Author Topic: "เน็ตบุ๊ก" สกัดขา "ไมโครซอฟท์" "ไอโฟน" ตัวช่วย "แอปเปิล"  (Read 2038 times)

0 Members and 2 Guests are viewing this topic.

Offline Reporter

  • Moderator
  • Gold Member
  • *
  • Posts: 1093
  • Karma: +8/-0
  • Gender: Male
    • ซ่อมคอมเชียงใหม่

คอลัมน์ Clickworld
 
"เน็ตบุ๊ก" หรือมินิโน้ตบุ๊ก ราคาประหยัด ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน กำลังเป็นศัตรูทางอ้อมที่สร้างความเจ็บช้ำให้กับพี่ใหญ่แห่งวงการพีซีอย่าง "ไมโครซอฟท์"

จากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับผลประการบริษัทซอฟต์แวร์เบอร์ 1 ของโลก โดยมีรายได้ลดลง 5.6% หรือ 13.65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจาก 14.45 พันล้านสหรัฐ ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา และที่สำคัญคือกำไรสุทธิของไมโครซอฟท์ร่วงลงถึง 32% เหลือเพียง 2.98 พันล้านดอลลาร์

โดย 4 ใน 5 กลุ่มธุรกิจไมโครซอฟท์มียอดขายต่ำลง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจวินโดวส์ที่เป็นคีย์สำคัญของไมโครซอฟท์มียอดขายลดลง 16%

ผู้บริหารระดับสูงของไมโครซอฟท์ยอมรับว่า การลดลงครั้งนี้เป็นผลมาจากการใช้จ่ายเพื่อซื้อพีซีทั้งกลุ่มคอนซูเมอร์และคอร์ปอเรตลดลง จากรายงานของการ์ดเนอร์ระบุว่า 3 เดือนแรกของปีนี้ ยอดขาย พีซีทั่วโลกลดลง 6.5%

นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ ยังต้องเผชิญกับโจทย์ท้าทายใหม่อย่าง "เน็ตบุ๊ก" ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นเซ็กเมนต์เดียวในตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และกินสัดส่วนของยอดขายพีซีในตลาดรวมทั่วโลกถึง 10%

"คริส ลิดเดลล์" ซีเอฟโอไมโครซอฟท์ เชื่อว่าเน็ตบุ๊กไม่ได้มีบทบาทเข้ามาขโมยยอดขายของไมโครซอฟท์ให้หายไปมากนัก และหากไม่มีตลาดเน็ตบุ๊ก อาจจะทำให้ยอดขายของกลุ่มวินโดวส์ลดลงรุนแรงมากกว่านี้

ขณะที่ "บิล โคลว์โฟลว์" ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า ปัจจุบันเน็ตบุ๊กในตลาดส่วนใหญ่ ใช้ระบบปฏิบัติการวินโดวส์เอ็กซ์พีโฮม ซึ่งไมโครซอฟท์จำหน่ายชุดระบบปฏิบัติการเอ็กซ์พีให้แก่ผู้ผลิตเน็ตบุ๊ก ราคาประมาณ 15 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ วิสต้าพรีเมี่ยม ราคาจะอยู่ที่ 50-60 ดอลลาร์สหรัฐ

"เน็ตบุ๊กที่จำหน่ายสู่ตลาด หมายถึง รายได้ที่ลดลงของไมโครซอฟท์ และท้ายสุดคือกำไรที่ลดลงตามมา"

ขณะที่บริษัทคู่แข่งในตลาดอย่าง "แอปเปิล" กลับมีผลประกอบการตรงข้าม เพราะยอดขายไอโฟนที่เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า ช่วยกระตุ้นรายได้ของแอปเปิลในไตรมาสนี้โต 8.7% ด้วยมูลค่า 8.16 พันล้านดอลลาร์ จาก 7.51 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่กำไรสุทธิ 1.21 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปี ที่ผ่านมากำไร 1.05 พันล้านดอลลาร์

ยอดขายไอโฟนที่เพิ่มขึ้น 123% หรือ 3.79 ล้านเครื่อง ทำให้แอปเปิลมีแผนที่จะขยายตลาดไอโฟนไปเมืองจีนภายในปีนี้ด้วย

