“ประวิทย์” สุดปลื้มละครช่อง 3 สุดบูม พร้อมเผยโปรเจ็กต์ปี 54 แจงเตรียมสร้างนักแสดงหน้าใหม่เพิ่มขึ้น ก่อนยันละครก่อนข่าวไม่ใช่ละครเกรด 2
ทำเอาบิ๊กบอสช่อง 3 "ประวิทย์ มาลีนนท์" ออกอาการปลื้มทีเดียวสำหรับกระแสตอบรับต่องานละครรอบปีที่ผ่านมา เจ้าตัวเผยวันที่ 20 ม.ค.นี้เตรียมแจงโปรเจ็กต์ทั้งในส่วนของข่าวและละครให้ได้รับทราบกัน...“วันที่ 20 ม.คก็จะมีการแถลงข่าวเปิดวิกบิ๊ก 3 ก็จะเป็นละครในครึ่งปีแรกนี้ และทางฝ่ายข่าวจะมาบอกว่าแนวข่าวของปีนี้จะเป็นอย่างไร หลักๆ ก็มีเท่านั้น"
"ส่วนเรื่องเรตติ้งของละคร ปีที่แล้วผมโดยส่วนตัวพอใจมาก เพราะว่านอกจากเราได้เรตติ้งดีแล้ว หรือบางเรื่องไม่ได้เรตติ้ง แต่กระแสดีมาก นอกจากตรงนั้นเรายังได้บุคคลากรเพิ่มมาอีก คือเด็กๆ ทั้งผู้จัดและดารา อย่างสี่หัวใจตรงนั้นได้ทีมแสดงใหม่มาหมด ซึ่งถือว่าช่วยเราได้เยอะ"
"เพราะอีกหน่อยงานข้างหน้า ยิ่งง่ายขึ้น มันจะเหนื่อยตอนเริ่มต้น แต่ผลออกมาแล้วมีความสุข จากนี้ไปคนที่สร้างขึ้นมางานก็ง่ายขึ้น คือถ้ารอกองกลางจะไม่ได้เปิดกล้อง เพราะฉะนั้นคือปรากฎการที่พอเกิดขึ้นจะเป็นกำลังสำหรับคนอื่นที่พยายามสร้างตัวเองเข้ามา ส่วนจะมีโปรเจ็คอะไรขึ้นมาก็ให้เขาช่วยกันคิด”
“อย่างคู่เดือดก็ดีนะ เสียงสะท้อนออกมาก็ดี ส่วนที่มีบอกว่ากระแสมนต์รักลูกทุ่งโหล่ตั้งแต่ต้นปีเลย อันนี้ไม่จริง เพราะอย่างผมแอบสำรวจที่บ้าน อย่างแม่บ้านให้เขาดูทีวีตามสบาย เขาก็ดูบางครั้งเขาก็ไปดูช่องอื่น แต่เรื่องนี้เขาก็ดู แต่ที่แปลกใจว่าที่ผ่านมาสี่หัวใจแห่งขุนเขานี่เขาก็ดู"
"อาทิตย์ที่แล้ว เผอิญนักแสดงแวะไปที่บ้านผม ก็แปลกใจว่าเขารู้จักณเดชน์ บอย ปกรณ์อะไรพวกนี้ เขาก็ขอถ่ายรูปด้วย เราก็มีความสุขเพราะไม่คิดว่าเขาจะดูเรื่องพวกนี้ เราก็ได้กลุ่มคนดูอีกกลุ่มที่เราเข้าถึงเขายาก”
เตรียมผลิตดาราหน้าใหม่อีกเพียบ
''ผมพยายามบอกผู้จัดทุกทีมเลยว่าในปีหนึ่งๆ ทุกค่ายอยากให้นำเสนอดารามา 1 คู่ ชาย 1 หญิง 1 อย่างเรามีทีมงาน 30 ค่ายเราก็ได้มาแล้ว 30 คู่ ไม่ต้องสนใจว่าจะติดตลาดหรือไม่ติดนะ ไม่ติดไม่เป็นไรปีหน้าเอาใหม่ ถ้าติดก็มีคนใช้งานอยู่แล้ว อีกอย่าง 30 คนก็อาจจะไม่ดังเท่า ณเดชน์, บอย, ญาญ่า ที่ผ่านมา แต่ก็คงจะเอามาใช้งานได้ ก็ยิ่งทำให้เกิดสภาพคล่องในคลื่นลูกใหม่ ที่มีอยู่ก็ไม่แน่นนะ แต่ไม่พอด้วยซ้ำ''
