โบรเคด วีดีเอ็กซ์ 6720 ดาต้าเซ็นเตอร์ สวิตช์ ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ในตระกูล 10 กิกะบิต
โบรเคดประกาศท้าชนซิสโก้ หลังเปิดไอพีสวิตซ์รุ่นใหม่ที่เป็นเวอร์ชัวรไลเซชันสำหรับตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ตามแนวโน้มโลก ระบุชัดตลาดไทยมีศักยภาพสูง เตรียมตั้งบริษัทต้นปีหน้า หวังสร้างความเชื่อมั่นลุูกค้า
นางจีน่า ตัง ผู้อำนวยการขายประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท โบรเคด คอมมิวนิเคชั่่น สิงคโปร์ จำกัด กล่าวว่า นับตั้งแต่ที่บริษัทได้เข้าซื้อกิจการ "ฟาวดี้" ผู้นำตลาดในส่วนของไอพีสวิตชิ่งและเราเตอร์เมื่อปี 2551 เพื่อผนึกกับความแข็งแกร่งของโบรเคดเดิมในตลาดสตอเรจเน็ตเวิร์กที่เรียกว่า SAN โดยมีมูลค่าตลาดรวมทั่วโลกอยู่ที่ 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ทางโบรเคดครองส่วนแบ่งตลาดนี้ประมาณ 80-85% และมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 16-18% ต่อปี พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ในตลาดที่ผนึกจุดแข็งทั้งสองเข้าด้วยกัน จนเมื่อกลางปีที่ผ่านมา โบรเคดได้เปิดตัว "โปรเคด วัน" ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมและกลยุทธ์บริหารจัดการเน็ตเวิร์กแบบครบวงจรในลักษณะการ ทำงานแบบเวอร์ชวรไลเซชันผ่านระบบคลาวด์คอมพิวติ้งเป็นรายแรกๆ
ล่าสุด โบรเคดได้เปิดตัว โบรเคด วีดีเอ็กซ์ 6720 ดาต้าเซ็นเตอร์ สวิตช์ ซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ในตระกูล 10 กิกะบิต อีเธอร์เน็ต เพื่อสร้าง Ethernet fabric ที่แท้จริงเป็นรายแรก โดยสวิตช์ดังกล่าวช่วยลดความจำเป็นในการใช้เอสทีพี (Spanning Tree Protocol) โดยลดระดับการเข้าถึงข้อมูลให้น้อยลงเพื่อสร้างเครือข่ายที่เป็น มัลติพาร์ทซึ่งเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมเสมือนจริงหรือเวอร์ชวร์ไลเซชัน ทำให้เครือข่ายมีความยืดหยุ่นและลดความซับซ้อนในการจัดการเครือข่ายดาต้า เซ็นเตอร์
"มีการคาดการณ์ว่า จำนวนดิจิตอลดาต้าที่เกิดจากบุคคลทั่วๆ ไปจะมีมากกว่า 900 เอกซ์ตร้าไบต์ แต่ในอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้าจะมีจำนวนดิจิตอลดาต้าเกิดขึ้นมากกว่า 35 เซดตร้าไบต์ ขณะที่อัตราการเติบโตของอุปกรณ์ที่เป็นเวอร์ชวร์จะเพิ่มขึ้น 10 เท่าในอีก 2 ปีข้างหน้า"
นางจีน่า ตัง กล่าวว่า ภายในสิ้นปีนี้ กว่าครึ่งหนึ่งของปริมาณงานในระบบไอทีจะหันมาใช้การทำงานแบบเวอร์ชัวร์ และขยับเพิ่มเป็น 70% เมื่อถึงสิ้นปี 2556 ซึ่งทางโบรเคดเล็งเห็นถึงแนวโน้มดังกล่าวจึงเป็นสาเหตุที่โบรเคดเข้าซื้อกิจ การฟาวดี้มาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
สำหรับตลาดประเทศไทยนั้น นางจีน่า มองว่า ไทยถือเป็นประเทศสร้างรายได้ให้กับโบรเคดในภูมิภาคนี้เฉพาะตลาด SAN ประมาณ 15% ขณะที่ตลาดไอพีสวิตชิ่งในประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดใหม่ของโบรเคดสามารถสร้างรายได้กว่า 40% ของรายได้ไอพีสวิตชิ่งในภูมิภาคนี้ และเพื่อที่จะสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าของโบรเคดในประเทศไทยว่า โบรเคดตั้งใจทำตลาดในระยะยาวจึงได้เข้ามาตั้งสำนักงานสาขาขึ้นในประเทศไทย และกำลังอยู่ในระหว่างจดทะเบียนตั้งเป็นบริษัท โบรเคด ประเทศไทย จำกัด
"คาดว่าการจดทะเบียนเป็นบริษัทจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสแรกปีหน้าอย่างแน่นอน โดยจะมีตั้งแต่ทีมขาย ทีมการตลาด รวมไปถึงทีมซัพพอร์ตทางด้านเทคนิค ไม่ใช่มีแต่เฉพาะทีมขายอย่างเดียว นอกจากนี้ยังได้แต่งตั้งให้นายสุรศักดิ์ เหรียญประกายแสง จากตำแหน่งผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท โบรเคด คอมมิวนิเคชั่่น สิงคโปร์ จำกัดดำรงตำแหน่งใหม่เป็นผู้จัดการ บริษัท โบรเคด ประเทศไทย จำกัด"
นายสุรศักดิ์ เหรียญประกายแสง ผู้จัดการ บริษัท โบรเคด ประเทศไทย จำกัด ได้กล่าวถึงทิศทางการทำตลาดในประเทศไทยปีหน้าว่า ทางโบรเคดจะขายสินค้าผ่านทางพาร์ทเนอร์เป็นหลัก โดยปัจจุบันตัวแทนจำหน่ายอยู่ 2 ราย มีพาร์ทเนอร์ที่ดูทำตลาดตรงอีก 1 ราย และมีรีเซลเลอร์อีก 3-4 ราย
สำหรับตลาดที่มีศักยภาพและทางโบรเคดจะเน้นเป็นพิเศษนั้น นายสุรศักดิ์บอกว่า หน่วยงานภาครัฐ ธนาคาร เทเลคอมและกลุ่มบริษัททางด้านพลังงานเป็นตลาดที่เชื่อว่ามีการลงทุนสูง แต่จากการที่ทางโบรเคดเริ่มทยอยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้กลยุทธ์ "โบรเคด วัน" โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ในตลาดที่เป็นไอพีสวิตชิ่งนั้นสามารถนำไปใช้งานได้ตั้งแต่ธุรกิจที่เป็นเอสเอ็มอี ไล่ไปจนถึงโรงงานขนาดใหญ่
"เวลานี้โบรเคดประเทศไทยมีสัดส่วนยอดขายมาจากผลิตภัณฑ์ที่เป็นสตอเรจเน็ต เวิร์ก SAN ประมาณ 2 ใน 3 ที่เหลือเป็นยอดขายจากไอพีสวิตซิ่ง แต่หลังจากที่มีผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้เชื่อว่า น่าจะทำให้สัดส่วนการขายไอพีสวิตชิ่งครึ่งๆ กับสตอเรจเน็ตเวิร์ก SAN ได้อย่างแน่นอน"
Company Related Link :
Brocade
ที่มา: manager.co.th
