Author Topic: “เท่ง” การันตีหนัง “เท่ง-โหน่ง จีวรบิน” ปลอดคำหยาบก็ฮาได้ ปัดสร้างมาตรฐานให้หนังตลก  (Read 1406 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai



“เท่ง” การันตีหนัง “เท่ง-โหน่ง จีวรบิน” ที่ตนกำกับ แตกต่าง “หลวงพี่เท่ง” ของ “โน้ต เชิญยิ้ม” โวได้ “พระมหาสมปอง” ช่วยขัดเกลาและสอดแทรกสาระในบทภาพยนตร์ ประกาศเป็นภาพยนตร์ปลอดคำหยาบคาย ปัดสร้างมาตรฐานใหม่ให้หนังตลก
       
       ผ่านการเป็นผู้กำกับภาพยนตร์มาแล้วถึง 2 เรื่องด้วยกัน สำหรับดาวตลกชื่อดัง “เท่ง เถิดเทิง” แต่กับผลงานการกำกับเรื่องที่2 “เท่ง-โหน่ง จีวรบิน” ได้ถูกจับตามองว่า ทำออกมาคล้ายคลึงแนวเดียวกับ “หลวงพี่เท่ง” ฉบับเก่าที่ตลกรุ่นพี่ “โน้ต เชิญยิ้ม” กำกับ แต่งานนี้เจ้าตัวการันตีถึงจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาแต่แตกต่าง ไม่เหมือนภาพยนตร์เรื่องเก่าที่ตนเคยแสดงแน่นอน
       
       “หนังของเราแตกต่างอย่างสิ้นเชิงครับ เรื่องนั้นพล็อตเรื่องจะเป็นชาวบ้านๆ ให้คนเชื่องมงายเรื่องการเข้าทรง แต่มาเป็นหนังของผมตอนแรกเราคิดพล็อตพระกลับเครื่องบินแล้วมาลงเมืองไทย แล้วเราก็คิดพล็อตเรื่องอีกว่าจะไปไหนดี คิดว่ากลับมาจากทิเบตแล้วไม่ลงเมืองไทยได้ไหม ไอเดียเลยเกิดว่าไปลงที่กองโจรดีกว่า ไปขัดเกลาจิตใจกองโจรดีกว่า พล็อตเรื่องหลายอย่างไม่มีซ้ำทางกันครับ คนละทางกันอย่างสิ้นเชิง”
       
       “เรื่องนี้ผมต้องลงทุนศึกษาหลักพระพุทธศาสนาด้วย เราโชคดีที่ได้พระเดชพระคุณท่านหลวงพี่มหาสมปอง เป็นคนคอยขัดเกลาบทให้ เรามีบทก็ส่งไปให้ท่านอ่าน เพราะเรื่องนี้ต้องระวังเป็นอย่างมาก หลวงพี่มหาสมปองช่วยตรวจสอบและเป็นที่ปรึกษาด้วยครับ พอหลวงพี่มหาสมปองอ่านแล้วบอกว่าไม่มีอะไรต้องแก้ เพราะไม่มีฉากสวมชุดพระแล้วจะมาสะดุ้ง”
       
       “ส่วนใหญ่จะแสดงออกทางสายตา และมุกทุกมุกพระจะเป็นคนเชื่อมมุกเฉยๆ แต่พระจะไม่ลงไปเล่นมุกเอง บอกตัวเองเลยว่าพอจบเรื่องนี้จะไม่ทำหนังพระอีกแล้ว พอมาเล่นแล้วรู้สึกไม่อยากเล่น อยากเล่นตัวละครที่มีอะไรให้เล่นเยอะกว่า เล่นเป็นพระต้องสำรวม เล่นเป็นพระแล้วรู้สึกว่าถูกตีกรอบสำรวม เล่นอะไรไม่ได้ ตัวเราไม่สนุกแต่เนื้อเรื่องสนุก ต่อไปก็มีโปรเจกต์กำกับหนังเรื่องอื่น แต่ไม่ใช่หนังแนวพระแล้ว หนังพระและซีจีคงต้องหนีแล้วครับ และตัวผมคิดว่าจะกำกับหนังปีละเรื่องพอ เพราะคนส่วนใหญ่เห็นเราทางทีวีค่อนข้างเยอะแล้ว มันเฝือแล้ว ปีละเรื่องมีโอกาสได้คิดงานด้วย ”
       
       ประกาศภาพยนตร์ของตนปลอดคำหยาบคาย ปัดต้องการสร้างมาตรฐานใหม่ให้วงการภาพยนตร์ตลก
       
       “หนังผมไม่มีคำหยาบคายเลยครับ ตอนแรกกองถ่ายคิดว่าผมพูดเล่น ก็มีหลุดคำหยาบบ้าง ตัวเราก็สั่งเทคบอกเขาว่าเอาจริงๆ ต้องสำรวม ตัวพระด่าไม่ได้อยู่แล้ว แต่ตัวละครทั่วไปทุกตัวห้ามด่ากัน ให้ด่าคำอื่นที่มันสุภาพหน่อย แต่มึง กู ก็ยังมีอยู่ เพราะกองโจรเขาจะเถื่อนๆ ไอ้ อี มึง กู มีแน่นอน แต่เรื่องนี้จะมีคำด่าเพียงแค่คำเดียว เป็นฉากผู้หญิงด่าผัวคำเดียว แล้วพระก็จะสอนด้วยว่าอย่าด่า ให้ด่าอย่างอื่น ที่ผมไม่อยากให้มีคำหยาบในหนังผม เพราะว่าสื่อและคนทั่วไปชอบพูดว่าทำไมหนังตลกต้องหยาบด้วย ต้องด่ากันด้วย มันด่าแล้วขำใช่ไหม ไม่ด่าแล้วขำทำได้ไหม
       
       “อีกเรื่องคือ ผมมีลูกสาว 8 ขวบ กับ 10 ขวบ อยากดูหนังเรื่องนั้น เรื่องนี้ และที่บ้านเป็นคนพูดเพราะมาก ต้องสกรีนว่าเรื่องไหนผ่านบ้าง ถ้าเรื่องไหนไม่ผ่านก็ไม่ให้แผ่นนี้เข้าบ้าน หรือดูละครพอจบตอนแล้วก็จะสอนว่า นี่เป็นแค่การแสดงนะ ชีวิตจริงเป็นไปไม่ได้หรอกที่ลูกผู้ดีกลับจากเมืองนอกแล้วจะด่าหยาบคาย พอเรามีโอกาสก็อยากทำสักทีและจะทำไปเรื่อยๆ ทุกเรื่องให้ชินว่า หนังไม่จำเป็นต้องด่ากัน มันไม่ยากหรอกครับ ก็เหมือนออกรายการทีวีอัดเกมโชว์ ชิงร้อยชิงล้าน ก็ถูกเซ็นเซอร์ก่อนอยู่แล้ว มันก็ขำได้ เราไม่ได้อยากสร้างมาตรฐานให้คนวงการตลกมาทำตามนะ เราอยากเป็นเฉพาะของเรา อย่าเอาเราเป็นมาตรฐาน เราคิดว่าคงไม่ถึงขั้นนั้นหรอก เอาแค่ว่าเราอยากทำมากกว่าครับ”

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)