“ต๊อก ศุภกรณ์” โชคดีทำกระเป๋าสตางค์หล่นหายบนแท็กซี่ คนขับเอาเอทีเอ็มไปกดเงินแล้ว แต่สำนึกผิดกลับใจนำมาคืน 53,000 บาท เจ้าตัวชมคนขับแท็กซี่มีจิตสำนึกเป็นคนดี บอกการได้เงินคืนถือเป็นของขวัญวันเกิดที่ได้จากเทวดา ลั่นได้ข้อคิดต่อไปจะตั้งรหัสเอทีเอ็มใหม่ไม่ใช้ปีเกิดแล้ว
เรียกว่าโชคดีรับวันเกิดจริงๆ สำหรับดาราหนุ่ม “ต๊อก ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ” ที่ทำกระเป๋าสตางค์หล่นหายบนรถแท็กซี่เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา และคนขับได้นำเอทีเอ็มของดาราหนุ่มไปทดลองกดเงิน โดยลองรหัสเป็นปีเกิด ปรากฏใช้ได้จึงถอนเงินออกมาทั้งหมด 56,800 บาท แต่เมื่อใช้ไปแล้ว 3,800 บาท เกิดรู้สึกสำนึกผิดและกลับใจนำเงินที่เหลือจำนวน 53,000 บาทมาคืนให้หนุ่มต๊อก ผ่านทางสถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.FM91 โดยเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา (28 ธ.ค.) ดาราหนุ่มได้เดินทางมารับเงินจำนวนดังกล่าวคืนเรียบร้อยแล้ว พร้อมเล่ารายละเอียดในวันเกิดเหตุให้ฟังว่า ตนถ่ายละครติดกันหลายวันจนรู้สึกไม่สบายและง่วง จึงโบกรถแท็กซี่เพื่อไปร่วมงานสังสรรค์กับเพื่อนฝูงย่านทาวน์อินทาวน์แทนการขับรถเอง แต่ปรากฏกระเป๋าสตางค์หล่นหายไม่รู้ตัว
“วันนั้นผมมีความรู้สึกว่าง่วง เดี๋ยวขากลับจะมีปัญหาเลยเอารถไปจอดไว้ที่บ้าน แล้วเดินออกมาปากซอย มาโบกรถแท็กซี่เพื่อที่จะไปที่งาน ระยะทางก็ไม่ไกลจากเกษตร-นวมินทร์ไปทาวน์อินทาวน์ พอขึ้นรถแท็กซี่แล้วผมก็เอากระเป๋าสตางค์ใส่ไว้ในถุงใส่ของเอนกประสงค์ของผม พอใส่ปุ๊บผมก็นอนหงายหลับไป สะดุ้งตื่นอีกทีก็ถึงทาวน์อินทาวน์แล้ว”
“พอลงจากรถกระเป๋าสตางค์คงจะร่วงหล่นลงไปในรถ เราก็เลยหากระเป๋าสตางค์ไม่เจอ แต่พอล้วงกระเป๋ากางเกงตัวเองมีแบงค์ร้อยอยู่ 3-4 ใบ ก็เลยให้เงินแท็กซี่ไป แล้วเข้าไปในร้าน ซึ่งระหว่างที่เราเลี้ยงสังสรรค์อย่างมีความสุขอยู่ ก็มี SMS เข้ามาที่โทรศัพท์ว่ามีเงินถอนออกจากบัญชี 5800 บาท ตอนแรกผมก็คิดว่าคงเป็นการหักค่าบ้าน ก็ไม่ได้สนใจอะไร พอทิ้งไประยะประมาณ 5-6 นาทีก็มี SMS เข้ามาอีกถอนไป 1 หมื่น พอถึง 1 หมื่นผมเลยแน่ใจว่าต้องมีคนที่ผมรู้จักกดเอทีเอ็มไปแน่ เลยโทรอายัดบัตรและแจ้งความ"
ชมคนขับแท็กซี่มีจิตสำนึกเป็นคนดี เผยการได้เงินคืนถือเป็นของขวัญวันเกิดที่เทวดานำมามอบให้
“พอเขาเอามาคืนก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนดี จริงๆ แล้วในมนุษย์ทุกคนก็ต้องมีการใช้เงินเพื่อดำรงชีวิต นั่นเป็นสิ่งสำคัญ แต่สุดท้ายแล้วเขาคิดว่าเงินไม่ใช่ของเขา ผมว่าจิตสำนึกจริงๆ ของเขาไม่ใช่คนเลว เขาเป็นคนดีมากครับ”
“ก็ถือว่าเป็นของขวัญวันเกิด (28 ธ.ค.) ของผม ซึ่งการที่ได้เงินคืนมาก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายๆ ก็ถือว่าเป็นของขวัญจากเทวดานำมามอบให้ และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผมเองมีความคิดในการดำรงชีวิตต่อไปก็คือ ในการจะใช้บัตรเอทีเอ็ม เราก็ควรจะมีการตั้งรหัสที่มันแตกต่างออกไป เหมือนกับที่ทางแบงค์เคยเตือนไว้แล้ว”
ที่มา: manager.co.th
