ล่าสุดทางเอชพีได้มีจดหมายประชาสัมพันธ์ประกาศถึงการลาออกจากตำแหน่งของ อลัน เซ็ดจีห์ โดยภายในจดหมายไม่มีการระบุถึงสาเหตุการลาออกแต่อย่างใด ข้อความส่วนใหญ่ในจดหมายประชาสัมพันธ์จะเป็นการกล่าวขอบคุณการทำงานอย่างทุ่มเทกว่า 6 เดือนที่ผ่านมาของอลัน จากตัวแทนของทีมผู้บริหาร
ข่าวลือสะพัด กรรมการผู้จัดการบริษัท ฮิวเล็ตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด ถูกปลดกลางอากาศหลังรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2551 (6 เดือน) เพราะถูกพนักงานร้องเรียนเรื่องสไตล์การทำงานไม่ตรงกับหลักการบริษัท บางกระแสระบุว่าเป็นการลาออกเนื่องจากปัญหาสุขภาพ ยังไม่มีแถลงการณ์จากเอชพีอย่างเป็นทางการในขณะนี้
เอชพีประกาศแต่งตั้ง "อลัน เซ็ดจีห์" ให้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการคนใหม่ของบริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด และเป็นผู้บริหารกลุ่มธุรกิจ เทคโนโลยี โซลูชั่นส์ กรุ๊ป ในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2551 แทน "สรรพัชญ โสภณ" ซึ่งได้ประกาศการตัดสินใจก่อนที่จะเกษียณอายุการทำงานจากเอชพีในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2552 เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจและการรับตำแหน่งในฐานะผู้นำองค์กรของเซ็ดจีห์จะเป็นไปอย่างราบรื่น
ความคืบหน้าล่าสุดคือ เซ็ดจีห์ได้ยื่นใบลาออกและมีผลทันทีตั้งแต่วันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา ระบุเหตุผลว่าเพื่อทำธุรกิจส่วนตัว โดยนายเบง เทค เลียง ผู้จัดการทั่วไปจากเอชพีประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น รักษาการตำแหน่งเอ็มดีเอชพีประเทศไทยแล้วในขณะนี้
ในจดหมายข่าวประชาสัมพันธ์ครั้งนั้นมีการระบุว่า เซ็ดจีห์มีการทำงานอย่างใกล้ชิดกับคุณสรรพัชญในช่วงการส่งมอบงานตลอดเดือนสิงหาคมถึงตุลาคม ขณะเดียวกัน ประสบการณ์ที่หลากหลายในด้านการบริหารงาน การขาย และการตลาดของเซ็ดจีห์ทำให้หลายฝ่ายมั่นใจว่าเซ็ดจีห์จะสามารถพัฒนาและต่อยอดความสำเร็จของเอชพีประเทศไทยได้อย่างดี โดยก่อนการเข้าร่วมงานกับเอชพี เซ็ดจีห์เคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจในต่างประเทศของบริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในประเทศไทย และยังเคยร่วมงานกับบริษัท เอสเอพี เป็นเวลากว่า 10 ปี หลังจากดำรงตำแหน่งหลากหลายในฝ่ายบริหารของบริษัทฯ
ยังไม่มีการแถลงข้อมูลอย่างเป็นทางการจากเอชพีในขณะนี้ โดยเฉพาะในกรณีว่าเซ็ดจีห์ถูกพนักงานร้องเรียนไปทางต้นสังกัดในต่างประเทศ เพราะไม่พอใจเรื่องการลงโทษปลดพนักงานที่จำหน่ายสินค้าไม่ได้ตามเป้าจริงหรือไม่ ขณะที่ข่าวอีกกระแสระบุว่า เซ็ดจีห์ได้ผ่าตัดกระดูกต้นคอ เพื่อใส่วัสดุไทเทเนียมแทนข้อต่อที่เสื่อม เซ็ดจีห์จึงต้องการพักผ่อนเพื่อให้วัสดุสามารถสมานกับร่างกายได้เร็วขึ้นตามที่แพทย์แนะนำ แต่สิ่งเดียวที่แน่นอนคือ เอชพีจะต้องเปิดตัวกรรมการผู้จัดการคนใหม่หลังจากสรรหาบุคคลที่เหมาะสมมารับตำแหน่งในอนาคต
เซ็ดจีห์สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาตรีทางด้านวิทยาศาสตร์ ในสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า จากมหาวิทยาลัย University of Kansas ประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนั้น เซ็ดจีห์ยังสำเร็จการศึกษาทางด้านการบริหารจากสถาบัน Australian Institute of Management และเคยเข้าร่วมโครงการอบรม Global Leadership ที่มหาวิทยาลัย INSEAD ในประเทศฝรั่งเศสด้วย
นอกจากนี้ในจดหมายประชาสัมพันธ์ดังกล่าว ยังมีการระบุด้วยว่า "เอชพีจะทำการสรรหาบุคคลเพื่อเข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการคนใหม่ในทันที บุคคลที่เหมาะสมจากทั้งภายในและภายนอกองค์กรจะได้รับการประเมินและพิจารณา และจะประกาศผู้เข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการคนใหม่ทันทีที่การตัดสินใจเสร็จสิ้นลง"
ที่มา: manager.co.th