Author Topic: 10 จุดอ่อนสมาร์ทโฟนที่จะหายไปในปี 2011  (Read 2055 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46028
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


Motorola Droid X

เป็นธรรมดาของการแข่งขันในตลาดการค้า ที่คู่แข่งขันทุกรายต่างเร่งเครื่องอุดจุดอ่อนผลิตภัณฑ์ของตัวเองยกใหญ่เพื่อให้สามารถชนช้างกับฝ่ายตรงข้ามได้อย่างเข้มแข็ง ล่าสุดนิตยสารอีวีค (eWeek) ประเมินสถานการณ์ 10 จุดอ่อนในสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่เชื่อว่าจะหายไปในสมรภูมิตลาดสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตปี 2011 ซึ่งทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าจะทวีความดุเดือดทั้งในเชิงคุณภาพและราคาแน่นอน
       
       จุดอ่อนที่อีวีคมองว่าจะสูญพันธุ์ในปี 2011 ล้วนเป็นจุดอ่อนที่ทำให้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตไม่สามารถตอบความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างเต็มที่ ทั้งกลุ่มคอนซูเมอร์และกลุ่มองค์กรบริษัท ทั้งหมดนี้เป็นผลจากการเดินหน้าค้นหาความต้องการแท้จริงของผู้บริโภค ก่อนจะปรับเปลี่ยนด้วยการลดจุดอ่อนและเสริมจุดแข็ง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ได้โดนใจผู้บริโภคมากที่สุด
       
       1 หน้าจอจิ๋ว
       
       สิ่งที่ไม่มีผู้บริโภคคนใดต้องการในปี 2011 เชื่อว่าจะเป็นหน้าจอขนาดเล็กบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต มีการฟันธงกันว่า Dell Streak แท็บเล็ตลูกผสมโทรศัพท์มือถือของเดลล์ซึ่งมีหน้าจอขนาด 5 นิ้วจะไม่สามารถบุกตลาดได้ดีเท่าที่ควร เช่นเดียวกับ Blackberry Tour ซึ่งมีหน้าจอไม่ใหญ่นัก (ราว 3 นิ้ว)
       
       อีวีคเชื่อว่าปี 2011 จะเป็นปีที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่มองหาแต่อุปกรณ์หน้าจอใหญ่ขึ้น คาดว่าสมาร์ทโฟนขนาด 4 นิ้วขึ้นไปจะได้รับความนิยม รวมถึงแท็บเล็ตขนาด 7 และ 10 นิ้วจะยังมีอนาคตสดใสต่อไป โดยมั่นใจว่าผู้บริโภคจะไม่ต้องการอุปกรณ์ที่มีหน้าจอเล็กกว่านี้
       
       2 ขาดมัลติทาสก์
       
       ความสามารถในการทำงานหลายหน้าต่างพร้อมกันบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตนั้นเป็นที่ต้องการของสาธารณชนอย่างมาก เพราะมัลติทาสกิงนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ที่เล่นเกมค้างไว้สามารถพักเกม-อ่านเมล-เล่นเกมต่อได้แบบไม่ต้องเริ่มใหม่ ซึ่งปีที่ผ่านมา แอปเปิลก็มองเห็นว่าการไม่รองรับมัลติทาสก์นั้นเป็นจุดอ่อน จึงเพิ่มความสามารถให้ไอโฟนและไอแพดสามารถทำงานหลายหน้าต่างพร้อมกันได้เรียบร้อย
       
       อย่างไรก็ตาม มัลติทาสก์ยังไม่สามารถทำงานได้บนสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการวินโดวส์โฟนเซเว่น (WP7) ในขณะนี้ แต่คาดว่าจะมีการพัฒนาต่อเนื่องในปี 2011 แน่นอน
       
       3 ไม่รองรับแอปพลิเคชันเต็มที่
       
       นาทีนี้ทุกคนเห็นตรงกันหมดแล้วว่าแอปพลิเคชันมีความสำคัญมากเหลือเกินในตลาดโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเห็นได้จากใน iPhone App Store และ Android Market ที่ผู้บริโภคสามารถรับการสนับสนุนอย่างเต็มที่บนทั้งสมาร์ทดฟนและแท็บเล็ต
       
       สำหรับ BlackBerry App World และร้านจำหน่ายแอปพลิเคชันของไมโครซอฟท์ก็เชื่อว่าจะมีพัฒนาการสนับสนุนที่เต็มที่อย่างไม่น้อยหน้ากันในปี 2011
       
       4 ให้ความสำคัญกับคอนซูเมอร์อย่างเดียว
       
       อีวีคมองว่าผลิตภัณฑ์บางชิ้นในปี 2010 ที่ผ่านมานั้นไม่ตื่นตัวเท่าที่ควรเพราะไม่สามารถดึงความสนใจจากลูกค้ากลุ่มผู้ใช้ในองค์กรบริษัทได้ เช่น Motorola Droid X หรือแม้แต่ Samsung Tab แปลว่าแม้ผลิตภัณฑ์จะได้รับความสนใจจากคอนซูเมอร์สาธารณชน แต่หากไม่โดนใจผู้ใช้กลุ่มองค์กร ผลิตภัณฑ์นั้นก็จะไม่สามารถแจ้งเกิดได้เต็มที่
       
       ปี 2011 อีวีคเชื่อว่าทุกบริษัทจะพัฒนาผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของตัวเองให้สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคทั้ง 2 กลุ่ม (คอนซูเมอร์และองค์กร) ซึ่งแน่นอนว่าความลำบากจะตกไปอยู่กับ BlackBerry ซึ่งครองตลาดผู้ใช้กลุ่มองค์กรอยู่อย่างเหนียวแน่น
       
