเริ่มต้นได้ในปีการศึกษาใหม่ ซึ่งจะเริ่มขึ้นในเดือนกันยายนนี้
เรียบเรียงจากบีบีซีนิวส์
ที่มา: manager.co.th