ไอซีทีปัดฝุ่นไอเดียตั้งสภาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารแห่งประเทศไทย จ้างที่ปรึกษายกร่างกฎหมาย พร้อมบรรจุเข้าร่างแผนแม่บทไอซีทีฉบับที่ 2
นายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวภายหลังการประชุมยกร่างกฎหมายสภาเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารแห่งประเทศไทย (ร่างสภาไอซีทีแห่งประเทศไทย) ว่า กระทรวงมีแนวทางจัดตั้งสภาไอซีที มา 2- 3 ปีแล้ว ซึ่งหน้าที่ และบทบาทจะเป็นลักษณะเช่นเดียวกับสภาอุตสาหกรรม
ขณะนี้จัดทำร่างเสร็จแล้ว และจะนำไปบรรจุในร่างของแผนแม่บทไอซีทีแห่งชาติฉบับที่ 2 ซึ่งกำลังดำเนินการจัดทำอยู่ อีกทั้งต้องนำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรีต่อไป ปัจจุบันมีผู้รับผิดชอบโครงการ คือนายอังศุมาล สุนาลัย รองปลัดกระทรวงไอซีที เป็นประธานกรรมการร่างแทนนายวรพัฒน์ ทิวถนอม
ทั้งนี้ กระทรวงได้ว่าจ้างบริษัทไอดับเบิ้ลยูบี- สยามเท็ค จำกัด ดำเนินการศึกษาร่างฯ หรือชื่อย่อภาษาอังกฤษ “ICT Council of Thailand” ตามประกาศสำนักงานปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ด้วยวงเงินหลัก 10 ล้านบาท ร่างฉบับล่าสุดแก้ไขเมื่อ 4 เม.ย. 2552
คณะกรรมการร่างฯ ประกอบด้วยผู้มีคุณวุฒิในวงการ เช่น นายดิเรก เจริญผล นายมนู อรดีดลเชษฐ์ นายสหัส ตรีทิพยบุตร นายรุ่งเรือง ลิ้มชูปฏิภาณ์ นายอนุกูล แต้มประเสริฐ
แหล่งข่าวนักกฎหมายระดับสากล กล่าวว่า หน้าที่ของสภาฯ ตามที่ร่างขึ้นหลักๆ มีเพียงการประสานงานในอุตสาหกรรมเท่านั้น ซึ่งเป็นหน้าที่ปกติของกระทรวงไอซีทีอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องตั้งหน่วยงานใหม่ เพราะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ตั้งไว้ถึง 60 ล้านบาท หรือแม้แต่การศึกษาร่างนี้ก็ใช้งบหลัก 10 ล้านบาทแล้ว
"ปกติกระทรวงไอซีทีต้องการความร่วมมือใดๆ จากภาคเอกชน ทุกคนก็พร้อมมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือร่วมมืออยู่แล้ว ทั้งไม่จำเป็นต้องออกเป็นกฎหมาย และการจัดทำร่างยังเอาข้อระเบียบลักษณะเดียวกับบริษัทมาใส่ไว้ในข้อกฎหมาย เช่นกำหนดงบประมาณไว้ในกฎหมายซึ่งไม่มีใครปฏิบัติกัน" แหล่งข่าว กล่าว
นายอนุกูล กล่าวว่า แนวคิดการจัดทำร่างมาถูกหยิบยกมาจากยุคที่มีเพียงกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อสานต่อนโยบายไอซีทีอย่างต่อเนื่อง แล้วเชื่อมโยงเข้ากับระบบเศรษฐกิจ สังคมของประเทศ
"สภาไอซีที จะทำหน้าที่คล้ายสภาอุตสาหกรรมที่จะเชิญเอกชนเข้ามาร่วมดำเนินงาน ดูแลนโยบายไอซีทีของประเทศให้ต่อเนื่อง ให้สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศด้านๆ อื่น เพราะที่ผ่านมาการกำหนดแผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไม่ได้นำเรื่องไอซีทีเข้าไปบูรณาการหลักการต่างๆ" นายอนุกูล กล่าว
นายมนู กล่าวว่า ปัจจุบันมีสมาคมด้านไอซีทีเกือบ 20 สมาคม เป็นสมาคมเล็ก รวมตัวกันหลวมๆ ซึ่งในเชิงนโยบายหากรัฐบาลต้องทำงานกับเอกชน จะค่อนข้างยากว่าจะทำงานกับใคร หากมีสภาที่รัฐบาลรับรองจะได้รับการยอมรับมากกว่า เช่น การร่วมเสนอแนะการเจรจาเอฟทีเอที่ขณะนี้ไม่มีตัวแทนเอกชนเข้าร่วม เป็นต้น
ที่มา: bangkokbiznews.com
