ทิม คุ้ก (Tim Cook) ประธานฝ่ายปฏิบัติการของแอปเปิลซึ่งรับหน้าที่แทนซีอีโอสตีฟ จ็อบส์
หลังจากพบวิกฤติมูลค่าหุ้นตกเพราะข่าวซีอีโอลาพักรักษาตัวครั้งที่ 3 ในรอบ 7 ปี ล่าสุดมูลค่าหุ้นแอปเปิลดีดตัวขึ้นอีกครั้งรับการประกาศผลประกอบการแสนงดงามช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2010 ที่ผ่านมา โดยแอปเปิลระบุว่าสามารถทำกำไรได้ถึง 6,000 ล้านเหรียญฯ คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นถึง 78%
กำไร 6,000 ล้านเหรียญของแอปเปิลในเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2010 นั้นคิดเป็น 6.43 เหรียญฯ ต่อหุ้น เกิดขึ้นบนยอดขายรวม 26,740 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนเพิ่ม 71%
ตัวเลขสวยงามเหล่านี้ทำลายสถิติและคำพยากรณ์ของเซียนการเงินหลายเจ้า ทำให้มูลค่าหุ้นของแอปเปิลลดลงน้อยเกินคาดเพียง 2.2% เท่านั้น โดยเพิ่มขึ้นจาก 340.65 เหรียญฯ ต่อหุ้นในช่วงหุ้นขาลง เป็น 344.70 เหรียญฯ หลังการประกาศ
ทิม คุ้ก (Tim Cook) ประธานฝ่ายปฏิบัติการของแอปเปิลซึ่งรับหน้าที่แทนซีอีโอสตีฟ จ็อบส์ ประกาศว่ามีความมั่นใจเต็มที่ในอนาคตของบริษัท เพราะผลิตภัณฑ์หลักของแอปเปิลทุกชิ้นสามารถจำหน่ายได้มากเกินความคาดหมาย
ตลอด 3 เดือน แอปเปิลระบุว่าสามารถขายได้ 16.2 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้น 86% จากไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้ว โดยสามารถไอแพดได้ 7.33 ล้านเครื่อง และคอมพิวเตอร์แมคอินทอชอีก 4.1 ล้านเครื่อง คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 23% ขณะที่ไอพอดสามารถขายได้ 19.2 ล้านเครื่อง
สำหรับไตรมาสปัจจุบัน ซึ่งแอปเปิลกำหนดให้เป็นไตรมาส 2 ปีการเงิน 2011 แอปเปิลเชื่อว่าบริษัทจะสามารถทำกำไรได้ 4.90 เหรียญฯ ต่อหุ้น บนรายได้มากกว่า 22,000 ล้านเหรียญฯ ทั้งหมดนี้สูงกว่าการคาดการณ์ของวอลสตรีทเจอร์นอล ซึ่งคาดว่าแอปเปิลจะทำกำไรได้ 4.47 เหรียญฯ ต่อหุ้น บนรายรับรวม 20,800 ล้านเหรียญฯ
คุ้กระบุว่า แอปเปิลมองเห็นโอกาสเติบโตที่ยิ่งใหญ่ในตลาดแท็บเล็ต โดยมั่นใจว่าแอปเปิลจะสามารถยืนหยัดได้ในตลาดอุปกรณ์แกดเจ็ตต่อไปแม้การแข่งขันจะรุนแรงสุดขีด ทั้งในตลาดแท็บเล็ตและสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ คุ้กยังเชื่อว่า ไอโฟน 4 เวอร์ชัน CDMA ซึ่งบริษัทเวอไรซอนไวร์เลสจะเริ่มจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จะสร้างความต้องการในตลาดสหรัฐฯอย่างมหาศาล
นาทีนี้ทิม คุ้ก คือหนึ่งในผู้บริหารแอปเปิลที่ถูกจับตามากในฐานะทายาทของสตีฟ จ็อบส์ ซีอีโอแอปเปิลซึ่งมีปัญหาสุขภาพรุมเร้าในขณะนี้ โดยคุ้กนั้นเคยเป็นคนไอบีเอ็ม, คอมแพค (Compaq) ก่อนจะมาอยู่ในชายคาของแอปเปิลช่วงปี 1998 ผลงานของคุ้กนั้นโดดเด่นพอที่จะทำให้โลกเห็นว่าความสำเร็จของแอปเปิลนั้นไม่ได้มาจากซีอีโอคนเดียว จุดนี้นักวิเคราะห์รายหนึ่งถึงกับบอกว่า หากสำรวจความเห็นนักลงทุน 1,000 คน 999 คนจะบอกว่าคุ้กนั้นเป็นนักบริหารที่ทำงานได้ยอดเยี่ยมแท้จริง
อย่างไรก็ตาม คุ้กไม่ตอบคำถามว่าเมื่อใดปัญหาไอแพดขาดตลาดจะบรรเทาลง โดยระบุเพียงว่าการจัดการสายการผลิตไอแพดนั้นถูกพัฒนาขึ้นแล้วเพื่อให้ทันความต้องการในตลาดโลก ซึ่งล่าสุดมีการเปิดเผยผลการสำรวจว่า บริษัทใหญ่ระดับโลกมากกว่า 80% กำลังเริ่มทดสอบการใช้แท็บเล็ตอย่างไอแพดในองค์กร ซึ่งเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจาก 65% ของไตรมาสก่อนหน้า
สำหรับตลาดเอเชีย คุ้กระบุว่าเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นตลาดที่ดีมากของแอปเปิล โดยในธุรกิจร้านค้าปลีกแอปเปิลสโตร์ (Apple Store) ในประเทศจีนซึ่งมีอยู่ 4 สาขานั้นมีอัตราการหมุนเวียนของลูกค้ามากที่สุดในโลก
นอกจากนี้ มีการตั้งข้อสังเกตว่าผลประกอบการไตรมาสที่ผ่านมาของแอปเปิลสะท้อนให้เห็นถึงความจริงที่น่าทึ่ง เพราะสัดส่วนการจำหน่ายสินค้าดั้งเดิมอย่างคอมพิวเตอร์แมคอินทอชของแอปเปิลนั้นอยู่ที่ 20% (ของรายได้ทั้งหมดของแอปเปิล) เท่านั้นในขณะนี้ โดยอุปกรณ์เลือดใหม่ที่เพิ่งวางตลาดไม่กี่ปีซึ่งใช้ระบบปฏิบัติการ iOS ทั้งไอโฟน ไอแพด ไอพ็อดทัช กลายเป็นแหล่งรายได้หลักเกินสัดส่วนสองในสามของรายได้ทั้งหมด
การคำนวณเบื้องต้นพบว่า รายได้จากการขายไอโฟนคิดเป็น 39% ของรายได้ทั้งหมดของแอปเปิล ขณะที่รายได้จากไอแพดคิดเป็นสัดส่วน 17% และไอพอด 13% จุดนี้ รายได้ส่วนใหญ่ของไอพ็อดก็มาจากไอพอดทัชซึ่งใช้ระบบปฏิบัติการ iOS เช่นกัน
Company Related Link :
Apple
ที่มา: manager.co.th