Author Topic: วิไลลักษณ์ซื้อหุ้น SAMART คืน สร้างความคล่องตัวรุกธุรกิจเทคโนโลยี  (Read 1006 times)

0 Members and 1 Guest are viewing this topic.

Offline Nick

  • Administrator
  • Platinum Member
  • *
  • Posts: 46027
  • Karma: +1000/-0
  • Gender: Male
  • NickCS
    • http://www.facebook.com/nickcomputerservices
    • http://www.twitter.com/nickcomputer
    • Computer Chiangmai


แฟ้มภาพ - นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น ทุ่ม 1,000 กว่าล้าน ซื้อหุ้นคืนจากกลุ่ม AXIATA

ตระกูลวิไลลักษณ์ทุ่ม 1,000 กว่าล้าน ซื้อหุ้นคืนจากกลุ่ม AXIATA เฉพาะสามารถคอร์ปอเรชั่น เพิ่มความคล่องตัวลุยธุรกิจเทคโนโลยีปีหน้า ระบุความสัมพันธ์ยังแน่นแฟ้น การลงทุนในไอ-โมบายไม่มีการเปลี่ยนแปลง
       
       นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ สามารถคอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า สาเหตุที่ตนเองและครอบครัวได้ตัดสินใจซื้อหุ้นของบริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่นคืนจากกลุ่ม AXIATA ซึ่งเดิมคือ เทเลเคอมมาเลเซีย ตั้งแต่ปี 2540 จำนวนทั้งสิ้น 185,269,420 หุ้นคิดเป็น18.9% ของหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมด โดยข้อตกลงในการซื้อขายหุ้นครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างกลุ่มสามารถและกลุ่ม AXIATA อย่างแน่นอน อีกทั้งกลุ่ม AXIATA ยังคงถือหุ้นในกลุ่มสามารถไอ-โมบายจำนวน 24.4% และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจร่วมกันอย่างต่อเนื่อง
       
       ส่วนที่มาของข้อตกลงการซื้อขายหุ้นครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากกลุ่ม AXIATA มีนโยบายมุ่งเน้นการขยายธุรกิจใน Core Business ทางด้าน Mobile Communications Business เป็นหลัก ในขณะที่ทาง บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น กำลังมีการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ครอบคลุมทางด้านเทคโนโลยีที่หลากหลาย ไม่จำกัดอยู่เฉพาะด้าน Telecom หรือ Mobile ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องไปกับวิสัยทัศน์ที่วางไว้ คือ การเป็นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของไทย
       
       นายวัฒน์ชัย กล่าวว่า AXIATA มิได้เป็นเพียงแค่ผู้ถือหุ้น แต่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีกับทางกลุ่มสามารถมาโดยตลอด เพราะกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เราได้เรียนรู้และได้ประสบการณ์มากมายจากการทำงานร่วมกัน โดยปัจจุบันกลุ่ม AXIATA ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบมจ. สามารถไอ-โมบาย จำนวน จำนวน 1,050,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 24.4% ของหุ้นที่จำหน่ายได้
       
       “ผมจึงเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรทั้งสองจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง และจะมีโครงการความร่วมมือทางธุรกิจตามมาอีกมากมาย”
       
       นายวัฒน์ชัย กล่าวอีกว่า การซื้อหุ้นในครั้งนี้ จะทำให้กลุ่มสามารถฯ มีความคล่องตัวในการขยายธุรกิจใหม่ๆ ทางด้านเทคโนโลยีมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ เช่น ธุรกิจทางด้านบริการสาธารณะและโครงการพื้นฐาน ซึ่งบริษัทฯ มีความสนใจและเล็งเห็นถึงโอกาสการเติบโตทางธุรกิจที่ชัดเจน โดยผลจากความคล่องตัวในการบริหารงานที่สูงขึ้น ย่อมส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจและผลตอบแทนสู่ผู้ถือหุ้น
       
       “การเข้าซื้อหุ้นคืนครั้งนี้จะช่วยให้การตัดสินใจในโครงการต่างๆ ที่ทางกลุ่มสามารถจะดำเนินการในปีหน้า มีความคล่องตัวขึ้น ทำให้ไม่ต้องรอการอนุมัติจากทาง AXIATA จึงเปรียบเสมือนการลงทุนระยะยาว ซึ่งก็เป็นการสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผมและครอบครัวที่มีต่ออนาคตการเติบโตทางธุรกิจของกลุ่มสามารถฯ”
       
       หลังการซื้อขายหุ้น ครอบครัววิไลลักษณ์จะถือครองหุ้นใน บมจ. สามารถคอร์ปอเรชั่น รวม 512,244,370 หุ้น คิดเป็น 53.12% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
       
       Company Related Link :
       SAMART

ที่มา: manager.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)