       5 ไม่รองรับพรินเตอร์
       
       เทรนด์ที่เห็นชัดเจนในขณะนี้คือการพัฒนาให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตสามารถพิมพ์งานผ่านเครื่องพิมพ์ได้ ทั้งนี้เป็นไปตามพฤติกรรมผู้ใช้และความสามารถของบริการออนไลน์ในสมาร์ทโฟนที่เปลี่ยนแปลงไปจากในอดีต
       
       สิ่งที่เกิดขึ้นแปลว่าในปี 2011 ผู้บริโภคจะต้องการคอมพิวเตอร์พีซีน้อยลง เนื่องจากแต่เดิม ผู้บริโภคจำเป็นต้องพิมพ์เอกสารผ่านคอมพิวเตอร์เท่านั้น ถือเป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานเคลื่อนที่ที่ผู้บริโภคในวงการธุรกิจทั่วโลกรอคอย
       
       6 ให้ความสำคัญกับองค์กรอย่างเดียว
       
       ถือเป็นส่วนกลับของข้อ 4 เพราะสมาร์ทโฟนใดที่เทความสนใจไปที่กลุ่มผู้ใช้นักธุรกิจอย่างเดียว ก็จะได้รับความเสียหายไม่แพ้การให้ความสำคัญกับคอนซูเมอร์อย่างเดียว โดยเฉพาะความเสียหายในแง่ส่วนแบ่งการตลาด
       
       หลายสำนักจึงฟันธงว่าปี 2011 จะเป็นปีที่บริษัทซึ่งชูธงในตลาดองค์กรอย่างอาร์ไอเอ็ม ผู้ผลิตแบล็กเบอรี่ จะเบนเข็มมาชิงชัยในตลาดคอนซูเมอร์มากขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งในแง่การออกแบบผลิตภัณฑ์และคุณสมบัติ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถพกพาโทรศัพท์มือถือเครื่องเดียวแต่สามารถจัดการงานได้ทุกสไตล์
       
       7 รูโหว่ซีเคียวริตี้
       
       ปี 2010 เป็นปีที่มีรายงานข่าวช่องโหว่เรื่องความปลอดภัยในสมาร์ทโฟนบ่อยครั้ง แม้จะไม่มีรายงานความเสียที่ร้ายแรง แต่เชื่อกันว่าปี 2011 สมาร์ทโฟนจะกลายเป็นเค้กก้อนใหญ่ที่อาชญากรตัวร้ายจ้องมองตาเป็นมัน โดยแนวโน้มนี้จะทำให้บริษัทการรักษาความปลอดภัยในคอมพิวเตอร์ หันมาดูแลตลาดสมาร์ทโฟนอย่างขมีขมันมากขึ้นกว่าทุกปีแน่นอน
       
       8 ประสบการณ์ท่องเน็ตที่จำกัด
       
       เชื่อขนมกินได้เลยว่าปี 2011 จะเป็นปีแห่งการท่องอินเทอร์เน็ตบนหน้าจอสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตอย่างแท้จริง ดังนั้นแพลตฟอร์มใดที่เคยมีข้อจำกัดเรื่องการท่องเน็ต ทั้งแง่ของการแสดงผลหรือการเข้าถึง จะถูกพัฒนาให้มีข้อจำกัดน้อยลงในปีนี้
       
       9 ไม่มี 3G
       
       แม้เมืองไทยจะยังไม่สามารถให้บริการ 3G ได้เต็มตัว แต่สมาร์ทโฟนทุกเครื่องที่จำหน่ายในประเทศไทยปี 2011 จะมาพร้อมเทคโนโลยี 3G แน่นอน
       
       10 ระบบปฏิบัติการหน้าตาเชย
       
       ฟันธงว่าสิ่งสุดท้ายที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนจะต้องการในปี 2011 คือระบบปฏิบัติการที่มีหน้าตาอินเทอร์เฟซแสนเชย นี่เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ไมโครซอฟท์ต้องเปลี่ยน Windows Mobile มาเป็น Windows Phone 7 รวมถึงการคลอด BlackBerry OS 6 ของอาร์ไอเอ็มที่มาแทน OS 5 เมื่อปีที่ผ่านมา
       
       ปี 2011 ยังเป็นปีที่หลายคนเชื่อว่าหน้าตาของระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจะถูกพัฒนายิ่งขึ้นไปอีก เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับความรู้สึกที่เหนือกว่าคู่แข่ง แม้ว่าสินค้าของคู่แข่งจะถูกผลิตในโรงงานเดียวกันก็ตาม.


ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
2755 Views
Last post September 25, 2009, 01:04:09 AM
by IT
0 Replies
3373 Views
Last post October 27, 2009, 01:04:13 AM
by Nick
0 Replies
3499 Views
Last post November 09, 2010, 09:51:05 PM
by Nick
0 Replies
1961 Views
Last post December 16, 2010, 07:40:56 PM
by Nick
0 Replies
2590 Views
Last post December 29, 2010, 01:45:44 AM
by Nick
0 Replies
2011 Views
Last post January 06, 2011, 11:26:38 AM
by Nick
0 Replies
3150 Views
Last post January 28, 2011, 02:49:07 PM
by Nick
0 Replies
1840 Views
Last post February 02, 2011, 01:33:15 PM
by Nick
0 Replies
1501 Views
Last post September 02, 2013, 12:42:24 PM
by Nick
0 Replies
1345 Views
Last post December 20, 2015, 09:03:51 AM
by Nick