''ถามว่าดารารุ่นเก่าจะน้อยใจไหมไม่หรอก เคยได้ยินที่อ๊อฟ (พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง)พูดไหมว่าเขาดึงดารารุ่นเก่า อายุ 60 ขึ้นไปแล้ว เขาบอกว่าถ้าอยากได้คิวพวกนี้นะต้องเอาณเดชน์มาแลก พวกนี้มีความสำคัญนะ ละครไม่มีพวกนี้ก็เปิดไม่ได้เหมือนกันนะ ไม่ใช่ว่าขาดพระเอกนางเอกแล้วเปิดไม่ได้ ถ้าขาดพวกรุ่นเก่าๆ ก็ไม่ได้เหมือนกัน เพราะทุกคนมีความสำคัญเหมือนกันหมด ไม่ต้องห่วงเลย แล้วพวกรองๆ ลงมารับงานตั้งเท่าไร''
ส่วนกรณีของนักแสดงหญิง "หยาดทิพย์ ราชปาล" ที่บ้างก็ว่าเซ็นสัญญากับช่อง 3 ต่อแล้ว บ้างก็ว่ายังและกำลังจะย้ายไปอยู่กับช่อง 7 เจ้าตัวบอกต้องถามผู้บริหารฝ่ายผลิตรายการ แต่เชื่อว่าอีกฝ่ายคงไม่น่าน้อยใจเรื่องที่ต้องมาเป็นนางเอกละครก่อนข่าว
“เรื่องหยาดที่จะย้ายไปอยู่ช่อง 7 วันนี้เขาก็ออกมาบอกแล้วว่าไม่จริง ที่บอกว่าน้องเขาเข้ามาเซ็นสัญญาต่อกับทางช่องอันนี้ผมไม่ทราบ เพราะว่าคุณสมรักษ์ยังประชุม เลยไม่ได้ถาม คือที่สำคัญเขาต้องอยู่กับเราอย่างมีความสุข อยู่แล้วทุกข์เราก็ทุกข์ด้วย”
''ส่วนเรื่องละครก่อนข่าวนะครับ เริ่มต้นเรื่องแรกผมไปขอนางเอกจาก ไก่ (วรายุฑ มิลินทจินดา) ซึ่งตอนนั้นดังที่สุดก็คือ จอย (ศิริลักษณ์ ผ่องโชค) เอาจอยมาช่วยกันหน่อย ก็คือที่ทำก่อนข่าวตั้งใจจะทำให้ดีกว่าหลังข่าวด้วยครับ เพราะคนดูเยอะกว่านะ คือช่วงเย็นคนดูไหลเข้าบ้านนะ แล้วจะสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่หลังข่าวคนดูอยู่บ้านแล้วคนก็เริ่มเข้านอน"
"มันคนละอย่างกัน เย็นจะสูงขึ้นเรื่อยๆ แต่หลังข่าวจะสูงอยู่แล้วและจะหายไป อย่างชัดเจนก็คงเป็นเด็กๆ ที่ต้องไปโรงเรียนผมคิดว่าเกิน 4 ทุ่มก็ไม่ได้แล้วต้องนอนแล้ว ช่วงเย็นคนดูสูงกว่า ยิ่งช่วงรอบนอกเขาก็กินข้าว 5 โมงเย็นแล้วก็ดูละครแล้ว แต่หลังข่าวอาจจะดึกไปสำหรับเขาก็ได้"
"เราไม่ได้ตั้งใจว่าก่อนข่าวจะเป็นเกรด 2 ไม่ใช่เลยนะ แล้วลองไปย้อนดูช่องอื่นสิเขาก็เอาดาราที่ดังที่สุดของเขามาอยู่ก่อนข่าวนะ ไม่ได้ตั้งใจไปลดเกรดเลยนะ''
ที่มา: manager.co.th