เป็นอีกปีที่มีสีสันไม่น้อยทีเดียวสำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในแวดวงวงการละครไทยตลอดระยะเวลาปี 2553 นี้
เริ่มกันตั้งแต่ช่อง 3 ที่ต้องบอกว่าหวือหวากว่าใครเพื่อน โดยเฉพาะการได้พระเอกชื่อดังจากวิกหมอชิต “ป๋อ ณัฐวุฒิ” มาอยู่ด้วย ซึ่งก่อนที่จะมีการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการนั้น ข่าวคราวเกี่ยวกับการย้ายค่ายของหนุ่มป๋อนั้น มีคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และกินเวลานานนับเดือนเลยทีเดียว
ขณะที่ในส่วนของละครนั้น ช่อง 3 เองยังคงเน้นดาราในแต่ละเรื่องชนิดที่ต้องเรียกว่า “ล้นจอ” และก็ดูเหมือนปีนี้จะเป็นปีทองของละครช่อง 3 อย่างแท้จริง เนื่องจากผลการสำรวจที่สุดบันเทิงแห่งปี 2553 ของเอแบคโพลล์ในส่วนของละครนั้น ปรากฏว่าเป็นละครช่อง 3 ที่กวาดอันดับ 1 ไปจนถึงอันดับที่ 3 ไปครองทั้งหมด ไล่ไปตั้งแต่ ธาราหิมาลัย, วนิดา และ 365 วันแห่งรัก
มากันที่ช่อง 5 ผลงานละครส่วนใหญ่ก็ยังคงเป็นผลผลิตจากค่ายซิเนริโอเป็นแกนหลัก โดยที่เรื่องที่ถูกพูดถึงมากที่สุดก็เห็นจะเป็น “มาลัยสามชาย” ซึ่งติดอยู่ในอันดับที่ 4 จากผลการสำรวจที่สุดบันเทิงแห่งปี 2553 ของเอแบคโพลล์ด้วยเช่นกัน
ส่วนที่เป็นข่าวฮือฮาเกี่ยวกับแวดวงละครของช่อง 5 ก็คงจะเป็นการที่ทาง ผอ.ของช่อง พลโท ฉัตรชัย สาริกัลป์ยะ ที่ได้ออกมาเปิดเผยในการปรับผังของช่องว่าปีหน้าช่อง 5 จะพยายามลดละครน้ำเน่าประเภทตบตี รวมถึงระมัดระวังในการปรากฏตัวของเพศที่ 3 ให้มากขึ้นนั่นเอง
ช่อง 7 ปีนี้มีแต่ข่าวที่ไม่ค่อยจะดีนัก ทั้งการเสีย ป๋อ ณัฐวุฒิ ให้กับช่อง 3 รวมไปถึงข่าวฉาวๆ ที่เกี่ยวกับนักแสดงในสังกัด เช่น เรื่องเมาของหนุ่ม “เวียร์ ศุกลรัตน์” การมีปัญหากับสื่อ ของ “แตงโม ภัทรธิดา” รวมไปถึงกรณีการตกเป็นมือที่ 3 ของนางเอกสาวตาคม “พิ้งกี้ สาวิกา” กระทั่งทางช่องต้องออกมาชิงให้ข่าวว่าไม่ต้องการที่จะต่อสัญญากับนักแสดงหญิงที่กำลังจะหมดลง นอกจากนี้ ก็ยังมีเรื่องของการประสบอุบัติเหตุไม่ว่าจะเป็นในรายของ “กระติ๊บ ชวัลกร” จากละครเรื่อง “คุณพ่อหวานแหวว” และ “ทับทิม อัญรินทร์” ธีราชนันพัฒน์ จากละคร “คุณชายตำระเบิด”
แต่ถึงแม้ข่าว “ไม่ดี” จะเยอะ ละครไม่หวือหวา แต่ช่อง 7 ก็ยังเป็นช่อง 7 ที่ยังคงกินเงียบๆ เนื่องจากมีตลาดใหญ่อยู่ที่แม่บ้านต่างจังหวัดเป็นสำคัญ และนั่นเองจึงไม่น่าแปลกใจที่ว่าทำไมละครอย่าง “นักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว” รวมไปถึงละครหัวค่ำอย่าง “คุณชายตำระเบิด” ถึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องหลังนั้นต้องบอกว่ามากันแบบหลายคนคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
ไปกันที่โมเดิร์นไนน์ ทีวี แม้จะมีความพยายามเหมือนปีก่อนๆ ในการนำละครที่มีความแปลกแตกต่างไปจากตลาดละครของช่อง 3, 5, 7 รวมถึงการนำเอาซีรีย์จากประเทศในแถบเอเชียมาฉาย และพยายามเข้าไปมีส่วนร่วมกับประเทศเกาหลีในการผลิตซีรีย์ร่วมกัน ทว่า กระแสที่ออกมาต้องบอกว่าค่อนข้างจะเงียบ มีเพียงแฟนบางกลุ่มซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นแฟนคลับของดาราหรือว่านักร้องที่มาร่วมแสดงในละครเรื่องนั้นๆ เท่านั้นที่ให้ความสนใจ
ไม่ต่างอะไรไปจากทีวีไทยที่แม้จะมีละครไทย-ซีรีย์ที่ดี มีสาระ ทั้ง ผีเสื้อและดอกไม้, หัวใจอุ่นรัก, ส.อ.ว.ห้อง 2 รุ่น 44, บ้าบ๋า ย่าหยา, จินหมอทะลุมิติ, ซูสีไทเฮา มาฉาย ทว่า ก็ดูจะไม่สามารถขยายตลาดไปได้มากกว่าที่เป็นแฟนๆ ของช่องนี้อยู่
สรุปภาพรวมของเนื้อหาของวงการละครไทยในปี 2553 เองก็มิได้แตกต่างอะไรมากนักจากปีที่ผ่านๆ มา นั่นคือที่ยังได้รับความนิยมส่วนใหญ่ก็ยังวนเวียนอยู่กับกลิ่นคาวน้ำเน่าเป็นหลัก ขณะที่แต่ละช่องต่างก็มีแฟนที่ค่อนข้างจะประจำอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ข่าวหนึ่งที่ดูน่าสนใจทีเดียวเกี่ยวกับแวดวงละครไทยในรอบปี 2553 ก็คือ การที่มีข่าวเกี่ยวกับละครไทยบางส่วนที่ไปสร้างชื่อเสียงยังประเทศจีน กระทั่งทำให้อาหมวยอาตี๋ที่นั่นเกิดความคลั่งไคล้ดารานักแสดงไทยขึ้นมา ขณะที่ทางรัฐบาลโดยตัวนายกรัฐมนตรีเองก็ได้ถือโอกาสไปเยือนประเทศจีน เพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 16 ณ นครกวางโจว ทำการลงนามบันทึกความตกลงและความตั้งใจร่วมกันเพื่อส่งเสริมให้ละครไทยได้ไปเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ CCTV และสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นตามมณฑลต่างๆ ของจีนมากขึ้นอีกด้วย
ก็คงจะต้งองจับตาดูกันว่าในปี 2554 ที่จะถึงนี้ละครไทยเราจะสามารถจะไปตีตลาดแดนมังกรได้มากน้อยเพียงใด
ผีเสื้อและดอกไม้
ที่มา: manager.co.th
