“พีเค” แอบเซ็ง “น้องใหม่” เตรียมบินเรียนต่อญี่ปุ่นปีหน้า แต่พร้อมสนับสนุนเพื่ออนาคตของแฟนสาว มั่นใจไร้ปัญหาเรื่องการติดต่อสื่อสาร แต่ถ้ารักแท้จะแพ้ระยะทางก็รับได้ เพราะเคยเกิดขึ้นมาแล้ว
ปกติจะเห็นพิธีกรหนุ่ม “พีเค ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร” ร่าเริงแจ่มใส แต่พักหลังมานี้ยิ่งใกล้วันที่แฟนสาวนักศึกษาอย่าง “น้องใหม่” ต้องไปเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่นในเดือนมีนาคมปี 54 ก็แอบเห็นเจ้าตัวเหงาหงอยไปเหมือนกัน แต่ก็ใจแข็งบอกว่าพร้อมที่จะสนับสนุนหวานใจ ที่จะต้องไปเรียนเพื่อกลับมาสานต่อธุรกิจของครอบครัว มั่นใจไม่มีปัญหาเรื่องการติดต่อสื่อสารข้ามประเทศ
“ความรักตอนนี้ก็ดีครับ ยังกินข้าว ช้อบปิ้งด้วยกันอยู่ปกติ แต่เร็วๆ นี้น้องเขากำลังจะไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นครับ ไปเดือนมีนาคมนี้ มีพูดรั้งไว้ไหมเหรอ ยังไม่ถึงเวลาหรอกครับ ผมไม่ชอบขโมยเวลาของปัจจุบันไปให้อนาคต เพราะเดี๋ยวพอเวลาอนาคตมาถึงเราจะไม่เหลืออดีตให้คิดถึง แต่ถ้าถามว่าเหงาไหมก็ต้องเหงาสิ แต่ก็ต้องทำใจให้เขาไปเจออนาคตที่ดีกว่าเพื่อที่จะได้กลับมา อีกอย่างเขาเป็นพี่คนโตด้วยครับ เขาก็จะได้กลับมาพัฒนาธุรกิจของครอบครัว ซึ่งก็น่าจะใหญ่อยู่ หรืออาจจะหาเส้นทางความฝันของเขาเอง อันนี้ก็แล้วแต่”
“เรื่องจะติดต่อกันไม่มีปัญหาอยู่แล้วครับ อย่างพวก face time หรือ Skype แล้วยังมี Face book มันมีวิธีการติดต่อเยอะแยะครับเดี๋ยวนี้ แต่ถ้าเป็นสมัยก่อนมันก็ไม่ค่อยมีอ็อพชั่นเยอะอย่างนี้หรอก สมัยที่ผมรักข้ามทวีปกันใหม่ๆ ทุกอย่างเป็นการเขียนจดหมายด้วยปากกา แต่อันนั้นมันก็เป็นอะไรที่สัมผัสจับต้องได้นะ เอามาอ่านตอนนี้ 10-20 ปีทีหลังก็มาคิดว่า สมัยก่อนเราก็เป็นคนที่ซึ้งเหมือนกันนะ”
บอกไม่เคยกลัวเรื่องรักแท้แพ้ระยะทาง เพราะเคยเจอความเสียใจอย่างนี้มาเยอะแล้ว ถ้าจะต้องโดนอีกทีก็ยอมรับได้
“กลัวรักแท้แพ้ระยะทางหรือเปล่า คือเราก็ผ่านความชอกช้ำระกำใจความเสียใจมาเยอะแล้วครับ เพราะฉะนั้นถ้ามันเกิดขึ้นมันก็ไม่ใช่ครั้งแรก ไม่ใช่แผลแรกที่เคยโดน เพราะฉะนั้นถามว่าชอบไหม ไม่ชอบหรอก แต่ยอมรับมันได้ไหม ก็ยอมรับได้”
อุบฝ่ายหญิงเป็นคนที่ใช่แล้ว เพราะอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน
“คนนี้ใช่หรือยัง คำว่าใช่มันแล้วแต่ช่วงเวลา เพราะผมรู้สึกว่ากาลเวลาและสถานที่ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปได้เสมอ เพราะฉะนั้นอย่ายึดติดอะไรกับอนาคตมาก ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก่อนดีกว่า ถ้าถามถึงเรื่องจะมีครอบครัว ก็ยังครับ บ้านผมยังผ่อนไม่หมดเลย ผมมีความฝันอยู่ไม่กี่อย่าง คือผ่อนบ้านให้หมด แล้วก็ซื้อซุปเปอร์คาร์ ชีวิตมีแค่นี้(หัวเราะ) คือเราทำงานเรารู้เราขยันมาก เรามีตังค์ให้พ่อแม่ เราเลี้ยงตัวเองได้ เลี้ยงพ่อแม่ได้ ทุกคนรอบกายเราปลอดภัยแข็งแรง มีความสุข ไม่เบียดเบียนใคร แล้วผมเป็นคนที่รักรถมาก ความฝันตลอดก็คืออยากได้ซุปเปอร์คาร์แค่นี้เองชีวิตนี้”
“แต่ถึงทำฝันได้เสร็จ ก็ยังไม่รู้ว่าจะพร้อมแต่งเลยหรือเปล่าด้วยนะ อันนี้ยังไม่รู้ เอาให้ได้ถึงซุปเปอร์คาร์ก่อนค่อยคุยกัน จะบอกว่างานแต่งงานเป็นเรื่องง่าย ถ้าใจคุณพร้อม ทุนทรัพย์คุณพร้อม เซ็นกิ๊กๆ ที่อำเภอ จบแล้วคุณก็เป็นสามีภรรยากัน มันไม่ใช่เรื่องยาก แต่ทำยังไงให้หลังชีวิตแต่งงานอยู่อย่างเป็นสุข ทำยังไงไม่ให้คนที่เราต้องดูแลตลอดชีวิตไม่ต้องลำบาก บ้านผมไม่ต้องผ่อนแล้ว รถก็มี คอนโดก็มี เราหาเองมาด้วยน้ำพักน้ำแรงตลอด 10 ปีที่อยู่ในวงการ เพราะฉะนั้นอยากให้เขาสบาย ฉะนั้นการแต่งงานไม่ใช่เรื่องยากเลยครับ แต่ความฝันผมเป็นเรื่องยากกว่า(หัวเราะ)”
ที่มา: manager.co.th