"ไบรอัน มาร์เชล" นักวิเคราะห์จาก AmTech กล่าวว่า การทำตลาดไอโฟนในจีนนั้น คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือน พ.ค.นี้ เมื่อไชน่า ยูนิคอม ซึ่งมีผู้ใช้บริการมือถือกว่า 150 ล้านคน อัพเกรดเป็นเครือข่าย 3 จี เรียบร้อย

แต่ในทางกลับกัน สำหรับคอมพิวเตอร์ "แมคอินทอช" แอปเปิลไม่สามารถทนแรงต้านทานจากภาวะเศรษฐกิจที่คอนซูเมอร์และภาคธุรกิจต่างอยู่ในภาวะรัดเข็มขัดได้ ทำให้ยอดขายเครื่องแมคลดลง 3% โดยมียอดขายอยู่ที่ 2.22 ล้านเครื่อง

"เอซรา กอตตาอิล" นักวิเคราะห์จากเทคโนโลยี บิสซิเนส รีเสิร์ช กล่าวว่า ตลาดคอมพิวเตอร์แมคของแอปเปิลกำลังตกอยู่ในช่วงเวลาลำบาก จากยอดขายที่ลดลง โดยเฉพาะกลุ่มโรงเรียนและครีเอทีฟ มืออาชีพ ซึ่งเป็นลูกค้ารายสำคัญลดการซื้อสินค้า ขณะที่เซ็กเมนต์เดียวที่มีการเติบโตอยู่ในปัจจุบันคือเน็ตบุ๊ก ซึ่งแอปเปิลไม่มีสินค้าวางจำหน่าย

และในขณะที่พีซีที่ใช้ระบบปฏิบัติการ วินโดวส์ สามารถหาซื้อในราคาเพียงไม่กี่ร้อยดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีราคาถูกกว่าเครื่องแมคมาก ในช่วงเวลาเศรษฐกิจขาลงเช่นนี้ จึงทำให้ลูกค้าเปลี่ยนใจไปซื้อพีซีแทน

"ทิม คุก" ซีโอโอของแอปเปิล กล่าวว่า "บริษัทยังไม่มีแผนที่จะเข้าตลาดโลว์เอนด์ เพราะยังไม่มีพื้นที่ไหนในตลาดที่เราสนใจ และแอปเปิลจะไม่ผลิตคอมพิวเตอร์ที่เรา ไม่ภูมิใจด้วย"

อย่างไรก็ตาม ข่าวที่สร้างความตื่นเต้นให้กับบรรดานักลงทุนมากที่สุดในวันแถลงผลประกอบการ คือข่าวอดีตซีอีโอ "สตีฟ จ็อบส์" อาจจะกลับมามีบทบาทอีกครั้งในเดือน มิ.ย.นี้ หลังจากไปพักรักษาตัว

ที่มา: matichon.co.th


 
Share this topic...
In a forum
(BBCode)
In a site/blog
(HTML)


Related Topics

  Subject / Started by Replies Last post
0 Replies
7259 Views
Last post February 14, 2009, 12:00:18 AM
by Webmaster
0 Replies
5998 Views
Last post March 03, 2009, 06:05:12 PM
by Reporter
0 Replies
2690 Views
Last post March 06, 2009, 11:17:31 PM
by Reporter
0 Replies
2593 Views
Last post March 10, 2009, 08:43:28 AM
by Reporter
0 Replies
2481 Views
Last post March 23, 2009, 11:59:20 PM
by Reporter
0 Replies
2859 Views
Last post April 02, 2009, 04:30:45 PM
by Reporter
0 Replies
2225 Views
Last post April 27, 2009, 01:13:51 PM
by Reporter
0 Replies
2311 Views
Last post April 29, 2009, 11:26:27 AM
by Reporter
0 Replies
4964 Views
Last post May 03, 2009, 05:52:53 PM
by IT
0 Replies
4130 Views
Last post May 08, 2009, 03:41:02 AM
by Reporter