ต้องบอกว่าดุเหลือเกินสำหรับปีเสือ 2553 หลังมีเหตุการณ์ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความขัดแย้งทางการเมือง ภัยธรรมชาติ น้ำท่วม หรือแม้กระทั่งการเกิดอุบัติเหตุใหญ่ๆ หลายต่อหลายครั้ง
เหลียวมองไปในส่วนแวดวงบันเทิงก็เป็นอีกหนึ่งปีที่มีหลายเรื่องหลายราวเกิดขึ้นมากมายเช่นกัน โดยเฉพาะที่น่าจับตาก็คือการเกิดขึ้นมาของนักแสดงรุ่นใหม่มากหน้าหลายตาที่จะเข้ามาแทนดารารุ่นพี่ รุ่นพ่อ รุ่นแม่ รุ่นตา รุ่นยาย ที่นับวันจะร่วงโรยราไปตามวันและเวลา
และในจำนวนมากมายเหล่านี้หากจะนับเอาคนที่ถือได้ว่าแจ้งเกิดสุดๆ จริงๆ ในส่วนของฝ่ายหญิง และชายแล้วละก็ คงต้องยกให้กับเธอและเขาคนนี้...
แม้จะปรากฏตัวให้เห็นอยู่บ่อยครั้งทั้งซีรี่ย์น้องใหม่ฯ, ภาพยนตร์โฆษณา ละครโทรทัศน์รวมไปถึงละครเวทีบางเรื่อง ทว่าชื่อของ “หนูนา หนึ่งธิดา โสภณ” (8 พฤษภาคม พ.ศ. 2535) ก็ดูจะไม่เป็นที่จดจำของใครสักเท่าไหร่ แต่ทันทีที่ภาพยนตร์เรื่อง “กวน มึน โฮ” ของค่ายจีทีเอชออกฉาย ชื่อของเธอก็ดังเปรี้ยงปร้างขึ้นมาทันที
"หนูนามาจากโครงการประกวดลักส์ ปั้นดาวน่ะค่ะ เป็นการค้นหาผู้หญิงที่มีผิวสวยแล้วก็มีความสามารถทางด้านการแสดงด้วย" หนูนาให้สัมภาษณ์ถึงเส้นทางก่อนที่จะก้าวขึ้นไปสู่ทำเนียบนางเอกร้อยล้านของวงการหนังบ้านเรา
ปัจจุบันสาววัย 18 คนนี้เรียนอยู่ชั้นม.6 โรงเรียนสตรีวิทยา ซึ่งผลพวงจากความนิยมในภาพยนตร์เรื่องกวน มึน โฮ ส่งผลให้นางเอกที่กำลังจะเอนทรานซ์ในปีหน้าคนนี้กลายเป็นอีกหนึ่งคนบันเทิงที่มีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้ใครต่อใครหลงรักผู้หญิงคนนี้ที่แม้หน้าตาจะไม่ได้สวยเด้งมากนักก็เห็นจะเป็นรอยยิ้มที่สดใส การพูดจาที่ดูเป็นธรรมชาติ การวางตัวที่เป็นกันเอง และไม่ถือเนื้อถือตัวของเธอนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม คงต้องจับดูกันว่าในปีหน้านั้น หนูนา คนนี้จะสามารถใช้โอกาสการแจ้งเกิดแบบสุดๆ ในปีนี้ได้คุ้มค่ามากน้อยเพียงใด เพราะดูเหมือนว่าจะมีนางเอกค่ายนี้หลายคนทีเดียวที่ดังขึ้นมาแบบเปรี้ยงปร้างเช่นนี้ ทว่าท้ายสุดเมื่อเวลาผ่านไปไม่นานเท่าใดชื่อของพวกเธอเหล่านั้นก็ค่อยๆ เงียบหายไป
ไปกันที่ฝ่ายชายกันบ้างปีนี้แม้จะมีนักแสดงหน้าใหม่ๆ เกิดขึ้นมาเยอะทีเดียว ทั้ง หมาก ปริญ, คูณ คณิณ , โตโน่ ภาคิน ฯ ทว่าที่มาแรงแซงโค้งเพื่อนๆ โดยเฉพาะโค้งท้ายๆ ในช่วงปลายปีคงจะเป็นใครไม่ได้นอกจากหนุ่มสุตฮอต “ณเดชน์ คูกิมิยะ”(17 ธันวาคม พ.ศ.2534)
ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นวัย 19 คนขอนแก่นโดยกำเนิดคนนี้เริ่มต้นงานในวงการบันเทิงด้วยการเป็นนายแบบ Elle Fashion Week ก่อนจะมีผลงานโฆษณา มิวสิกวีดีโอ รวมถึงการถ่ายแบบนิตยสาร ออกมาอยู่เป็นระยะๆ ทว่าดูเหมือนจะยังไม่เป็นที่จดจำของใครต่อใครมากนัก
จากเวทีนายแบบ ณเดชน์ เดินเข้าสู่เส้นทางการเป็นนักแสดงด้วยการผลักดันของนักปั้น เอ ศุภชัย ในละคร "เงารักลวงใจ" โดยรับบทเป็นพระรองในบทของ “นาวา” ก่อนที่จะถูกมาดึงเป็นพระเอกเต็มตัวในโปรเจ็คใหญ่ "4 หัวใจแห่งขุนเขา" ละครฉลองครบรอบ 40 ปีของช่อง 3 ในตอน “ดวงใจอัคนี” และนั่นเองที่ทำให้เขาก้าวขึ้นไปเป็นขวัญใจของบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่รวมทั้งสาวเทียมในที่สุด
ทั้งนี้สิ่งหนึ่งที่ทำให้หนุ่มคนนี้สามารถคว้าหัวใจของใครต่อใครไปครองได้ นอกจากเรื่องของรูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาอินเทรนด์แล้ว ก็คงจะเป็นนิสัยที่เป็นกันเอง รวมไปถึงการที่เขามักจะพูดภาษาอีสานซึ่งเป็นภาษาถิ่นบ้านเกิดของเขาอยู่บ่อยๆ นั่นเอง
ว่ากันว่าถึงตอนนี้หากจะนับเอาดาราชายที่ “งานชุก” เดินสายโชว์ตัวรับเงินเป็นว่าเล่นแล้วละก็จะต้องมีชื่อของหนุ่มคนนี้ ณเดชน์ คูกิมิยะ รวมอยู่ด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย
ที่มา: manager.co.th